กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยพวกเขาพร้อมเต็มพิกัดสำหรับการตอบโต้ หลังเกาหลีเหนือสั่งการทหารตามแนวชายแดนให้อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมสำหรับเปิดฉากยิง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนระอุขึ้นอย่างฉับพลันในคาบสมุทรเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากโซลส่งโดรนบินไปถึงกรุงเปียงยางเมื่อเร็วๆนี้
.
เกาหลีเหนือ ชาติติดอาวุธนิวเคลียร์ กล่าวหาโซลส่งโดรนบินเหนือเมืองหลวงของพวกเขา เพื่อปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อที่เต็มไปด้วยข่าวลือที่อันเป็นเท็จและไร้สาระ พร้อมเตือนในวันอาทิตย์(13ต.ค.) ว่าพวกเขาจะพิจารณาว่ามันเท่ากับเป็นการประกาศสงคราม หากว่ามีการตรวจพบโดรนอีกรอบ
.
กองทัพเกาหลีใต้ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังโดรนเหล่านั้น ในขณะที่พวกนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ ดำเนินการมาช้านานในการส่งโฆษณาชวนเชื่อต่างๆนานา ส่วนใหญ่ผ่านการปล่อยลูกโป่ง มุ่งหน้าขึ้นสู่ทางเหนือ
.
แม้พวกเจ้าหน้าที่มีความพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่บรรดานักเคลื่อนไหวเกาเหลีใต้มักปล่อยลูกโป่งที่ลอยไปได้ไกล บรรจุใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านผู้นำเกาหลีเหนือและเนื้อหาอื่นๆ ในนั้นรวมถึงอุปกรณ์ยูเอสบีที่บรรจุเพลงเค-ป็อป และซีรีส์เกาหลี ข้ามชายแดนเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ในกลยุทธ์ที่ทางเกาหลีเหนือประท้วงด้วยความเดือดดาลมาตลอด
.
อย่างไรก็ตามเกาหลีเหนือยืนยันว่าโซลต้องเป็นผู้รับผิดชอบอย่างเป็นทางการ และแถลงในช่วงเย็นวันอาทิตย์(13ต.ค.) ว่าได้สั่งการให้กองพันทหารปืนใหญ่ 8 กองพัน ที่เตรียมตัวสำหรับทำสงครามอยู่ก่อนแล้ว "ให้พร้อมอย่างเต็มพิกัดในการเปิดฉากยิง" และเสริมกำลังตามป้อมสังเกตการณ์ทางอากาศในกรุงเปียงยาง
.
"กองทัพของเรากำลังจับตาสถานการณ์และพร้อมอย่างเต็มกำลัง" โฆษกของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้กล่าวระหว่างแถลงข่าว
.
ขณะเดียวกันสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือ รายงานว่าท่านผู้นำคิม จองอึน เรียกประชุมด้านความมั่นคงแห่งชาติในวันจันทร์(14ต.ค.) พร้อมสั่งการให้วางแผนหนึ่งๆ สำหรับปฏิบติการทางทหารในทันที ในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดกับเกาหลีใต้พุ่งสูงขึ้น
.
การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นในกรุงเปียงยาง และมีบรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของประเทศเข้าร่วม ในนั้นรวมถึงผู้บัญชาการกองทัพและเจ้าหน้าที่ทหารอื่นๆ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐและกระทรวงกลาโหม
.
เปียงยางอ้างว่าโดรนโฆษณาชวนเชื่อแทรกซึมเข้ามาในน่านฟ้าเมืองหลวงของพวกเขาถึง 3 ครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะที่ คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของ คิม จองอึน ขุ่เกาหลีใต้ว่าจะต้องเจอกับหายนะอันน่าสยดสยองหากไม่ยอมหยุดการกระทำดังกล่าว
.
เสขาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ในวันจันทร์(14ต.ค.) ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่ากองทัพโซลอยู่เบื้องหลังการส่งโดรนข้ามชายแดน แต่เรียกคำกล่าวหาของเกาหลีเหนือว่า "น่าละอาย"
.
"เกาหลีเหนือไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มาของโดรนลำหนึ่งเหนือน่านฟ้าเปียงยางได้ด้วยซ้ำ แต่กลับมากล่าวโทษเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันพวกเขาปิดปากเงียบ กรณีที่วางโดรนมุ่งหน้ามาทางทิศใต้มาแล้วกว่า 10 รอบ" โฆษกเสขาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ระบุ
.
ในวันจันทร์(14ต.ค.) กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยด้วยว่าดูเหมือนเกาหลีเหนือกำลังเตรียมการระเบิดถนนสายต่างๆที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้ ไม่กี่วันหลังจากเปียงยางบอกว่าพวกเขาจะปิดผนึกชายแดน
.
กองทัพประชาชนเกาหลีเหนือแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ามาตรการนี้จะช่วยแยกดินแดนเกาหลีเหนือจากเกาหลีใต้โดยสิ้นเชิง ขณะที่โฆษกของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ สันนิษฐานว่าการระเบิดถนนน่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์(14ต.ค.)
.
กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ระบุว่าคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับโดรน อาจเป็นความพยายามของเกาหลีเหนือในการยกระดับความเป็นหนึ่งเดียวกันภายชาติ ขณะเดียวกันเกาหลีเหนืออาจกำลังมองหาข้ออ้างสำหรับ "ก่อการยั่วยุ สร้างความหวาดวิตกและความสับสนในสังคมของเรา"
.
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งมองว่าผู้อยู่เบื้องหลังโดรนดังกล่าวน่าจะเป็นพวกนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ มากว่าที่จะเป็นการจัดฉากของเกาหลีเหนือ เพราะว่าในถ้อยแถลงของเปียงยาง อีกด้านหนึ่งก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่ามาตรการคุ้มกันทางอากาศของพวกเขานั้นมีช่องโหว่
.
"แม้กระทั่งหากมันเป็นความพยายามจัดฉากของพวกเขา มันเท่ากับเป็นการเปิดเผยให้เห็นถึงความอ่อนแออย่างมากในน่านฟ้าต่างๆของตนเอง" ยาง อุค นักวิจัยจากสถาบันเอเชียเพื่อการศึกษานโยบายกล่าว
.
ตระกูลคิม พึ่งพิงการควบคุมข้อมูลข่าวสารโดยสิ้นเชิงเพื่อรักษาอำนาจไว้ โดยที่ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือและข้อมูลข่าวสารจากภายนอก "หากการส่งข้อมูลผ่านโดรนกลายเป็นกิจกรรมที่เป็นปกติมากขึ้นเรื่อยๆ มันจะเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับเกาหลีเหนือ" ยาง กล่าว
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099223
..............
Sondhi X
กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยพวกเขาพร้อมเต็มพิกัดสำหรับการตอบโต้ หลังเกาหลีเหนือสั่งการทหารตามแนวชายแดนให้อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมสำหรับเปิดฉากยิง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนระอุขึ้นอย่างฉับพลันในคาบสมุทรเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากโซลส่งโดรนบินไปถึงกรุงเปียงยางเมื่อเร็วๆนี้ . เกาหลีเหนือ ชาติติดอาวุธนิวเคลียร์ กล่าวหาโซลส่งโดรนบินเหนือเมืองหลวงของพวกเขา เพื่อปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อที่เต็มไปด้วยข่าวลือที่อันเป็นเท็จและไร้สาระ พร้อมเตือนในวันอาทิตย์(13ต.ค.) ว่าพวกเขาจะพิจารณาว่ามันเท่ากับเป็นการประกาศสงคราม หากว่ามีการตรวจพบโดรนอีกรอบ . กองทัพเกาหลีใต้ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังโดรนเหล่านั้น ในขณะที่พวกนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ ดำเนินการมาช้านานในการส่งโฆษณาชวนเชื่อต่างๆนานา ส่วนใหญ่ผ่านการปล่อยลูกโป่ง มุ่งหน้าขึ้นสู่ทางเหนือ . แม้พวกเจ้าหน้าที่มีความพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่บรรดานักเคลื่อนไหวเกาเหลีใต้มักปล่อยลูกโป่งที่ลอยไปได้ไกล บรรจุใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านผู้นำเกาหลีเหนือและเนื้อหาอื่นๆ ในนั้นรวมถึงอุปกรณ์ยูเอสบีที่บรรจุเพลงเค-ป็อป และซีรีส์เกาหลี ข้ามชายแดนเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ในกลยุทธ์ที่ทางเกาหลีเหนือประท้วงด้วยความเดือดดาลมาตลอด . อย่างไรก็ตามเกาหลีเหนือยืนยันว่าโซลต้องเป็นผู้รับผิดชอบอย่างเป็นทางการ และแถลงในช่วงเย็นวันอาทิตย์(13ต.ค.) ว่าได้สั่งการให้กองพันทหารปืนใหญ่ 8 กองพัน ที่เตรียมตัวสำหรับทำสงครามอยู่ก่อนแล้ว "ให้พร้อมอย่างเต็มพิกัดในการเปิดฉากยิง" และเสริมกำลังตามป้อมสังเกตการณ์ทางอากาศในกรุงเปียงยาง . "กองทัพของเรากำลังจับตาสถานการณ์และพร้อมอย่างเต็มกำลัง" โฆษกของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้กล่าวระหว่างแถลงข่าว . ขณะเดียวกันสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือ รายงานว่าท่านผู้นำคิม จองอึน เรียกประชุมด้านความมั่นคงแห่งชาติในวันจันทร์(14ต.ค.) พร้อมสั่งการให้วางแผนหนึ่งๆ สำหรับปฏิบติการทางทหารในทันที ในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดกับเกาหลีใต้พุ่งสูงขึ้น . การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นในกรุงเปียงยาง และมีบรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของประเทศเข้าร่วม ในนั้นรวมถึงผู้บัญชาการกองทัพและเจ้าหน้าที่ทหารอื่นๆ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐและกระทรวงกลาโหม . เปียงยางอ้างว่าโดรนโฆษณาชวนเชื่อแทรกซึมเข้ามาในน่านฟ้าเมืองหลวงของพวกเขาถึง 3 ครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะที่ คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของ คิม จองอึน ขุ่เกาหลีใต้ว่าจะต้องเจอกับหายนะอันน่าสยดสยองหากไม่ยอมหยุดการกระทำดังกล่าว . เสขาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ในวันจันทร์(14ต.ค.) ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่ากองทัพโซลอยู่เบื้องหลังการส่งโดรนข้ามชายแดน แต่เรียกคำกล่าวหาของเกาหลีเหนือว่า "น่าละอาย" . "เกาหลีเหนือไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มาของโดรนลำหนึ่งเหนือน่านฟ้าเปียงยางได้ด้วยซ้ำ แต่กลับมากล่าวโทษเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันพวกเขาปิดปากเงียบ กรณีที่วางโดรนมุ่งหน้ามาทางทิศใต้มาแล้วกว่า 10 รอบ" โฆษกเสขาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ระบุ . ในวันจันทร์(14ต.ค.) กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยด้วยว่าดูเหมือนเกาหลีเหนือกำลังเตรียมการระเบิดถนนสายต่างๆที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้ ไม่กี่วันหลังจากเปียงยางบอกว่าพวกเขาจะปิดผนึกชายแดน . กองทัพประชาชนเกาหลีเหนือแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ามาตรการนี้จะช่วยแยกดินแดนเกาหลีเหนือจากเกาหลีใต้โดยสิ้นเชิง ขณะที่โฆษกของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ สันนิษฐานว่าการระเบิดถนนน่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์(14ต.ค.) . กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ระบุว่าคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับโดรน อาจเป็นความพยายามของเกาหลีเหนือในการยกระดับความเป็นหนึ่งเดียวกันภายชาติ ขณะเดียวกันเกาหลีเหนืออาจกำลังมองหาข้ออ้างสำหรับ "ก่อการยั่วยุ สร้างความหวาดวิตกและความสับสนในสังคมของเรา" . อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งมองว่าผู้อยู่เบื้องหลังโดรนดังกล่าวน่าจะเป็นพวกนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ มากว่าที่จะเป็นการจัดฉากของเกาหลีเหนือ เพราะว่าในถ้อยแถลงของเปียงยาง อีกด้านหนึ่งก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่ามาตรการคุ้มกันทางอากาศของพวกเขานั้นมีช่องโหว่ . "แม้กระทั่งหากมันเป็นความพยายามจัดฉากของพวกเขา มันเท่ากับเป็นการเปิดเผยให้เห็นถึงความอ่อนแออย่างมากในน่านฟ้าต่างๆของตนเอง" ยาง อุค นักวิจัยจากสถาบันเอเชียเพื่อการศึกษานโยบายกล่าว . ตระกูลคิม พึ่งพิงการควบคุมข้อมูลข่าวสารโดยสิ้นเชิงเพื่อรักษาอำนาจไว้ โดยที่ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือและข้อมูลข่าวสารจากภายนอก "หากการส่งข้อมูลผ่านโดรนกลายเป็นกิจกรรมที่เป็นปกติมากขึ้นเรื่อยๆ มันจะเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับเกาหลีเหนือ" ยาง กล่าว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099223 .............. Sondhi X
Like
Sad
10
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 901 มุมมอง 0 รีวิว