แกะโบราณกับร่องรอยโรคระบาด

นักวิจัยค้นพบ DNA ของเชื้อกาฬโรค (Yersinia pestis) ในซากฟอสซิลแกะโบราณอายุ 4,000 ปี ที่รัสเซีย ซึ่งเป็นหลักฐานแรกว่ามีสัตว์เลี้ยงเป็นพาหะของโรคระบาดยุคสำริด ไม่ใช่เพียงมนุษย์อย่างที่เคยเชื่อ

ทีมนักโบราณคดีตรวจสอบ DNA จากกระดูกและฟันของสัตว์เลี้ยงยุคสำริด เช่น วัว แพะ และแกะ ที่ถูกขุดพบในพื้นที่อาร์ไคม์ (Arkaim) บริเวณเทือกเขาอูราลตอนใต้ของรัสเซีย ผลการวิเคราะห์พบ DNA ของเชื้อ Yersinia pestis บนฟันแกะที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์เมื่อราว 4,000 ปีก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่พบหลักฐานโรคระบาดในสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่เฉพาะในมนุษย์

เชื้อโรคที่ยังไม่วิวัฒน์เต็มรูปแบบ
เชื้อ Y. pestis ในยุคนั้นยังไม่สามารถใช้หมัดเป็นพาหะเหมือนในยุคกลาง ทำให้เกิดคำถามว่าโรคแพร่กระจายได้อย่างไร หลักฐานใหม่นี้ชี้ว่าแกะอาจเป็นตัวกลางที่ช่วยแพร่เชื้อระหว่างฝูงสัตว์และมนุษย์ หรืออาจได้รับเชื้อจากสัตว์ป่าและส่งต่อไปยังคนเลี้ยง

ความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมซินทัชตา
สถานที่พบแกะติดเชื้อคือชุมชนซินทัชตา (Sintashta culture) ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการสร้างอาวุธสำริดและการขี่ม้า การขยายฝูงสัตว์และการเดินทางไกลด้วยม้าอาจเพิ่มโอกาสให้โรคแพร่กระจายไปทั่วทุ่งหญ้าสเตปป์ยูเรเชีย

ความท้าทายในการศึกษาซากสัตว์
การตรวจสอบ DNA ของสัตว์โบราณทำได้ยาก เพราะซากสัตว์มักถูกทิ้งเป็นเศษอาหารหรือถูกปรุงสุก ทำให้ DNA เสื่อมสลายเร็ว หลักฐานครั้งนี้จึงถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการเข้าใจการแพร่โรคในอดีต

สรุปสาระสำคัญ
การค้นพบหลักฐานใหม่
พบ DNA ของ Y. pestis ในฟันแกะโบราณที่รัสเซีย

เชื้อโรคยุคสำริด
ยังไม่สามารถใช้หมัดเป็นพาหะเหมือนยุคกลาง

บทบาทของสัตว์เลี้ยง
แกะอาจเป็นตัวกลางแพร่เชื้อระหว่างสัตว์และมนุษย์

ความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม
ซินทัชตาเป็นสังคมที่ขยายฝูงสัตว์และเดินทางไกล

ความท้าทายทางวิทยาศาสตร์
ซากสัตว์มักถูกปรุงสุกหรือเสื่อมสลาย ทำให้ DNA ยากต่อการศึกษา

ความเสี่ยงต่อการตีความผิดพลาด
หลักฐานจากสัตว์เพียงตัวเดียวอาจไม่สะท้อนภาพรวมทั้งหมดของการแพร่โรค

https://www.sciencealert.com/dna-study-reveals-carrier-of-worlds-earliest-known-plague
🐑 แกะโบราณกับร่องรอยโรคระบาด นักวิจัยค้นพบ DNA ของเชื้อกาฬโรค (Yersinia pestis) ในซากฟอสซิลแกะโบราณอายุ 4,000 ปี ที่รัสเซีย ซึ่งเป็นหลักฐานแรกว่ามีสัตว์เลี้ยงเป็นพาหะของโรคระบาดยุคสำริด ไม่ใช่เพียงมนุษย์อย่างที่เคยเชื่อ ทีมนักโบราณคดีตรวจสอบ DNA จากกระดูกและฟันของสัตว์เลี้ยงยุคสำริด เช่น วัว แพะ และแกะ ที่ถูกขุดพบในพื้นที่อาร์ไคม์ (Arkaim) บริเวณเทือกเขาอูราลตอนใต้ของรัสเซีย ผลการวิเคราะห์พบ DNA ของเชื้อ Yersinia pestis บนฟันแกะที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์เมื่อราว 4,000 ปีก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่พบหลักฐานโรคระบาดในสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่เฉพาะในมนุษย์ 🔬 เชื้อโรคที่ยังไม่วิวัฒน์เต็มรูปแบบ เชื้อ Y. pestis ในยุคนั้นยังไม่สามารถใช้หมัดเป็นพาหะเหมือนในยุคกลาง ทำให้เกิดคำถามว่าโรคแพร่กระจายได้อย่างไร หลักฐานใหม่นี้ชี้ว่าแกะอาจเป็นตัวกลางที่ช่วยแพร่เชื้อระหว่างฝูงสัตว์และมนุษย์ หรืออาจได้รับเชื้อจากสัตว์ป่าและส่งต่อไปยังคนเลี้ยง 🏹 ความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมซินทัชตา สถานที่พบแกะติดเชื้อคือชุมชนซินทัชตา (Sintashta culture) ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการสร้างอาวุธสำริดและการขี่ม้า การขยายฝูงสัตว์และการเดินทางไกลด้วยม้าอาจเพิ่มโอกาสให้โรคแพร่กระจายไปทั่วทุ่งหญ้าสเตปป์ยูเรเชีย ⚠️ ความท้าทายในการศึกษาซากสัตว์ การตรวจสอบ DNA ของสัตว์โบราณทำได้ยาก เพราะซากสัตว์มักถูกทิ้งเป็นเศษอาหารหรือถูกปรุงสุก ทำให้ DNA เสื่อมสลายเร็ว หลักฐานครั้งนี้จึงถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการเข้าใจการแพร่โรคในอดีต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบหลักฐานใหม่ ➡️ พบ DNA ของ Y. pestis ในฟันแกะโบราณที่รัสเซีย ✅ เชื้อโรคยุคสำริด ➡️ ยังไม่สามารถใช้หมัดเป็นพาหะเหมือนยุคกลาง ✅ บทบาทของสัตว์เลี้ยง ➡️ แกะอาจเป็นตัวกลางแพร่เชื้อระหว่างสัตว์และมนุษย์ ✅ ความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม ➡️ ซินทัชตาเป็นสังคมที่ขยายฝูงสัตว์และเดินทางไกล ‼️ ความท้าทายทางวิทยาศาสตร์ ⛔ ซากสัตว์มักถูกปรุงสุกหรือเสื่อมสลาย ทำให้ DNA ยากต่อการศึกษา ‼️ ความเสี่ยงต่อการตีความผิดพลาด ⛔ หลักฐานจากสัตว์เพียงตัวเดียวอาจไม่สะท้อนภาพรวมทั้งหมดของการแพร่โรค https://www.sciencealert.com/dna-study-reveals-carrier-of-worlds-earliest-known-plague
WWW.SCIENCEALERT.COM
DNA Study Reveals Carrier of World's Earliest-Known Plague
A plague that swept through Eurasia for 2,000 years – millennia before the Black Death of the Middle Ages – has only ever been detected in human remains, until now.
0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews