จีนยื่นฟ้องสหภาพยุโรป EU ต่อองค์การการค้าโลก ( WTO) กรณีEUเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 37.6% จ่อเป็นคดีสงครามการค้าใหญ่

9 สิงหาคม 2567-รายงานสำนักข่าวซินหัวระบุว่า กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ว่า จีนสงวนสิทธิ์ในการยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ในกรณีสหภาพยุโรป (EU)จะจัดเก็บภาษีชั่วคราวการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีน พบขาดทั้งข้อเท็จจริงและฐานทางกฎหมาย

โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน นาย เฮ่อ หยาตง แถลงข่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำลายสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของอุตสาหกรรม EV ของจีนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่างจีนและยุโรปในด้านยานยนต์พลังงานใหม่ และบิดเบือนอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกและห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงในสหภาพยุโรปด้วย

การกระทำดังกล่าวถือเป็น “การคุ้มครองทางการค้าอย่างโจ่งแจ้ง” และสงสัยว่าเป็นการละเมิดกฎของ WTO และจีนจะใช้มาตรการทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริษัทจีน

จีนเรียกร้องให้สหภาพยุโรปแก้ไขการกระทำผิดโดยทันที ปฏิบัติตามฉันทามติที่สำคัญที่ได้มาจากการประชุมไตรภาคีจีน-ฝรั่งเศส-สหภาพยุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ และแก้ไขความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและการค้าผ่านการเจรจา

ทั้งนี้เมื่อวันพุธที่7ส.ค. คณะกรรมาธิการยุโรปได้ออกแถลงการณ์เปิดเผยล่วงหน้าถึงระดับภาษีศุลกากรชั่วคราวที่คณะกรรมาธิการจะกำหนดต่อการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน

การเก็บภาษีรถไฟฟ้าจีนเช่นรถไฟฟ้า SAICของจีนถึง 37.6%ถือเป็นอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ที่เพิ่มจากอัตรามาตรฐาน 10% ของสหภาพยุโรป

สำหรับ SAIC หรือ Shanghai Automotive Industry Corporation เป็นเครือยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน โดยมีเจ้าของเป็นรัฐบาลจีน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1955 เป็น 1 ใน 4 แบรนด์ค่ายยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน โดยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วยแบรนด์ MG.

ภาษีชั่วคราวระหว่าง 17.4% ถึง 37.6% ของคณะกรรมาธิการยุโรปที่ไม่มีการย้อนหลังนั้นออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป นาง Ursula von der Leyen กล่าวว่ารถไฟฟ้าราคาถูกของจีนที่ผลิตขึ้นโดยได้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีน ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม ถือเป็นภัยคุกคาม

ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม คณะกรรมาธิการยุโรปได้กำหนดภาษีเพิ่มเติมชั่วคราวกับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ของจีนสูงถึง 37.6 เปอร์เซ็นต์ คณะกรรมาธิการอ้างว่าการตัดสินใจดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากการสืบสวนที่สรุปได้ว่าเงินอุดหนุนเป็นประโยชน์ต่อห่วงโซ่คุณค่า BEV ของจีน ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจต่อผู้ผลิตในสหภาพยุโรป

การที่สหภาพยุโรปจัดเก็บภาษีนำเข้ารถไฟฟ้าของจีนสูงถึง 37.6% ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสหภาพยุโรปและจีนรุนแรงขึ้นและก่อให้เกิดคดีการค้าครั้งใหญ่ที่สุด

#Thaitimes
จีนยื่นฟ้องสหภาพยุโรป EU ต่อองค์การการค้าโลก ( WTO) กรณีEUเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 37.6% จ่อเป็นคดีสงครามการค้าใหญ่ 9 สิงหาคม 2567-รายงานสำนักข่าวซินหัวระบุว่า กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ว่า จีนสงวนสิทธิ์ในการยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ในกรณีสหภาพยุโรป (EU)จะจัดเก็บภาษีชั่วคราวการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีน พบขาดทั้งข้อเท็จจริงและฐานทางกฎหมาย โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน นาย เฮ่อ หยาตง แถลงข่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำลายสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของอุตสาหกรรม EV ของจีนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่างจีนและยุโรปในด้านยานยนต์พลังงานใหม่ และบิดเบือนอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกและห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงในสหภาพยุโรปด้วย การกระทำดังกล่าวถือเป็น “การคุ้มครองทางการค้าอย่างโจ่งแจ้ง” และสงสัยว่าเป็นการละเมิดกฎของ WTO และจีนจะใช้มาตรการทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริษัทจีน จีนเรียกร้องให้สหภาพยุโรปแก้ไขการกระทำผิดโดยทันที ปฏิบัติตามฉันทามติที่สำคัญที่ได้มาจากการประชุมไตรภาคีจีน-ฝรั่งเศส-สหภาพยุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ และแก้ไขความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและการค้าผ่านการเจรจา ทั้งนี้เมื่อวันพุธที่7ส.ค. คณะกรรมาธิการยุโรปได้ออกแถลงการณ์เปิดเผยล่วงหน้าถึงระดับภาษีศุลกากรชั่วคราวที่คณะกรรมาธิการจะกำหนดต่อการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน การเก็บภาษีรถไฟฟ้าจีนเช่นรถไฟฟ้า SAICของจีนถึง 37.6%ถือเป็นอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ที่เพิ่มจากอัตรามาตรฐาน 10% ของสหภาพยุโรป สำหรับ SAIC หรือ Shanghai Automotive Industry Corporation เป็นเครือยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน โดยมีเจ้าของเป็นรัฐบาลจีน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1955 เป็น 1 ใน 4 แบรนด์ค่ายยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน โดยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วยแบรนด์ MG. ภาษีชั่วคราวระหว่าง 17.4% ถึง 37.6% ของคณะกรรมาธิการยุโรปที่ไม่มีการย้อนหลังนั้นออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป นาง Ursula von der Leyen กล่าวว่ารถไฟฟ้าราคาถูกของจีนที่ผลิตขึ้นโดยได้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีน ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม ถือเป็นภัยคุกคาม ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม คณะกรรมาธิการยุโรปได้กำหนดภาษีเพิ่มเติมชั่วคราวกับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ของจีนสูงถึง 37.6 เปอร์เซ็นต์ คณะกรรมาธิการอ้างว่าการตัดสินใจดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากการสืบสวนที่สรุปได้ว่าเงินอุดหนุนเป็นประโยชน์ต่อห่วงโซ่คุณค่า BEV ของจีน ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจต่อผู้ผลิตในสหภาพยุโรป การที่สหภาพยุโรปจัดเก็บภาษีนำเข้ารถไฟฟ้าของจีนสูงถึง 37.6% ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสหภาพยุโรปและจีนรุนแรงขึ้นและก่อให้เกิดคดีการค้าครั้งใหญ่ที่สุด #Thaitimes
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 521 มุมมอง 0 รีวิว