รีโพสต์จากเพจ Main Stand
เปิดแผนธุรกิจสนามใหม่ของสโมสรฟุตบอลแมนฯยูไนเต็ด กระตุ้นเศรษฐกิจ 7.3 พันล้านปอนด์ต่อปี

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สโมสรฟุตบอลชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ทำการปรับปรุงรังเหย้าของพวกเขาใหม่เพื่อเพิ่มผลตอบแทนและเพิ่มมูลค่าสโมสร

และตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ มีแผนสร้างสนามใหม่ความจุ 100,000 ที่นั่ง มูลค่า 2 พันล้านปอนด์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2030

โดยสื่อธุรกิจอย่าง SSBM วิเคราะห์ว่าสนามใหม่ของ "ปีศาจแดง" ยุคที่ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ มาคุมงานบริหารฟุตบอล จะสามารถคืนทุนได้ภายใน 10-15 ปี หรือเร็วกว่านั้น ซึ่งอาศัยรายได้จากวันแข่งขันที่เพิ่มขึ้น กิจกรรมที่ไม่ใช่ฟุตบอล สปอนเซอร์เชิงพาณิชย์ และการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในระดับโลก แถมในระยะยาวสนามกีฬาแห่งใหม่และการพัฒนาโดยรอบคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ประจำปีของสโมสรได้ 100-150 ล้านปอนด์

ข้อดีที่เพิ่มขึ้นหากการสร้างสนามใหม่ของ แมนสเตอร์ ยูไนเต็ด เสร็จสิ้นและพร้อมใช้งาน มีดังนี้

- เพิ่มความจุจาก 74,000 เป็น 100,000 ที่นั่ง
- เก็บค่าตั๋วเกมในบ้านได้มากขึ้นเป็น 90-130 ล้านปอนด์/ปี (ราคาตั๋วอยู่ที่ราว 50-70 ปอนด์/ใบ)
- พัฒนาเขตการค้ารอบสนาม
- มีโรงแรม, อสังหาริมทรัพย์ และระบบขนส่งมวลชน
- สร้างงานเพิ่มขึ้น 92,000 ตำแหน่ง
- สร้างบ้านใหม่ 17,000 หลัง
- ดึงดูดนักท่องเที่ยว 1.8 ล้านคน/ปี

ทั้งนี้ โครงการสนามกีฬามูลค่า 2,000 ล้านปอนด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เกี่ยวกับฟุตบอลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างรากฐานทางการเงินที่ยั่งยืนสำหรับสโมสร ขยายการเข้าถึงทั่วโลก และฟื้นฟูเศรษฐกิจในท้องถิ่น โดยการคาดการณ์เบื้องต้นจากสโมสรระบุว่าสนามใหม่แห่งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 7.3 พันล้านปอนด์ต่อปี ในประเทศอังกฤษ”

ที่มา https://www.facebook.com/share/p/V3z3xY6oeka7uimz/?mibextid=CTbP7E

#Thaitimes
รีโพสต์จากเพจ Main Stand เปิดแผนธุรกิจสนามใหม่ของสโมสรฟุตบอลแมนฯยูไนเต็ด กระตุ้นเศรษฐกิจ 7.3 พันล้านปอนด์ต่อปี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สโมสรฟุตบอลชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ทำการปรับปรุงรังเหย้าของพวกเขาใหม่เพื่อเพิ่มผลตอบแทนและเพิ่มมูลค่าสโมสร และตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ มีแผนสร้างสนามใหม่ความจุ 100,000 ที่นั่ง มูลค่า 2 พันล้านปอนด์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2030 โดยสื่อธุรกิจอย่าง SSBM วิเคราะห์ว่าสนามใหม่ของ "ปีศาจแดง" ยุคที่ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ มาคุมงานบริหารฟุตบอล จะสามารถคืนทุนได้ภายใน 10-15 ปี หรือเร็วกว่านั้น ซึ่งอาศัยรายได้จากวันแข่งขันที่เพิ่มขึ้น กิจกรรมที่ไม่ใช่ฟุตบอล สปอนเซอร์เชิงพาณิชย์ และการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในระดับโลก แถมในระยะยาวสนามกีฬาแห่งใหม่และการพัฒนาโดยรอบคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ประจำปีของสโมสรได้ 100-150 ล้านปอนด์ ข้อดีที่เพิ่มขึ้นหากการสร้างสนามใหม่ของ แมนสเตอร์ ยูไนเต็ด เสร็จสิ้นและพร้อมใช้งาน มีดังนี้ - เพิ่มความจุจาก 74,000 เป็น 100,000 ที่นั่ง - เก็บค่าตั๋วเกมในบ้านได้มากขึ้นเป็น 90-130 ล้านปอนด์/ปี (ราคาตั๋วอยู่ที่ราว 50-70 ปอนด์/ใบ) - พัฒนาเขตการค้ารอบสนาม - มีโรงแรม, อสังหาริมทรัพย์ และระบบขนส่งมวลชน - สร้างงานเพิ่มขึ้น 92,000 ตำแหน่ง - สร้างบ้านใหม่ 17,000 หลัง - ดึงดูดนักท่องเที่ยว 1.8 ล้านคน/ปี ทั้งนี้ โครงการสนามกีฬามูลค่า 2,000 ล้านปอนด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เกี่ยวกับฟุตบอลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างรากฐานทางการเงินที่ยั่งยืนสำหรับสโมสร ขยายการเข้าถึงทั่วโลก และฟื้นฟูเศรษฐกิจในท้องถิ่น โดยการคาดการณ์เบื้องต้นจากสโมสรระบุว่าสนามใหม่แห่งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 7.3 พันล้านปอนด์ต่อปี ในประเทศอังกฤษ” ที่มา https://www.facebook.com/share/p/V3z3xY6oeka7uimz/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
Like
1
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว