“...พระมหากรุณาธิคุณที่ผมและวงดนตรีได้รับพระราชทานมานี้ไม่มีทางใดที่จะใช้เป็นมาตร ที่จะวัด หรือคำนวณความใหญ่หลวงได้ เพราะว่าพระมหากรุณาธิคุณที่หลั่งพระราชทานมานั้นยิ่งใหญ่และพรั่งพร้อม
ประการแรกเป็นพระมหากรุณาในฐานะองค์พระประมุขแห่งชาติและของชาวไทย
ประการที่สองเป็นพระมหากรุณาที่พระราชทานเป็นส่วนพระองค์
ประการที่สามเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานในฐานะที่กระผมเป็นศิลปินนักดนตรี
และประการสุดท้ายในฐานะที่กระผมเป็นข้าใต้เบื้องพระบาท ซึ่งผมเชื่อว่าจะไม่มีพระมหากษัตริย์องค์ใด ที่ทรงพระกรุณานักดนตรีที่ต่ำต้อย เช่นอย่างกระผมเท่านี้ เช่นนี้จึงเป็นพระมหากรุณาที่แม้ผมหรือนักดนตรีในวงนี้จะได้ตายแล้วเกิดใหม่อีกสักกี่ชาติ เราก็จะหาทางสนองพระมหากรุณาธิคุณให้สมสาใจได้
แม้เพียงเมื่อเช้านี้ ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้กระผมและนักดนตรีเข้าเฝ้าพระราชทานพรและพระราชทานน้ำสังข์ ทำให้กระผมปลื้มปิติอย่างสุดที่จะพรรณนาได้ ผมรู้สึกว่าหยาดน้ำสังข์ที่หลั่งมาบนหัวนั้น ได้ไหลซึมเข้ามาสู่ดวงใจของกระผมจนกระทั่งแทบจะหายใจไม่ออกด้วยความตื้นตันใจ และพระราชทานกระแสรับสั่ง และพรที่พระราชทานก็เช่นกัน ก้องเข้ามาในหูมากังวาลอยู่ในสมองอย่างที่ในชีวิตนี้จะมิมีทางเสื่อมเสียงกังวาลได้
ผมและพวกชาวคณะสุนทราภรณ์ทุกคนถือว่านอกจากเราจะได้รับพระราชทานพรจากพระมหาราช ที่ยิ่งใหญ่ด้วยพระบารมีคุณแล้ว
กระผมยังรู้สึกว่าได้รับพระราชทานพรจากนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ ที่เราบูชา บูชาทั้งพระกรุณาธิคุณ พระเกียรติคุณ บูชาน้ำพระราชหทัยและบูชาฝีพระหัตถ์ในเชิงนักดนตรี ซึ่งจัดว่ากระผมกับพวกได้รับพรและน้ำมนต์ที่ได้หลั่งจากพระหัตถ์ครูด้วยโดยแท้ จะหาสิ่งใดที่เป็นมิ่งมงคลที่ยิ่งกว่านี้มิได้แล้ว
กระผมกับบรรดาศิลปินนักดนตรีจึงขอตั้งสัตยอธิษฐาน ขอให้องค์สมเด็จพระมหาราช สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระราชโอรสธิดา จงทรงพระเจริญยิ่ง ๆ และตลอดไป ตราบเท่าที่มนุษย์ยังรู้จักฟังเสียงดนตรี เทอญ...“
คำกล่าวของครูเอื้อ สุนทรสนาน
ในโอกาสครบ 30 ปี วงดนตรีสุนทราภรณ์
ออกอากาศทางช่อง 4 บางขุนพรหม
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2512
ที่มา : เพจ เพลินเพลงเก่า สุนทราภรณ์
https://www.facebook.com/share/GHk6mUnvTEUJrFD6/?mibextid=CTbP7E
#Thaitimes
ประการแรกเป็นพระมหากรุณาในฐานะองค์พระประมุขแห่งชาติและของชาวไทย
ประการที่สองเป็นพระมหากรุณาที่พระราชทานเป็นส่วนพระองค์
ประการที่สามเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานในฐานะที่กระผมเป็นศิลปินนักดนตรี
และประการสุดท้ายในฐานะที่กระผมเป็นข้าใต้เบื้องพระบาท ซึ่งผมเชื่อว่าจะไม่มีพระมหากษัตริย์องค์ใด ที่ทรงพระกรุณานักดนตรีที่ต่ำต้อย เช่นอย่างกระผมเท่านี้ เช่นนี้จึงเป็นพระมหากรุณาที่แม้ผมหรือนักดนตรีในวงนี้จะได้ตายแล้วเกิดใหม่อีกสักกี่ชาติ เราก็จะหาทางสนองพระมหากรุณาธิคุณให้สมสาใจได้
แม้เพียงเมื่อเช้านี้ ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้กระผมและนักดนตรีเข้าเฝ้าพระราชทานพรและพระราชทานน้ำสังข์ ทำให้กระผมปลื้มปิติอย่างสุดที่จะพรรณนาได้ ผมรู้สึกว่าหยาดน้ำสังข์ที่หลั่งมาบนหัวนั้น ได้ไหลซึมเข้ามาสู่ดวงใจของกระผมจนกระทั่งแทบจะหายใจไม่ออกด้วยความตื้นตันใจ และพระราชทานกระแสรับสั่ง และพรที่พระราชทานก็เช่นกัน ก้องเข้ามาในหูมากังวาลอยู่ในสมองอย่างที่ในชีวิตนี้จะมิมีทางเสื่อมเสียงกังวาลได้
ผมและพวกชาวคณะสุนทราภรณ์ทุกคนถือว่านอกจากเราจะได้รับพระราชทานพรจากพระมหาราช ที่ยิ่งใหญ่ด้วยพระบารมีคุณแล้ว
กระผมยังรู้สึกว่าได้รับพระราชทานพรจากนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ ที่เราบูชา บูชาทั้งพระกรุณาธิคุณ พระเกียรติคุณ บูชาน้ำพระราชหทัยและบูชาฝีพระหัตถ์ในเชิงนักดนตรี ซึ่งจัดว่ากระผมกับพวกได้รับพรและน้ำมนต์ที่ได้หลั่งจากพระหัตถ์ครูด้วยโดยแท้ จะหาสิ่งใดที่เป็นมิ่งมงคลที่ยิ่งกว่านี้มิได้แล้ว
กระผมกับบรรดาศิลปินนักดนตรีจึงขอตั้งสัตยอธิษฐาน ขอให้องค์สมเด็จพระมหาราช สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระราชโอรสธิดา จงทรงพระเจริญยิ่ง ๆ และตลอดไป ตราบเท่าที่มนุษย์ยังรู้จักฟังเสียงดนตรี เทอญ...“
คำกล่าวของครูเอื้อ สุนทรสนาน
ในโอกาสครบ 30 ปี วงดนตรีสุนทราภรณ์
ออกอากาศทางช่อง 4 บางขุนพรหม
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2512
ที่มา : เพจ เพลินเพลงเก่า สุนทราภรณ์
https://www.facebook.com/share/GHk6mUnvTEUJrFD6/?mibextid=CTbP7E
#Thaitimes
“...พระมหากรุณาธิคุณที่ผมและวงดนตรีได้รับพระราชทานมานี้ไม่มีทางใดที่จะใช้เป็นมาตร ที่จะวัด หรือคำนวณความใหญ่หลวงได้ เพราะว่าพระมหากรุณาธิคุณที่หลั่งพระราชทานมานั้นยิ่งใหญ่และพรั่งพร้อม
ประการแรกเป็นพระมหากรุณาในฐานะองค์พระประมุขแห่งชาติและของชาวไทย
ประการที่สองเป็นพระมหากรุณาที่พระราชทานเป็นส่วนพระองค์
ประการที่สามเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานในฐานะที่กระผมเป็นศิลปินนักดนตรี
และประการสุดท้ายในฐานะที่กระผมเป็นข้าใต้เบื้องพระบาท ซึ่งผมเชื่อว่าจะไม่มีพระมหากษัตริย์องค์ใด ที่ทรงพระกรุณานักดนตรีที่ต่ำต้อย เช่นอย่างกระผมเท่านี้ เช่นนี้จึงเป็นพระมหากรุณาที่แม้ผมหรือนักดนตรีในวงนี้จะได้ตายแล้วเกิดใหม่อีกสักกี่ชาติ เราก็จะหาทางสนองพระมหากรุณาธิคุณให้สมสาใจได้
แม้เพียงเมื่อเช้านี้ ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้กระผมและนักดนตรีเข้าเฝ้าพระราชทานพรและพระราชทานน้ำสังข์ ทำให้กระผมปลื้มปิติอย่างสุดที่จะพรรณนาได้ ผมรู้สึกว่าหยาดน้ำสังข์ที่หลั่งมาบนหัวนั้น ได้ไหลซึมเข้ามาสู่ดวงใจของกระผมจนกระทั่งแทบจะหายใจไม่ออกด้วยความตื้นตันใจ และพระราชทานกระแสรับสั่ง และพรที่พระราชทานก็เช่นกัน ก้องเข้ามาในหูมากังวาลอยู่ในสมองอย่างที่ในชีวิตนี้จะมิมีทางเสื่อมเสียงกังวาลได้
ผมและพวกชาวคณะสุนทราภรณ์ทุกคนถือว่านอกจากเราจะได้รับพระราชทานพรจากพระมหาราช ที่ยิ่งใหญ่ด้วยพระบารมีคุณแล้ว
กระผมยังรู้สึกว่าได้รับพระราชทานพรจากนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ ที่เราบูชา บูชาทั้งพระกรุณาธิคุณ พระเกียรติคุณ บูชาน้ำพระราชหทัยและบูชาฝีพระหัตถ์ในเชิงนักดนตรี ซึ่งจัดว่ากระผมกับพวกได้รับพรและน้ำมนต์ที่ได้หลั่งจากพระหัตถ์ครูด้วยโดยแท้ จะหาสิ่งใดที่เป็นมิ่งมงคลที่ยิ่งกว่านี้มิได้แล้ว
กระผมกับบรรดาศิลปินนักดนตรีจึงขอตั้งสัตยอธิษฐาน ขอให้องค์สมเด็จพระมหาราช สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระราชโอรสธิดา จงทรงพระเจริญยิ่ง ๆ และตลอดไป ตราบเท่าที่มนุษย์ยังรู้จักฟังเสียงดนตรี เทอญ...“
คำกล่าวของครูเอื้อ สุนทรสนาน
ในโอกาสครบ 30 ปี วงดนตรีสุนทราภรณ์
ออกอากาศทางช่อง 4 บางขุนพรหม
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2512
ที่มา : เพจ เพลินเพลงเก่า สุนทราภรณ์
https://www.facebook.com/share/GHk6mUnvTEUJrFD6/?mibextid=CTbP7E
#Thaitimes