มาดูเรื่องของช่างก่อหินสองคนกันครับ คุณเดินเข้าไปหาช่างก่อหินคนแรก และถามว่า “คุณชอบงานที่ทำไหม” เขาเงยหน้าขึ้นมามองคุณและตอบ ว่า “ผมสร้างกำแพงนี้มานานมากแล้ว ช่างเป็นงานที่จืดชืดสิ้นดี แถมฉันยังต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานกลางแดดทั้งวัน หินก็โคตรหนักต้องมาแบกทุกวันแบบนี้เล่นเอาหลังแทบหัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำแพงจะเสร็จก่อนผมตายหรือเปล่า แต่มันคืองานไม่ทำก็ไม่มีกิน” คุณขอบคุณเขาที่สละ เวลาตอบคำถามแล้วเดินต่อไป

จากนั้นคุณเดินเข้าไปหาช่างก่อหินคนที่สองซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลแล้วถามคำถามเดียวกันว่า “คุณชอบงานที่ทำใหม” เขาเงยหน้าขึ้นมาและตอบว่า “ผมรักงานของผม ผมกำลังสร้างมหาวิหาร จริงอยู่ที่ผมสร้าง กำแพงนี้มานานมากแล้ว แถมหลาย ๆ ครั้งงานก็จืดชืด ผมทำงานท่าม กลางแสงแดดแผดเผาทั้งวัน ต้องยกหินหนัก ๆ วันแล้ววันเล่าจนเหนื่อย แทบขาดใจ ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ากำแพงจะเสร็จก่อนผมตายหรือเปล่า แต่ผมกำลังสร้างมหาวิหารเชียวนะ"

จากหนังสือ Start With Why
มาดูเรื่องของช่างก่อหินสองคนกันครับ คุณเดินเข้าไปหาช่างก่อหินคนแรก และถามว่า “คุณชอบงานที่ทำไหม” เขาเงยหน้าขึ้นมามองคุณและตอบ ว่า “ผมสร้างกำแพงนี้มานานมากแล้ว ช่างเป็นงานที่จืดชืดสิ้นดี แถมฉันยังต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานกลางแดดทั้งวัน หินก็โคตรหนักต้องมาแบกทุกวันแบบนี้เล่นเอาหลังแทบหัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำแพงจะเสร็จก่อนผมตายหรือเปล่า แต่มันคืองานไม่ทำก็ไม่มีกิน” คุณขอบคุณเขาที่สละ เวลาตอบคำถามแล้วเดินต่อไป จากนั้นคุณเดินเข้าไปหาช่างก่อหินคนที่สองซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลแล้วถามคำถามเดียวกันว่า “คุณชอบงานที่ทำใหม” เขาเงยหน้าขึ้นมาและตอบว่า “ผมรักงานของผม ผมกำลังสร้างมหาวิหาร จริงอยู่ที่ผมสร้าง กำแพงนี้มานานมากแล้ว แถมหลาย ๆ ครั้งงานก็จืดชืด ผมทำงานท่าม กลางแสงแดดแผดเผาทั้งวัน ต้องยกหินหนัก ๆ วันแล้ววันเล่าจนเหนื่อย แทบขาดใจ ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ากำแพงจะเสร็จก่อนผมตายหรือเปล่า แต่ผมกำลังสร้างมหาวิหารเชียวนะ" จากหนังสือ Start With Why
Like
1
0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews