กฎเดินทางใหม่สหรัฐฯ อาจบังคับนักท่องเที่ยวโชว์ประวัติโซเชียล 5 ปี — ความมั่นคงยุคดิจิทัลกำลังเปลี่ยนเกม

ข้อเสนอใหม่ของ U.S. Customs and Border Protection (CBP) อาจทำให้ผู้เดินทางจาก 42 ประเทศที่ใช้ระบบ Visa Waiver ต้องส่งมอบ ประวัติการใช้งานโซเชียลมีเดียย้อนหลัง 5 ปี ก่อนเดินทางเข้าสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกผนวกเข้าในระบบ ESTA ซึ่งเดิมถูกออกแบบมาเพื่อให้การเดินทางระยะสั้นเป็นเรื่องง่าย แต่ข้อกำหนดใหม่กำลังทำให้กระบวนการนี้ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากโซเชียลมีเดียแล้ว ผู้เดินทางยังต้องให้ข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ที่เคยใช้หลายปี รวมถึงข้อมูลของสมาชิกครอบครัวอย่างละเอียด สิ่งนี้สะท้อนแนวโน้มการตรวจสอบเชิงลึกที่เพิ่มขึ้นภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการใช้ข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมิน “ความเสี่ยง” และ “ความประพฤติดี” ของผู้เดินทาง

มาตรการนี้ยังสอดคล้องกับการขยายการตรวจสอบโซเชียลมีเดียในกลุ่มผู้ขอวีซ่า นักเรียน ผู้ลี้ภัย และผู้ยื่นขอสัญชาติ ซึ่งเริ่มเข้มงวดตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงมองว่าการตรวจสอบโซเชียลเป็นส่วนหนึ่งของ “digital border” ที่หลายประเทศเริ่มนำมาใช้ เช่น สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย ที่ต่างทดลองใช้ระบบคัดกรองผู้เดินทางด้วยข้อมูลออนไลน์

อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์เตือนว่ากฎใหม่นี้อาจทำลายความสะดวกของ ESTA และทำให้การท่องเที่ยวลดลง โดยเฉพาะในช่วงที่สหรัฐฯ เตรียมเป็นเจ้าภาพ FIFA World Cup 2026 และ Olympics 2028 ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้าประเทศ ความกังวลสำคัญคือความไม่ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่จะประเมิน “เนื้อหาโซเชียล” อย่างไร และเสี่ยงต่อการตีความผิดหรือเลือกปฏิบัติ

สรุปประเด็นสำคัญ
สหรัฐฯ เสนอให้ผู้เดินทางโชว์ประวัติโซเชียลย้อนหลัง 5 ปี
ใช้กับ 42 ประเทศในระบบ Visa Waiver
รวมถึงข้อมูลอีเมล เบอร์โทร และข้อมูลครอบครัวย้อนหลังหลายปี

มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบเข้มงวดที่เพิ่มขึ้น
สอดคล้องกับการตรวจสอบโซเชียลของผู้ขอวีซ่าและผู้อพยพตั้งแต่ปี 2017
เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด “digital border security” ที่หลายประเทศเริ่มใช้

ความเสี่ยงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว
อาจทำให้ ESTA ไม่ใช่ระบบที่ “ง่ายและรวดเร็ว” อีกต่อไป
อาจกระทบการเดินทางช่วง World Cup 2026 และ Olympics 2028

คำเตือน / ประเด็นที่ควรระวัง
ความไม่ชัดเจนในการประเมินเนื้อหาโซเชียล
ไม่มีเกณฑ์ชัดเจนว่าโพสต์แบบไหนจะถูกมองว่า “เสี่ยง”

ความเป็นส่วนตัวอาจถูกกระทบอย่างรุนแรง
การเก็บข้อมูลย้อนหลังหลายปีเพิ่มโอกาสการรั่วไหลหรือถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

