โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง……“จากสนธิ ลิ้มทองกุล ถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์"
.
ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" เมื่อวันพุธที่2ตุลาคมที่ผ่านมา ผมพูดจาโดยตรงกับท่านนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ที่ท่านพูดโอดครวญว่าทำงานยังไม่ถึงเดือนเลย ผมจะมาไล่ท่านแล้วหรือ ท่านใช้ความเป็นเด็ก ความน่าสงสาร ทำให้ตัวท่านเหมือนกับถูกผู้ใหญ่อย่างผมรังแก ฟังเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้รังแกอะไรเขา เขาทำตัวเขาเองทั้งสิ้น
.
ท่านนายกฯ แพทองธารครับ ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องใช้สติปัญญาในการพิจารณาข้อความ เรื่องราวต่างๆ ของท่าน ท่านอย่าไปเที่ยวให้นักข่าวถามท่าน หรือว่าให้คนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี
.
ในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ผมบอกว่าผมจะทำ 3 เรื่อง -เรื่องแรกที่ผมจะทำก็คือว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ผมจะไปยื่นขอความเป็นธรรมกับกรณีที่ผมโดนลอบสังหาร เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 โดนยิง 200 นัด บาดเจ็บสาหัส จากวันนั้นถึงวันนี้คดีความไม่ไปไหนเลย
.
-เรื่องที่สอง เรื่องปริมาณพม่าลี้ภัยเข้ามาในเมืองไทยเยอะเหลือเกิน สมุทรปราการ มหาชัย แม่สอดกลายเป็นเมืองพม่า พม่าเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการหลายกิจการ อันนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ พรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แห่ง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงมหาดไทย แล้วเรามีพรรคการเมือง คือ พรรคประชาชน (พม่า) หนุนหลังพวกลี้ภัยพม่าพวกนี้ทั้งหมดเลย นี่คือความเป็นห่วงที่ผมมีอยู่ นั่นคือจดหมายคำร้องเรียนเรื่องที่สองที่จะตามไป
.
เรื่องสุดท้ายผมบอกว่าผมจะติดตามการทำงานของท่านนายกฯ แพทองธารตลอดเวลา แล้วถ้าท่านทำถูกต้อง ผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขายชาติ ขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กับเขมร ซึ่งท่านนายกฯ แพทองธารก็ต้องรู้ว่า ตระกูล "ชินวัตร" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อของท่าน มีความสนิทสนมกับสมเด็จฮุน เซน มาก
.
ตรงนี้ถ้าท่านนายกฯ ไม่ลงมาจัดการหรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมเบ็ดเสร็จ รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่า ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านนายกฯ
.
แต่ถ้าท่านยังรักพ่อมากกว่ารักชาติ ซึ่งเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่ประหลาดใจ ทิศทางมันน่าจะไปทางด้านนั้น แต่ผมบอกท่านนายกฯแล้วหลายเรื่องนะ การคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใสในการทำงาน ความที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมที่ควรจะได้รับ เหมือนผมโดนยิงไปแล้ว 12 ปี ไม่ได้รับความยุติธรรม ผมกำลังจะทดสอบท่านว่าท่านจะหาความยุติธรรมให้ผมได้หรือเปล่า มีที่ไหน โดนลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม 200 นัด 12 ปีแล้ว เรื่องราวไม่ได้ไปไหนเลย
.
