ดร.กมล กมลตระกูลโพสต์ประเด็น“ เทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศจีนตอนนี้คือ Luxury Shame หรือ ความน่าละอายของชีวิตหรู
กล่าวคือ ผู้คนรู้สึกกันว่าการใช้สินค้าแบรนด์เนมนั้นคือสิ่งน่าอาย ยิ่งถือกระเป๋าหรือแต่งตัวด้วยสินค้าหรู ใช้รถราคาแพงเท่าไร ก็ยิ่งน่าละอายเท่านั้น
สื่ออเมริกันบอกว่า เทรนด์นี้เกิดขึ้นเพราะผู้นำจีนคือ ท่านสี จิ้นผิง และรัฐบาลจีน ได้ออกมารณรงค์ให้ผู้บริหารองค์กรใหญ่ๆของจีน รวมทั้งธนาคารใหญ่ๆในฮ่องกง ให้เลิกสวมเสื้อผ้าและนาฬิกาหรู ให้งดการเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจในสถานที่หรูหราจัดงาน และลดโบนัสก้อนโต
คนจีนที่มีสตางค์ในเวลานี้นิยมแต่งตัวที่มีรสนิยมหรูเรียบๆ มากกว่าแต่งตัวแบบเรียกร้องความสนใจ
ก็คือยังใช้ของแพงหรือแบรนด์เนมอยู่ตามฐานะ แต่ไม่ใช่รุ่นที่แพงระยับสะกดสายตาผู้คน
โดยผู้นำจีนได้ทำตัวให้เป็นตัวอย่างด้วย
บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนที่อวดและขายสินค้าแบรนด์เนมที่ราคาแพงเว่อร์ ก็ถูกทางการจีนสกัดดาวรุ่งไปแล้ว
ศัพท์ที่เขาใช้เรียกอินฟลูแบรนด์เนมเหล่านี้คือ Wealth Fluanting ครับ มีความหมายว่า ”พวกอวดรวยให้คนอิจฉา“
จิตวิทยาของสินค้าหรูหราราคาแพง คือ เป็นสินค้าที่ผู้ใช้ต้องการแสดงตัวในสังคมว่าเป็นคนมีฐานะดี มีชื่อเสียงหรือประสบความสำเร็จ แต่ถ้าหากสังคมมองว่าสินค้านั้นคือความน่าอาย ต้องการแสดงความแตกต่าง ความสูงส่ง เหนือผู้คนในสังคม คนที่เคยซื้อเขาก็เลิกซื้อ เพราะซื้อไปก็ไม่ได้อวดใคร
แถมยังอาจตกเป็นเป้าสายตาของทางการอีก ด้วย ดีไม่ดีอาจจะถูกตรวจสอบที่มาของเงินการจ่ายภาษีย้อนหลังอีกด้วย
เทรนด์ในจีนตอนนี้ก็คือ ”Quiet Luxury“ หรือ “หรูหราแบบเงียบ ” ครับ
สื่ออเมริกันเขาบอกว่า จีนได้ใช้นโยบายนี้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของฐานะในสังคม ฟังดูแล้วผมก็ว่าดีนะ เพราะขนาดสื่ออเมริกันที่ปกติจะเหน็บจีนยังบอกว่า คนจีนนั้นฉลาดในการใช้เงินมากขึ้นเยอะ
...แชร์ มาเล่าสู่กันฟังครับ…”
ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/D5Lvch3RTrXrH6K9/?mibextid=CTbP7E
#Thaitimes
กล่าวคือ ผู้คนรู้สึกกันว่าการใช้สินค้าแบรนด์เนมนั้นคือสิ่งน่าอาย ยิ่งถือกระเป๋าหรือแต่งตัวด้วยสินค้าหรู ใช้รถราคาแพงเท่าไร ก็ยิ่งน่าละอายเท่านั้น
สื่ออเมริกันบอกว่า เทรนด์นี้เกิดขึ้นเพราะผู้นำจีนคือ ท่านสี จิ้นผิง และรัฐบาลจีน ได้ออกมารณรงค์ให้ผู้บริหารองค์กรใหญ่ๆของจีน รวมทั้งธนาคารใหญ่ๆในฮ่องกง ให้เลิกสวมเสื้อผ้าและนาฬิกาหรู ให้งดการเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจในสถานที่หรูหราจัดงาน และลดโบนัสก้อนโต
คนจีนที่มีสตางค์ในเวลานี้นิยมแต่งตัวที่มีรสนิยมหรูเรียบๆ มากกว่าแต่งตัวแบบเรียกร้องความสนใจ
ก็คือยังใช้ของแพงหรือแบรนด์เนมอยู่ตามฐานะ แต่ไม่ใช่รุ่นที่แพงระยับสะกดสายตาผู้คน
โดยผู้นำจีนได้ทำตัวให้เป็นตัวอย่างด้วย
บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนที่อวดและขายสินค้าแบรนด์เนมที่ราคาแพงเว่อร์ ก็ถูกทางการจีนสกัดดาวรุ่งไปแล้ว
ศัพท์ที่เขาใช้เรียกอินฟลูแบรนด์เนมเหล่านี้คือ Wealth Fluanting ครับ มีความหมายว่า ”พวกอวดรวยให้คนอิจฉา“
จิตวิทยาของสินค้าหรูหราราคาแพง คือ เป็นสินค้าที่ผู้ใช้ต้องการแสดงตัวในสังคมว่าเป็นคนมีฐานะดี มีชื่อเสียงหรือประสบความสำเร็จ แต่ถ้าหากสังคมมองว่าสินค้านั้นคือความน่าอาย ต้องการแสดงความแตกต่าง ความสูงส่ง เหนือผู้คนในสังคม คนที่เคยซื้อเขาก็เลิกซื้อ เพราะซื้อไปก็ไม่ได้อวดใคร
แถมยังอาจตกเป็นเป้าสายตาของทางการอีก ด้วย ดีไม่ดีอาจจะถูกตรวจสอบที่มาของเงินการจ่ายภาษีย้อนหลังอีกด้วย
เทรนด์ในจีนตอนนี้ก็คือ ”Quiet Luxury“ หรือ “หรูหราแบบเงียบ ” ครับ
สื่ออเมริกันเขาบอกว่า จีนได้ใช้นโยบายนี้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของฐานะในสังคม ฟังดูแล้วผมก็ว่าดีนะ เพราะขนาดสื่ออเมริกันที่ปกติจะเหน็บจีนยังบอกว่า คนจีนนั้นฉลาดในการใช้เงินมากขึ้นเยอะ
...แชร์ มาเล่าสู่กันฟังครับ…”
ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/D5Lvch3RTrXrH6K9/?mibextid=CTbP7E
#Thaitimes
ดร.กมล กมลตระกูลโพสต์ประเด็น“ เทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศจีนตอนนี้คือ Luxury Shame หรือ ความน่าละอายของชีวิตหรู
กล่าวคือ ผู้คนรู้สึกกันว่าการใช้สินค้าแบรนด์เนมนั้นคือสิ่งน่าอาย ยิ่งถือกระเป๋าหรือแต่งตัวด้วยสินค้าหรู ใช้รถราคาแพงเท่าไร ก็ยิ่งน่าละอายเท่านั้น
สื่ออเมริกันบอกว่า เทรนด์นี้เกิดขึ้นเพราะผู้นำจีนคือ ท่านสี จิ้นผิง และรัฐบาลจีน ได้ออกมารณรงค์ให้ผู้บริหารองค์กรใหญ่ๆของจีน รวมทั้งธนาคารใหญ่ๆในฮ่องกง ให้เลิกสวมเสื้อผ้าและนาฬิกาหรู ให้งดการเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจในสถานที่หรูหราจัดงาน และลดโบนัสก้อนโต
คนจีนที่มีสตางค์ในเวลานี้นิยมแต่งตัวที่มีรสนิยมหรูเรียบๆ มากกว่าแต่งตัวแบบเรียกร้องความสนใจ
ก็คือยังใช้ของแพงหรือแบรนด์เนมอยู่ตามฐานะ แต่ไม่ใช่รุ่นที่แพงระยับสะกดสายตาผู้คน
โดยผู้นำจีนได้ทำตัวให้เป็นตัวอย่างด้วย
บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนที่อวดและขายสินค้าแบรนด์เนมที่ราคาแพงเว่อร์ ก็ถูกทางการจีนสกัดดาวรุ่งไปแล้ว
ศัพท์ที่เขาใช้เรียกอินฟลูแบรนด์เนมเหล่านี้คือ Wealth Fluanting ครับ มีความหมายว่า ”พวกอวดรวยให้คนอิจฉา“
จิตวิทยาของสินค้าหรูหราราคาแพง คือ เป็นสินค้าที่ผู้ใช้ต้องการแสดงตัวในสังคมว่าเป็นคนมีฐานะดี มีชื่อเสียงหรือประสบความสำเร็จ แต่ถ้าหากสังคมมองว่าสินค้านั้นคือความน่าอาย ต้องการแสดงความแตกต่าง ความสูงส่ง เหนือผู้คนในสังคม คนที่เคยซื้อเขาก็เลิกซื้อ เพราะซื้อไปก็ไม่ได้อวดใคร
แถมยังอาจตกเป็นเป้าสายตาของทางการอีก ด้วย ดีไม่ดีอาจจะถูกตรวจสอบที่มาของเงินการจ่ายภาษีย้อนหลังอีกด้วย
เทรนด์ในจีนตอนนี้ก็คือ ”Quiet Luxury“ หรือ “หรูหราแบบเงียบ ” ครับ
สื่ออเมริกันเขาบอกว่า จีนได้ใช้นโยบายนี้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของฐานะในสังคม ฟังดูแล้วผมก็ว่าดีนะ เพราะขนาดสื่ออเมริกันที่ปกติจะเหน็บจีนยังบอกว่า คนจีนนั้นฉลาดในการใช้เงินมากขึ้นเยอะ
...แชร์ มาเล่าสู่กันฟังครับ…”
ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/D5Lvch3RTrXrH6K9/?mibextid=CTbP7E
#Thaitimes