จนท.ผู้ควบคุมอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิแจ้งความดำเนินคดีกับสาวโปแลนด์ผู้ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ หลังจากสายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ
28 กันยายน 2567 -รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี สายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้โดยสารชาวโปแลนด์หญิงวัย34ปี ที่ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ซึ่งการขู่วางระเบิดในสนามบิน หรือในอากาศยาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22
ดังนั้น CATT จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว โดยผู้ควบคุมอากาศยานหรือนักบินในเที่ยวบินนั้นเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งไม่ใช่สายการบินซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นผู้แจ้งความ ตามที่ปรากฏในข่าว และทางตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในข้อหาแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คำพูดต้องห้ามที่ไม่ควรพูดทั้งในสนามบินและบนเครื่องบิน เช่น
– ระเบิด Bomb
– อาวุธและวัตถุอันตราย ปืน Gun or Fire Arm
– การก่อการร้าย Terrorist
– โรคระบาดร้ายแรง
CAAT จึงขอแนะนำว่า ไม่ควรพูดคำต้องห้ามเหล่านี้ แม้จะเป็นการพูดเล่นกับเพื่อน หรือพูดเล่นกับเจ้าหน้าที่ เพราะอาจทำให้ผู้อื่นเกิดความไม่สบายใจ ตื่นตระหนก หรือเกิดความเข้าใจผิดจนอาจจะนำมาสู่ความวุ่นวาย และผู้พูดอาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้
ภาพจากข่าวสด
#Thaitimes
28 กันยายน 2567 -รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี สายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้โดยสารชาวโปแลนด์หญิงวัย34ปี ที่ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ซึ่งการขู่วางระเบิดในสนามบิน หรือในอากาศยาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22
ดังนั้น CATT จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว โดยผู้ควบคุมอากาศยานหรือนักบินในเที่ยวบินนั้นเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งไม่ใช่สายการบินซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นผู้แจ้งความ ตามที่ปรากฏในข่าว และทางตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในข้อหาแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คำพูดต้องห้ามที่ไม่ควรพูดทั้งในสนามบินและบนเครื่องบิน เช่น
– ระเบิด Bomb
– อาวุธและวัตถุอันตราย ปืน Gun or Fire Arm
– การก่อการร้าย Terrorist
– โรคระบาดร้ายแรง
CAAT จึงขอแนะนำว่า ไม่ควรพูดคำต้องห้ามเหล่านี้ แม้จะเป็นการพูดเล่นกับเพื่อน หรือพูดเล่นกับเจ้าหน้าที่ เพราะอาจทำให้ผู้อื่นเกิดความไม่สบายใจ ตื่นตระหนก หรือเกิดความเข้าใจผิดจนอาจจะนำมาสู่ความวุ่นวาย และผู้พูดอาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้
ภาพจากข่าวสด
#Thaitimes
จนท.ผู้ควบคุมอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิแจ้งความดำเนินคดีกับสาวโปแลนด์ผู้ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ หลังจากสายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ
28 กันยายน 2567 -รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี สายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้โดยสารชาวโปแลนด์หญิงวัย34ปี ที่ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ซึ่งการขู่วางระเบิดในสนามบิน หรือในอากาศยาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22
ดังนั้น CATT จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว โดยผู้ควบคุมอากาศยานหรือนักบินในเที่ยวบินนั้นเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งไม่ใช่สายการบินซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นผู้แจ้งความ ตามที่ปรากฏในข่าว และทางตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในข้อหาแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คำพูดต้องห้ามที่ไม่ควรพูดทั้งในสนามบินและบนเครื่องบิน เช่น
– ระเบิด Bomb
– อาวุธและวัตถุอันตราย ปืน Gun or Fire Arm
– การก่อการร้าย Terrorist
– โรคระบาดร้ายแรง
CAAT จึงขอแนะนำว่า ไม่ควรพูดคำต้องห้ามเหล่านี้ แม้จะเป็นการพูดเล่นกับเพื่อน หรือพูดเล่นกับเจ้าหน้าที่ เพราะอาจทำให้ผู้อื่นเกิดความไม่สบายใจ ตื่นตระหนก หรือเกิดความเข้าใจผิดจนอาจจะนำมาสู่ความวุ่นวาย และผู้พูดอาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้
ภาพจากข่าวสด
#Thaitimes