แต่ที่สำคัญที่สุด นอกเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ท่านต้องไม่ขายชาติ ท่านต้องไม่ยกแผ่นดินเกาะกูดให้กับเขมร เพื่อแลกกับสิทธิในการขุดน้ำมันด้วยกัน พื้นที่ทับซ้อนในทะเลเขมรยอมรับว่าที่นี้เป็นที่ของไทย ไม่รุกเข้ามา เมื่อยอมรับแล้ว การเจรจาเพื่อที่จะลงทุนร่วมกันในที่นั้นย่อมเป็นไปได้ ถูกไหมท่านนายกฯ แต่ไม่ใช่มาตัดให้เขมรเพื่อให้เขมรมีสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ผมจะยอมให้ไม่ได้
โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง……“จากสนธิ ลิ้มทองกุล ถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์" . ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" เมื่อวันพุธที่2ตุลาคมที่ผ่านมา ผมพูดจาโดยตรงกับท่านนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ที่ท่านพูดโอดครวญว่าทำงานยังไม่ถึงเดือนเลย ผมจะมาไล่ท่านแล้วหรือ ท่านใช้ความเป็นเด็ก ความน่าสงสาร ทำให้ตัวท่านเหมือนกับถูกผู้ใหญ่อย่างผมรังแก ฟังเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้รังแกอะไรเขา เขาทำตัวเขาเองทั้งสิ้น . ท่านนายกฯ แพทองธารครับ ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องใช้สติปัญญาในการพิจารณาข้อความ เรื่องราวต่างๆ ของท่าน ท่านอย่าไปเที่ยวให้นักข่าวถามท่าน หรือว่าให้คนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี . ในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ผมบอกว่าผมจะทำ 3 เรื่อง -เรื่องแรกที่ผมจะทำก็คือว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ผมจะไปยื่นขอความเป็นธรรมกับกรณีที่ผมโดนลอบสังหาร เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 โดนยิง 200 นัด บาดเจ็บสาหัส จากวันนั้นถึงวันนี้คดีความไม่ไปไหนเลย . -เรื่องที่สอง เรื่องปริมาณพม่าลี้ภัยเข้ามาในเมืองไทยเยอะเหลือเกิน สมุทรปราการ มหาชัย แม่สอดกลายเป็นเมืองพม่า พม่าเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการหลายกิจการ อันนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ พรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แห่ง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงมหาดไทย แล้วเรามีพรรคการเมือง คือ พรรคประชาชน (พม่า) หนุนหลังพวกลี้ภัยพม่าพวกนี้ทั้งหมดเลย นี่คือความเป็นห่วงที่ผมมีอยู่ นั่นคือจดหมายคำร้องเรียนเรื่องที่สองที่จะตามไป . เรื่องสุดท้ายผมบอกว่าผมจะติดตามการทำงานของท่านนายกฯ แพทองธารตลอดเวลา แล้วถ้าท่านทำถูกต้อง ผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขายชาติ ขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กับเขมร ซึ่งท่านนายกฯ แพทองธารก็ต้องรู้ว่า ตระกูล "ชินวัตร" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อของท่าน มีความสนิทสนมกับสมเด็จฮุน เซน มาก . ตรงนี้ถ้าท่านนายกฯ ไม่ลงมาจัดการหรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมเบ็ดเสร็จ รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่า ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านนายกฯ . แต่ถ้าท่านยังรักพ่อมากกว่ารักชาติ ซึ่งเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่ประหลาดใจ ทิศทางมันน่าจะไปทางด้านนั้น แต่ผมบอกท่านนายกฯแล้วหลายเรื่องนะ การคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใสในการทำงาน ความที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมที่ควรจะได้รับ เหมือนผมโดนยิงไปแล้ว 12 ปี ไม่ได้รับความยุติธรรม ผมกำลังจะทดสอบท่านว่าท่านจะหาความยุติธรรมให้ผมได้หรือเปล่า มีที่ไหน โดนลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม 200 นัด 12 ปีแล้ว เรื่องราวไม่ได้ไปไหนเลย . แต่ที่สำคัญที่สุด นอกเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ท่านต้องไม่ขายชาติ ท่านต้องไม่ยกแผ่นดินเกาะกูดให้กับเขมร เพื่อแลกกับสิทธิในการขุดน้ำมันด้วยกัน พื้นที่ทับซ้อนในทะเลเขมรยอมรับว่าที่นี้เป็นที่ของไทย ไม่รุกเข้ามา เมื่อยอมรับแล้ว การเจรจาเพื่อที่จะลงทุนร่วมกันในที่นั้นย่อมเป็นไปได้ ถูกไหมท่านนายกฯ แต่ไม่ใช่มาตัดให้เขมรเพื่อให้เขมรมีสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ผมจะยอมให้ไม่ได้
Like
Love
25
0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1986 มุมมอง 0 รีวิว