เกาหลีใต้อาจพิจารณาป้อนอาวุธให้แก่ยูเครนโดยตรง ส่วนหนึ่งในมาตรการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร (22 ต.ค.) หลังกล่าวหาเปียงยางส่งทหารร่วมสู้รบเคียงข้างมอสโกในยูเครน
.
หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า เกาหลีเหนือส่งบุคลากรกองกำลังพิเศษ 1,500 นาย เข้าไปยังภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เพื่อฝึกฝนและทำความเคยชินกับสภาพอากาศ ณ ฐานทัพท้องถิ่นหลายแห่ง ในความเป็นไปได้ที่จะร่วมสู้รบในสงครามในยูเครน
.
เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งประจำทำเนียบประธานาธิบดียุน ซอกยอล ระบุว่า พวกเขากำลังเตรียมการมาตรการทางการทูต เศรษฐกิจและทหาร ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ในความร่วมมือด้านการทหารระหว่างเปียงยางและมอสโก ในนั้นรวมถึงการจัดหาอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน หากสถานการณ์เลวร้ายลง
.
"เราจะพิจารณาจัดหาอาวุธสำหรับวัตถุประสงค์ป้องกันตนเอง แล้วแต่สถานการณ์ และถ้ามันดูเหมือนว่าพวกเขาจะกระทำการเลยเถิดจนเกินไป เราอาจพิจารณาป้อนอาวุธสำหรับการจู่โจมเช่นกัน" เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้บอกกับพวกผู้สื่อข่าว
.
โซล ซึ่งผงาดขึ้นมาในฐานะผู้ผลิตอาวุธชั้นนำ ถูกกดดันมานานจากประเทศตะวันตกบางชาติและเคียฟ ให้มอบอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน แต่ที่ผ่านมา พวกเขามุ่งเน้นไปที่การมอบความช่วยเหลือที่ไม่เข่นฆ่าชีวิต ในนั้นรวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับปลดชนวนกับระเบิด
.
ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เคยบอกว่า พวกเขาจะพิจารณาทบทวนใหม่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการมอบอาวุธแก่ยูเครน หลังจากเกาหลีเหนือและรัสเซีย ลงนามในข้อตกลงกลาโหมร่วมเมื่อเดือนมิถุนายน แต่ความคิดเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าโซลเริ่มมีความกระตือรือร้นที่จะป้อนอาวุธแก่ยูเครน
.
ความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงมีขึ้นหลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ (เอ็นเอสซี) จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย
.
เอ็นเอสซีระบุว่าเปียงยางทำตัวเหมือน "องค์กรอาชญากรรม" ด้วยการส่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปร่วมสู้รบ ในฐานะทหารรับจ้างของรัสเซีย เพิกเฉยต่อชีวิตความเป็นอยู่และสิทธิมนุษยชนของประชาชนในบ้านเกิดเมืองนอน
.
"รัฐบาลของเราเรียกร้องให้ถอนทหารเกาหลีเหนือออกมาในทันที และถ้าการสมคบคิดทางทหารในปัจจุบันระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไป เราจะไม่นั่งดูเฉยๆ และเราจะตอบโต้อย่างจริงจังร่วมกับประชาคมนานาชาติ" เกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลง
.
เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้บอกว่าคณะทำงานเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและกลาโหม จะเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของนาโต ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และมาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต กล่าวระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดียุน เมื่อวันจันทร์ (21 ต.ค.) ร้องขอให้ส่งผู้แทนทูตไปยังสำนักงานใหญ่นาโต เพื่อยกระดับการแบ่งปันข้อมูล
.
ทั้งรัสเซีย และเกาหลีเหนือปฏิเสธคำกล่าวหาเกี่ยวกับการป้อนอาวุธ แต่ประกาศยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหาร
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102037
..............
Sondhi X
เกาหลีใต้อาจพิจารณาป้อนอาวุธให้แก่ยูเครนโดยตรง ส่วนหนึ่งในมาตรการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร (22 ต.ค.) หลังกล่าวหาเปียงยางส่งทหารร่วมสู้รบเคียงข้างมอสโกในยูเครน . หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า เกาหลีเหนือส่งบุคลากรกองกำลังพิเศษ 1,500 นาย เข้าไปยังภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เพื่อฝึกฝนและทำความเคยชินกับสภาพอากาศ ณ ฐานทัพท้องถิ่นหลายแห่ง ในความเป็นไปได้ที่จะร่วมสู้รบในสงครามในยูเครน . เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งประจำทำเนียบประธานาธิบดียุน ซอกยอล ระบุว่า พวกเขากำลังเตรียมการมาตรการทางการทูต เศรษฐกิจและทหาร ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ในความร่วมมือด้านการทหารระหว่างเปียงยางและมอสโก ในนั้นรวมถึงการจัดหาอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน หากสถานการณ์เลวร้ายลง . "เราจะพิจารณาจัดหาอาวุธสำหรับวัตถุประสงค์ป้องกันตนเอง แล้วแต่สถานการณ์ และถ้ามันดูเหมือนว่าพวกเขาจะกระทำการเลยเถิดจนเกินไป เราอาจพิจารณาป้อนอาวุธสำหรับการจู่โจมเช่นกัน" เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้บอกกับพวกผู้สื่อข่าว . โซล ซึ่งผงาดขึ้นมาในฐานะผู้ผลิตอาวุธชั้นนำ ถูกกดดันมานานจากประเทศตะวันตกบางชาติและเคียฟ ให้มอบอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน แต่ที่ผ่านมา พวกเขามุ่งเน้นไปที่การมอบความช่วยเหลือที่ไม่เข่นฆ่าชีวิต ในนั้นรวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับปลดชนวนกับระเบิด . ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เคยบอกว่า พวกเขาจะพิจารณาทบทวนใหม่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการมอบอาวุธแก่ยูเครน หลังจากเกาหลีเหนือและรัสเซีย ลงนามในข้อตกลงกลาโหมร่วมเมื่อเดือนมิถุนายน แต่ความคิดเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าโซลเริ่มมีความกระตือรือร้นที่จะป้อนอาวุธแก่ยูเครน . ความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงมีขึ้นหลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ (เอ็นเอสซี) จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย . เอ็นเอสซีระบุว่าเปียงยางทำตัวเหมือน "องค์กรอาชญากรรม" ด้วยการส่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปร่วมสู้รบ ในฐานะทหารรับจ้างของรัสเซีย เพิกเฉยต่อชีวิตความเป็นอยู่และสิทธิมนุษยชนของประชาชนในบ้านเกิดเมืองนอน . "รัฐบาลของเราเรียกร้องให้ถอนทหารเกาหลีเหนือออกมาในทันที และถ้าการสมคบคิดทางทหารในปัจจุบันระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไป เราจะไม่นั่งดูเฉยๆ และเราจะตอบโต้อย่างจริงจังร่วมกับประชาคมนานาชาติ" เกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลง . เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้บอกว่าคณะทำงานเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและกลาโหม จะเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของนาโต ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และมาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต กล่าวระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดียุน เมื่อวันจันทร์ (21 ต.ค.) ร้องขอให้ส่งผู้แทนทูตไปยังสำนักงานใหญ่นาโต เพื่อยกระดับการแบ่งปันข้อมูล . ทั้งรัสเซีย และเกาหลีเหนือปฏิเสธคำกล่าวหาเกี่ยวกับการป้อนอาวุธ แต่ประกาศยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหาร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102037 .............. Sondhi X
Like
Haha
5
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1242 มุมมอง 0 รีวิว