ความเสี่ยงต่อการเลือกปฏิบัติ
การตีความข้อมูลโซเชียลอาจขึ้นกับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่

https://www.slashgear.com/2054910/us-proposed-travel-rules-social-media/
🌐 กฎเดินทางใหม่สหรัฐฯ อาจบังคับนักท่องเที่ยวโชว์ประวัติโซเชียล 5 ปี — ความมั่นคงยุคดิจิทัลกำลังเปลี่ยนเกม ข้อเสนอใหม่ของ U.S. Customs and Border Protection (CBP) อาจทำให้ผู้เดินทางจาก 42 ประเทศที่ใช้ระบบ Visa Waiver ต้องส่งมอบ ประวัติการใช้งานโซเชียลมีเดียย้อนหลัง 5 ปี ก่อนเดินทางเข้าสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกผนวกเข้าในระบบ ESTA ซึ่งเดิมถูกออกแบบมาเพื่อให้การเดินทางระยะสั้นเป็นเรื่องง่าย แต่ข้อกำหนดใหม่กำลังทำให้กระบวนการนี้ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากโซเชียลมีเดียแล้ว ผู้เดินทางยังต้องให้ข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ที่เคยใช้หลายปี รวมถึงข้อมูลของสมาชิกครอบครัวอย่างละเอียด สิ่งนี้สะท้อนแนวโน้มการตรวจสอบเชิงลึกที่เพิ่มขึ้นภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการใช้ข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมิน “ความเสี่ยง” และ “ความประพฤติดี” ของผู้เดินทาง มาตรการนี้ยังสอดคล้องกับการขยายการตรวจสอบโซเชียลมีเดียในกลุ่มผู้ขอวีซ่า นักเรียน ผู้ลี้ภัย และผู้ยื่นขอสัญชาติ ซึ่งเริ่มเข้มงวดตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงมองว่าการตรวจสอบโซเชียลเป็นส่วนหนึ่งของ “digital border” ที่หลายประเทศเริ่มนำมาใช้ เช่น สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย ที่ต่างทดลองใช้ระบบคัดกรองผู้เดินทางด้วยข้อมูลออนไลน์ อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์เตือนว่ากฎใหม่นี้อาจทำลายความสะดวกของ ESTA และทำให้การท่องเที่ยวลดลง โดยเฉพาะในช่วงที่สหรัฐฯ เตรียมเป็นเจ้าภาพ FIFA World Cup 2026 และ Olympics 2028 ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้าประเทศ ความกังวลสำคัญคือความไม่ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่จะประเมิน “เนื้อหาโซเชียล” อย่างไร และเสี่ยงต่อการตีความผิดหรือเลือกปฏิบัติ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สหรัฐฯ เสนอให้ผู้เดินทางโชว์ประวัติโซเชียลย้อนหลัง 5 ปี ➡️ ใช้กับ 42 ประเทศในระบบ Visa Waiver ➡️ รวมถึงข้อมูลอีเมล เบอร์โทร และข้อมูลครอบครัวย้อนหลังหลายปี ✅ มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบเข้มงวดที่เพิ่มขึ้น ➡️ สอดคล้องกับการตรวจสอบโซเชียลของผู้ขอวีซ่าและผู้อพยพตั้งแต่ปี 2017 ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด “digital border security” ที่หลายประเทศเริ่มใช้ ✅ ความเสี่ยงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ➡️ อาจทำให้ ESTA ไม่ใช่ระบบที่ “ง่ายและรวดเร็ว” อีกต่อไป ➡️ อาจกระทบการเดินทางช่วง World Cup 2026 และ Olympics 2028 ⚠️ คำเตือน / ประเด็นที่ควรระวัง ‼️ ความไม่ชัดเจนในการประเมินเนื้อหาโซเชียล ⛔ ไม่มีเกณฑ์ชัดเจนว่าโพสต์แบบไหนจะถูกมองว่า “เสี่ยง” ‼️ ความเป็นส่วนตัวอาจถูกกระทบอย่างรุนแรง ⛔ การเก็บข้อมูลย้อนหลังหลายปีเพิ่มโอกาสการรั่วไหลหรือถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ‼️ ความเสี่ยงต่อการเลือกปฏิบัติ ⛔ การตีความข้อมูลโซเชียลอาจขึ้นกับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ https://www.slashgear.com/2054910/us-proposed-travel-rules-social-media/
WWW.SLASHGEAR.COM
Travelers Coming To The US Could Be Forced To Show Years Of Social Media - SlashGear
According to the U.S. Customs and Border Protection, visitors from certain countries would have to show five years of social media history to get in.
0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews