#จับอาการทักษิณกับข่าวลือยุบพรรค
เป็นที่น่าจับตาการอาการแปลกๆ หลังจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตั้งแต่บุตรสาวอดีตนช.ทักษิณ ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย
ทักษิณ แสดงอาการไม่กลัวใคร ตัดสัมพันธ์วงษ์สุวรรณ และการรวมเสียงพรรคร่วมตั้งรัฐบาลได้ผ่านฉลุย รวมถึงการแสดงความเก๋า แก้เกมส์การเมืองจนลุงป้อมไปไม่เป็น สร้างสถานการณ์จนทำให้เสี่ยแป้งต้องตัดลุงอย่างไม่ใยดี
-แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวลือสะพัด กับการหายหน้าไปจากพื้นที่สื่อของทักษิณ ไปไกลกระทั่งลือว่าทักษิณหลบไปเป็นคนต่างด้าว ณ ต่างแดน แต่ก็มีการสยบข่าวลือ ด้วยการเข้าพบของเสี่ยหนู และเนวิน จนเปิดวาทะกรรม ไม่เคยพูดคำว่า "จบแล้วครับนาย" โดยอนุทินยังเน้นหน้าลอยๆให้สัมภาษณ์ว่า ลูกน้องจะไปพูดแบบนี้กับเจ้านายตัวเองได้อย่างไร แต่ถึงแม้กระนั้นก็ยังไม่เห็นเงาทักษิณออกมาให้เห็นหน้าซึ่งผิดปกติวิสัยอย่างยิ่งสำหรับคนชื่อทักษิณชินวัตร
-มีข่าวที่ไม่ใช่ข่าวลือชุดต่อมา ว่าทักษิณ ได้ทำการขอนุญาตออกนอกประเทศ 2 วาระ ที่แรกคือ ประเทศอินโดยนีเซีย และวาระที่สองคือสหรัฐ ซึ่งวงการข่าวสารก็จะรับรู้ว่า การขอออกนอกประเทศของทักษิณ ส่วนใหญ่ จะมาพร้อมกับข่าววงใน ที่พบว่ามีความเสี่ยง มีความไม่แน่นอน ที่ควรจะออกไปตั้งหลักนอกประเทศก่อน
-จึงเกิดคำถามว่า เหตุปัจจัยใดที่จะทำให้ทักษิณ ต้องหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดในเกมส์นี้ได้บ้าง ก็พบว่า
1. กรณี ป๋วยทิพย์ จากชั้น 14 มาถึงการแสดงออกถึงร่างกายที่แข็งแรงดุจพญาช้างสาร โดยไม่แคร์ผู้รับรอง ตั้งแต่ราชทัณฑ์ รพ.ตร. แพทย์ และทุกคนในกระบวนการที่ช่วยให้ทักษิณ ไม่ต้องเดินเข้าประตูตารางแม้แต่นาทีเดียว และยังเฉิดฉายแสดงบารมีอย่างไม่หวั่นเกรงสายตาของคนที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณในอดีต
2. กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ กับแผ่นดินธรณีสงฆ์ ที่แม้มีการให้สัมภาษณ์จากนักกฏหมายหลายคนจะออกมาในแนวทางที่ว่า เรื่องนี้ไม่สร้างผลกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาลแน่นอนก็ตาม และผู้ร้องก็ถูกด้อยค่าต่างๆนาๆก็ตาม แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการ กลไกการทำงานเพื่อแสวงหาความจริงกลับพบปัจจัยที่มีน้ำหนักเพียงพอ ที่จะเข้าสู่การพิจารณา
3. กรณีบ้านจันทร์ส่องหล้า กับการเอ่ยถึงคลิปเสียง หรือคลิปภาพ ที่เห็นการบัญชาการของทักษิณ ที่มีต่อพรรคร่วม รวมถึงการใช้อำนาจในการสั่งการพรรคร่วม ไปทำสัญญาใจในการสนับสนุนบุตรสาวให้ได้ตำรงค์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เข้าข่ายการครอบงำพรรคการเมือง แต่ภาพข่าวที่ออกมาก็ยังค้านสายตาประชาชนทั้งประเทศ และตัวนายทักษิณ ก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์เย้ยอีกว่า ไม่ได้ครอบงำ แต่ตนเองครอบครอง เพราะเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี ซ้ำยังมีการแต่งตั้ง ผู้มีพระคุณต่อทักษิณ ได้เข้ามาดำรงค์ตำแหน่งสำคัญอย่างมากมาย โดยล่าสุด คือตำแหน่งที่ปรึกษานายก ที่มีจำนวนมากเท่ากับทีมฟุตซอล อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งหมดล้วนมีประวัติศาสตร์ในการรับใช้นายใหญ่ ที่ชื่อทักษิณทั้งสิ้น
คิงส์โพธิ์ดำ จึงนำข้อมูลต่างๆมานำเสนอไว้ เพื่อหากเกิดเหตุทักษิณหายตัวไปจริงๆวันใด จะได้ทราบที่มาที่ไป ว่ามีอาการใดที่ผิดสังเกตุ กับข่าวความเคลื่อนไหวของทักษิณ ณ วันนี้
#คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
เป็นที่น่าจับตาการอาการแปลกๆ หลังจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตั้งแต่บุตรสาวอดีตนช.ทักษิณ ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย
ทักษิณ แสดงอาการไม่กลัวใคร ตัดสัมพันธ์วงษ์สุวรรณ และการรวมเสียงพรรคร่วมตั้งรัฐบาลได้ผ่านฉลุย รวมถึงการแสดงความเก๋า แก้เกมส์การเมืองจนลุงป้อมไปไม่เป็น สร้างสถานการณ์จนทำให้เสี่ยแป้งต้องตัดลุงอย่างไม่ใยดี
-แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวลือสะพัด กับการหายหน้าไปจากพื้นที่สื่อของทักษิณ ไปไกลกระทั่งลือว่าทักษิณหลบไปเป็นคนต่างด้าว ณ ต่างแดน แต่ก็มีการสยบข่าวลือ ด้วยการเข้าพบของเสี่ยหนู และเนวิน จนเปิดวาทะกรรม ไม่เคยพูดคำว่า "จบแล้วครับนาย" โดยอนุทินยังเน้นหน้าลอยๆให้สัมภาษณ์ว่า ลูกน้องจะไปพูดแบบนี้กับเจ้านายตัวเองได้อย่างไร แต่ถึงแม้กระนั้นก็ยังไม่เห็นเงาทักษิณออกมาให้เห็นหน้าซึ่งผิดปกติวิสัยอย่างยิ่งสำหรับคนชื่อทักษิณชินวัตร
-มีข่าวที่ไม่ใช่ข่าวลือชุดต่อมา ว่าทักษิณ ได้ทำการขอนุญาตออกนอกประเทศ 2 วาระ ที่แรกคือ ประเทศอินโดยนีเซีย และวาระที่สองคือสหรัฐ ซึ่งวงการข่าวสารก็จะรับรู้ว่า การขอออกนอกประเทศของทักษิณ ส่วนใหญ่ จะมาพร้อมกับข่าววงใน ที่พบว่ามีความเสี่ยง มีความไม่แน่นอน ที่ควรจะออกไปตั้งหลักนอกประเทศก่อน
-จึงเกิดคำถามว่า เหตุปัจจัยใดที่จะทำให้ทักษิณ ต้องหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดในเกมส์นี้ได้บ้าง ก็พบว่า
1. กรณี ป๋วยทิพย์ จากชั้น 14 มาถึงการแสดงออกถึงร่างกายที่แข็งแรงดุจพญาช้างสาร โดยไม่แคร์ผู้รับรอง ตั้งแต่ราชทัณฑ์ รพ.ตร. แพทย์ และทุกคนในกระบวนการที่ช่วยให้ทักษิณ ไม่ต้องเดินเข้าประตูตารางแม้แต่นาทีเดียว และยังเฉิดฉายแสดงบารมีอย่างไม่หวั่นเกรงสายตาของคนที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณในอดีต
2. กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ กับแผ่นดินธรณีสงฆ์ ที่แม้มีการให้สัมภาษณ์จากนักกฏหมายหลายคนจะออกมาในแนวทางที่ว่า เรื่องนี้ไม่สร้างผลกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาลแน่นอนก็ตาม และผู้ร้องก็ถูกด้อยค่าต่างๆนาๆก็ตาม แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการ กลไกการทำงานเพื่อแสวงหาความจริงกลับพบปัจจัยที่มีน้ำหนักเพียงพอ ที่จะเข้าสู่การพิจารณา
3. กรณีบ้านจันทร์ส่องหล้า กับการเอ่ยถึงคลิปเสียง หรือคลิปภาพ ที่เห็นการบัญชาการของทักษิณ ที่มีต่อพรรคร่วม รวมถึงการใช้อำนาจในการสั่งการพรรคร่วม ไปทำสัญญาใจในการสนับสนุนบุตรสาวให้ได้ตำรงค์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เข้าข่ายการครอบงำพรรคการเมือง แต่ภาพข่าวที่ออกมาก็ยังค้านสายตาประชาชนทั้งประเทศ และตัวนายทักษิณ ก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์เย้ยอีกว่า ไม่ได้ครอบงำ แต่ตนเองครอบครอง เพราะเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี ซ้ำยังมีการแต่งตั้ง ผู้มีพระคุณต่อทักษิณ ได้เข้ามาดำรงค์ตำแหน่งสำคัญอย่างมากมาย โดยล่าสุด คือตำแหน่งที่ปรึกษานายก ที่มีจำนวนมากเท่ากับทีมฟุตซอล อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งหมดล้วนมีประวัติศาสตร์ในการรับใช้นายใหญ่ ที่ชื่อทักษิณทั้งสิ้น
คิงส์โพธิ์ดำ จึงนำข้อมูลต่างๆมานำเสนอไว้ เพื่อหากเกิดเหตุทักษิณหายตัวไปจริงๆวันใด จะได้ทราบที่มาที่ไป ว่ามีอาการใดที่ผิดสังเกตุ กับข่าวความเคลื่อนไหวของทักษิณ ณ วันนี้
#คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
#จับอาการทักษิณกับข่าวลือยุบพรรค
เป็นที่น่าจับตาการอาการแปลกๆ หลังจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตั้งแต่บุตรสาวอดีตนช.ทักษิณ ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย
ทักษิณ แสดงอาการไม่กลัวใคร ตัดสัมพันธ์วงษ์สุวรรณ และการรวมเสียงพรรคร่วมตั้งรัฐบาลได้ผ่านฉลุย รวมถึงการแสดงความเก๋า แก้เกมส์การเมืองจนลุงป้อมไปไม่เป็น สร้างสถานการณ์จนทำให้เสี่ยแป้งต้องตัดลุงอย่างไม่ใยดี
-แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวลือสะพัด กับการหายหน้าไปจากพื้นที่สื่อของทักษิณ ไปไกลกระทั่งลือว่าทักษิณหลบไปเป็นคนต่างด้าว ณ ต่างแดน แต่ก็มีการสยบข่าวลือ ด้วยการเข้าพบของเสี่ยหนู และเนวิน จนเปิดวาทะกรรม ไม่เคยพูดคำว่า "จบแล้วครับนาย" โดยอนุทินยังเน้นหน้าลอยๆให้สัมภาษณ์ว่า ลูกน้องจะไปพูดแบบนี้กับเจ้านายตัวเองได้อย่างไร แต่ถึงแม้กระนั้นก็ยังไม่เห็นเงาทักษิณออกมาให้เห็นหน้าซึ่งผิดปกติวิสัยอย่างยิ่งสำหรับคนชื่อทักษิณชินวัตร
-มีข่าวที่ไม่ใช่ข่าวลือชุดต่อมา ว่าทักษิณ ได้ทำการขอนุญาตออกนอกประเทศ 2 วาระ ที่แรกคือ ประเทศอินโดยนีเซีย และวาระที่สองคือสหรัฐ ซึ่งวงการข่าวสารก็จะรับรู้ว่า การขอออกนอกประเทศของทักษิณ ส่วนใหญ่ จะมาพร้อมกับข่าววงใน ที่พบว่ามีความเสี่ยง มีความไม่แน่นอน ที่ควรจะออกไปตั้งหลักนอกประเทศก่อน
-จึงเกิดคำถามว่า เหตุปัจจัยใดที่จะทำให้ทักษิณ ต้องหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดในเกมส์นี้ได้บ้าง ก็พบว่า
1. กรณี ป๋วยทิพย์ จากชั้น 14 มาถึงการแสดงออกถึงร่างกายที่แข็งแรงดุจพญาช้างสาร โดยไม่แคร์ผู้รับรอง ตั้งแต่ราชทัณฑ์ รพ.ตร. แพทย์ และทุกคนในกระบวนการที่ช่วยให้ทักษิณ ไม่ต้องเดินเข้าประตูตารางแม้แต่นาทีเดียว และยังเฉิดฉายแสดงบารมีอย่างไม่หวั่นเกรงสายตาของคนที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณในอดีต
2. กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ กับแผ่นดินธรณีสงฆ์ ที่แม้มีการให้สัมภาษณ์จากนักกฏหมายหลายคนจะออกมาในแนวทางที่ว่า เรื่องนี้ไม่สร้างผลกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาลแน่นอนก็ตาม และผู้ร้องก็ถูกด้อยค่าต่างๆนาๆก็ตาม แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการ กลไกการทำงานเพื่อแสวงหาความจริงกลับพบปัจจัยที่มีน้ำหนักเพียงพอ ที่จะเข้าสู่การพิจารณา
3. กรณีบ้านจันทร์ส่องหล้า กับการเอ่ยถึงคลิปเสียง หรือคลิปภาพ ที่เห็นการบัญชาการของทักษิณ ที่มีต่อพรรคร่วม รวมถึงการใช้อำนาจในการสั่งการพรรคร่วม ไปทำสัญญาใจในการสนับสนุนบุตรสาวให้ได้ตำรงค์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เข้าข่ายการครอบงำพรรคการเมือง แต่ภาพข่าวที่ออกมาก็ยังค้านสายตาประชาชนทั้งประเทศ และตัวนายทักษิณ ก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์เย้ยอีกว่า ไม่ได้ครอบงำ แต่ตนเองครอบครอง เพราะเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี ซ้ำยังมีการแต่งตั้ง ผู้มีพระคุณต่อทักษิณ ได้เข้ามาดำรงค์ตำแหน่งสำคัญอย่างมากมาย โดยล่าสุด คือตำแหน่งที่ปรึกษานายก ที่มีจำนวนมากเท่ากับทีมฟุตซอล อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งหมดล้วนมีประวัติศาสตร์ในการรับใช้นายใหญ่ ที่ชื่อทักษิณทั้งสิ้น
คิงส์โพธิ์ดำ จึงนำข้อมูลต่างๆมานำเสนอไว้ เพื่อหากเกิดเหตุทักษิณหายตัวไปจริงๆวันใด จะได้ทราบที่มาที่ไป ว่ามีอาการใดที่ผิดสังเกตุ กับข่าวความเคลื่อนไหวของทักษิณ ณ วันนี้
#คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน