บอสพอล สั่งจากคุก เอาผิด "ทนายตั้ม" กรรโชกทรัพย์ 7 ล้าน
.
กรณีที่การตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ถือว่าเป็นโอกาสและวิกฤติของเหล่าบรรดานักร้องเรียนและทนายความชื่อดังในเวลาเดียว แม้ช่วงหนึ่งทั้งนักร้องเรียนและทนายความที่มีแสงจะได้พาผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความ แต่ปรากฎว่าต่อเหล่านักร้องเรียนและทนายความต้องกลายมาเป็นผู้ถูกกล่าวหาแทนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
.
โดยนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้เดินหน้าเอาผิดนักร้องเรียนและทนายความ แยกออกเป็น 4 กรณี ได้แก่ เรื่องที่ 1.แจ้งความเอาผิดนักร้องสาว ก. กรณีบอสพอลถูกกรรโชกทรัพย์ทรัพย์ 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด
.
เรื่องที่ 2 อยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับทางนานเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จ ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับบอสพอล และนำข้อมูลที่อ้างว่าบอสพอลมีการเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งทางตำรวจได้มีการออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้
.
เรื่องที่ 3 บอสพอลก็มีการสั่งให้รวบรวมข้อมูล ในการดำเนินคดีกับทนายความชื่อดังคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในทนายดรีมทีม ซึ่งก่อนหน้าที่เหล่าบอสจะถูกจับกุมดำเนินคดี ทนายคนดังกล่าวมีการโทรศัพท์หาทางบอสพอลเพื่อเจรจาต่อรอง โดยกล่าวว่าให้ทางบอสพอลจ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับดิไอคอน โดยบอสพอลยังไม่ได้จ่ายจำนวนดังกล่าวไปแต่อย่างใด
.
ทีมทนายก็จะต้องไปตรวจสอบดูว่าจำนวนเงินดังกล่าวตรงกับความเสียหายของผู้เสียหายกลุ่มนี้หรือไม่ ทั้งนี้เลขาของบอสพอลได้มีการบันทึกเสียงขณะเจรจากันไว้ หากตนได้คลิปเสียงดังกล่าวจะดูความเหมาะสมแล้วจะเปิดเผยอีกครั้ง
.
ตอนนี้ทนายคนดังกล่าวก็คือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โดยได้ออกมายอมรับเองแล้ว แต่แถว่าเรียกเงินให้ผู้เสียหาย
.
เรื่องที่ 4 จะรวบรวมรายชื่อแม่ข่ายที่มีพฤติกรรมไปเชิญชวนผู้เสียหายเป็นตัวแทนจำหน่าย จากนั้นแม่ข่ายขัดผลประโยชน์กับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด แต่มาแอบอ้างว่าเป็นผู้เสียหายด้วย โดยจะนำเอกสารรายชื่อมาให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบต่อไป
..............
Sondhi X
.
กรณีที่การตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ถือว่าเป็นโอกาสและวิกฤติของเหล่าบรรดานักร้องเรียนและทนายความชื่อดังในเวลาเดียว แม้ช่วงหนึ่งทั้งนักร้องเรียนและทนายความที่มีแสงจะได้พาผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความ แต่ปรากฎว่าต่อเหล่านักร้องเรียนและทนายความต้องกลายมาเป็นผู้ถูกกล่าวหาแทนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
.
โดยนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้เดินหน้าเอาผิดนักร้องเรียนและทนายความ แยกออกเป็น 4 กรณี ได้แก่ เรื่องที่ 1.แจ้งความเอาผิดนักร้องสาว ก. กรณีบอสพอลถูกกรรโชกทรัพย์ทรัพย์ 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด
.
เรื่องที่ 2 อยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับทางนานเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จ ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับบอสพอล และนำข้อมูลที่อ้างว่าบอสพอลมีการเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งทางตำรวจได้มีการออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้
.
เรื่องที่ 3 บอสพอลก็มีการสั่งให้รวบรวมข้อมูล ในการดำเนินคดีกับทนายความชื่อดังคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในทนายดรีมทีม ซึ่งก่อนหน้าที่เหล่าบอสจะถูกจับกุมดำเนินคดี ทนายคนดังกล่าวมีการโทรศัพท์หาทางบอสพอลเพื่อเจรจาต่อรอง โดยกล่าวว่าให้ทางบอสพอลจ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับดิไอคอน โดยบอสพอลยังไม่ได้จ่ายจำนวนดังกล่าวไปแต่อย่างใด
.
ทีมทนายก็จะต้องไปตรวจสอบดูว่าจำนวนเงินดังกล่าวตรงกับความเสียหายของผู้เสียหายกลุ่มนี้หรือไม่ ทั้งนี้เลขาของบอสพอลได้มีการบันทึกเสียงขณะเจรจากันไว้ หากตนได้คลิปเสียงดังกล่าวจะดูความเหมาะสมแล้วจะเปิดเผยอีกครั้ง
.
ตอนนี้ทนายคนดังกล่าวก็คือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โดยได้ออกมายอมรับเองแล้ว แต่แถว่าเรียกเงินให้ผู้เสียหาย
.
เรื่องที่ 4 จะรวบรวมรายชื่อแม่ข่ายที่มีพฤติกรรมไปเชิญชวนผู้เสียหายเป็นตัวแทนจำหน่าย จากนั้นแม่ข่ายขัดผลประโยชน์กับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด แต่มาแอบอ้างว่าเป็นผู้เสียหายด้วย โดยจะนำเอกสารรายชื่อมาให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบต่อไป
..............
Sondhi X
บอสพอล สั่งจากคุก เอาผิด "ทนายตั้ม" กรรโชกทรัพย์ 7 ล้าน
.
กรณีที่การตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ถือว่าเป็นโอกาสและวิกฤติของเหล่าบรรดานักร้องเรียนและทนายความชื่อดังในเวลาเดียว แม้ช่วงหนึ่งทั้งนักร้องเรียนและทนายความที่มีแสงจะได้พาผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความ แต่ปรากฎว่าต่อเหล่านักร้องเรียนและทนายความต้องกลายมาเป็นผู้ถูกกล่าวหาแทนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
.
โดยนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้เดินหน้าเอาผิดนักร้องเรียนและทนายความ แยกออกเป็น 4 กรณี ได้แก่ เรื่องที่ 1.แจ้งความเอาผิดนักร้องสาว ก. กรณีบอสพอลถูกกรรโชกทรัพย์ทรัพย์ 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด
.
เรื่องที่ 2 อยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับทางนานเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จ ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับบอสพอล และนำข้อมูลที่อ้างว่าบอสพอลมีการเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งทางตำรวจได้มีการออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้
.
เรื่องที่ 3 บอสพอลก็มีการสั่งให้รวบรวมข้อมูล ในการดำเนินคดีกับทนายความชื่อดังคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในทนายดรีมทีม ซึ่งก่อนหน้าที่เหล่าบอสจะถูกจับกุมดำเนินคดี ทนายคนดังกล่าวมีการโทรศัพท์หาทางบอสพอลเพื่อเจรจาต่อรอง โดยกล่าวว่าให้ทางบอสพอลจ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับดิไอคอน โดยบอสพอลยังไม่ได้จ่ายจำนวนดังกล่าวไปแต่อย่างใด
.
ทีมทนายก็จะต้องไปตรวจสอบดูว่าจำนวนเงินดังกล่าวตรงกับความเสียหายของผู้เสียหายกลุ่มนี้หรือไม่ ทั้งนี้เลขาของบอสพอลได้มีการบันทึกเสียงขณะเจรจากันไว้ หากตนได้คลิปเสียงดังกล่าวจะดูความเหมาะสมแล้วจะเปิดเผยอีกครั้ง
.
ตอนนี้ทนายคนดังกล่าวก็คือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โดยได้ออกมายอมรับเองแล้ว แต่แถว่าเรียกเงินให้ผู้เสียหาย
.
เรื่องที่ 4 จะรวบรวมรายชื่อแม่ข่ายที่มีพฤติกรรมไปเชิญชวนผู้เสียหายเป็นตัวแทนจำหน่าย จากนั้นแม่ข่ายขัดผลประโยชน์กับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด แต่มาแอบอ้างว่าเป็นผู้เสียหายด้วย โดยจะนำเอกสารรายชื่อมาให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบต่อไป
..............
Sondhi X