ฝนทำลายสถิติในดินแดนแห้งแล้ง

หลังฝนตกหนักทำลายสถิติใน Death Valley สหรัฐฯ ทะเลสาบยุคน้ำแข็ง Lake Manly ได้กลับมาปรากฏอีกครั้ง แม้จะตื้นเพียงระดับข้อเท้า แต่ถือเป็นการฟื้นคืนของภูมิทัศน์ที่หายไปกว่า 10,000 ปี

Death Valley ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่แห้งแล้งที่สุดในโลก ได้รับฝนมากกว่า 2.41 นิ้วในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน) และเฉพาะเดือนพฤศจิกายนก็มีฝนถึง 1.76 นิ้ว ทำลายสถิติเดิมที่ 1.7 นิ้ว ปริมาณฝนนี้เทียบเท่ากับเกือบหนึ่งปีเต็มในเวลาเพียงเดือนเดียว

การกลับมาของ Lake Manly
Lake Manly ตั้งอยู่ใน Badwater Basin จุดต่ำสุดของทวีปอเมริกาเหนือ เคยมีความลึกกว่า 300 เมตรและทอดยาวเกือบ 100 ไมล์เมื่อ 128,000–186,000 ปีก่อน ปัจจุบันแม้จะกลับมาเพียงน้ำตื้น ๆ ที่ “สูงไม่เกินข้อเท้า” แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง

ผลกระทบต่อระบบนิเวศ
นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสงสัยว่าปริมาณน้ำฝนที่มากผิดปกติจะส่งผลต่อดอกไม้ป่าในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าอย่างไร แม้ฝนจะช่วยให้พืชงอกงาม แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่นอุณหภูมิและดินที่ต้องพิจารณา ขณะเดียวกันถนนหลายสายในอุทยานถูกน้ำท่วมและเศษซากปิดกั้น ทำให้นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังในการเดินทาง

สัญญาณจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า สภาพอากาศสุดขั้วจะเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น เมื่อโลกยังคงร้อนขึ้น ภูมิทัศน์ที่เราเห็นในปัจจุบันอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เช่นเดียวกับ Death Valley ที่เคยเป็นทะเลสาบใหญ่ในยุคน้ำแข็ง และวันนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้เพียงชั่วคราว

สรุปสาระสำคัญ
ปริมาณฝนทำลายสถิติ
Death Valley ได้ฝนมากกว่า 2.41 นิ้วในฤดูใบไม้ร่วง และ 1.76 นิ้วในเดือนพฤศจิกายน

การกลับมาของ Lake Manly
ทะเลสาบยุคน้ำแข็งกลับมา แม้ตื้นเพียงระดับข้อเท้า

ผลกระทบต่อระบบนิเวศ
อาจส่งผลต่อดอกไม้ป่าในฤดูใบไม้ผลิ และถนนหลายสายถูกน้ำท่วม

สัญญาณจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เหตุการณ์นี้สะท้อนความถี่และความรุนแรงของสภาพอากาศสุดขั้ว

ความเสี่ยงต่อการท่องเที่ยว
ถนนหลายสายในอุทยานไม่สามารถสัญจรได้จากเศษซากและน้ำท่วม

ความไม่แน่นอนทางนิเวศวิทยา
ยังไม่ชัดเจนว่าปริมาณฝนจะส่งผลต่อการออกดอกของพืชในปีหน้าอย่างไร

https://www.sciencealert.com/ice-age-lake-reappears-in-death-valley-following-record-rains
🌧️ ฝนทำลายสถิติในดินแดนแห้งแล้ง หลังฝนตกหนักทำลายสถิติใน Death Valley สหรัฐฯ ทะเลสาบยุคน้ำแข็ง Lake Manly ได้กลับมาปรากฏอีกครั้ง แม้จะตื้นเพียงระดับข้อเท้า แต่ถือเป็นการฟื้นคืนของภูมิทัศน์ที่หายไปกว่า 10,000 ปี Death Valley ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่แห้งแล้งที่สุดในโลก ได้รับฝนมากกว่า 2.41 นิ้วในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน) และเฉพาะเดือนพฤศจิกายนก็มีฝนถึง 1.76 นิ้ว ทำลายสถิติเดิมที่ 1.7 นิ้ว ปริมาณฝนนี้เทียบเท่ากับเกือบหนึ่งปีเต็มในเวลาเพียงเดือนเดียว 🏞️ การกลับมาของ Lake Manly Lake Manly ตั้งอยู่ใน Badwater Basin จุดต่ำสุดของทวีปอเมริกาเหนือ เคยมีความลึกกว่า 300 เมตรและทอดยาวเกือบ 100 ไมล์เมื่อ 128,000–186,000 ปีก่อน ปัจจุบันแม้จะกลับมาเพียงน้ำตื้น ๆ ที่ “สูงไม่เกินข้อเท้า” แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง 🌼 ผลกระทบต่อระบบนิเวศ นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสงสัยว่าปริมาณน้ำฝนที่มากผิดปกติจะส่งผลต่อดอกไม้ป่าในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าอย่างไร แม้ฝนจะช่วยให้พืชงอกงาม แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่นอุณหภูมิและดินที่ต้องพิจารณา ขณะเดียวกันถนนหลายสายในอุทยานถูกน้ำท่วมและเศษซากปิดกั้น ทำให้นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังในการเดินทาง 🌍 สัญญาณจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า สภาพอากาศสุดขั้วจะเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น เมื่อโลกยังคงร้อนขึ้น ภูมิทัศน์ที่เราเห็นในปัจจุบันอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เช่นเดียวกับ Death Valley ที่เคยเป็นทะเลสาบใหญ่ในยุคน้ำแข็ง และวันนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้เพียงชั่วคราว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ปริมาณฝนทำลายสถิติ ➡️ Death Valley ได้ฝนมากกว่า 2.41 นิ้วในฤดูใบไม้ร่วง และ 1.76 นิ้วในเดือนพฤศจิกายน ✅ การกลับมาของ Lake Manly ➡️ ทะเลสาบยุคน้ำแข็งกลับมา แม้ตื้นเพียงระดับข้อเท้า ✅ ผลกระทบต่อระบบนิเวศ ➡️ อาจส่งผลต่อดอกไม้ป่าในฤดูใบไม้ผลิ และถนนหลายสายถูกน้ำท่วม ✅ สัญญาณจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ➡️ เหตุการณ์นี้สะท้อนความถี่และความรุนแรงของสภาพอากาศสุดขั้ว ‼️ ความเสี่ยงต่อการท่องเที่ยว ⛔ ถนนหลายสายในอุทยานไม่สามารถสัญจรได้จากเศษซากและน้ำท่วม ‼️ ความไม่แน่นอนทางนิเวศวิทยา ⛔ ยังไม่ชัดเจนว่าปริมาณฝนจะส่งผลต่อการออกดอกของพืชในปีหน้าอย่างไร https://www.sciencealert.com/ice-age-lake-reappears-in-death-valley-following-record-rains
WWW.SCIENCEALERT.COM
Ice Age Lake Reappears in Death Valley Following Record Rains
Death Valley, part of the Mojave Desert stretching across California and Nevada, is known for its extreme weather – but in recent weeks, it has broken records for rain rather than high temperatures.
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว