Amazon เปิดตัว Graviton5: CPU 192-Core ที่ท้าชนยักษ์ใหญ่
Amazon Web Services (AWS) ได้เปิดตัว Graviton5 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่ทรงพลังที่สุดของบริษัท โดยมาพร้อมกับ 192 Neoverse V3 cores และ 180 MB L3 cache ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับ 3nm-class ที่คาดว่าใช้โรงงานของ TSMC จุดเด่นคือการออกแบบเพื่อแข่งขันกับ CPU ระดับสูงของ AMD EPYC และ Intel Xeon ที่ครองตลาดศูนย์ข้อมูลมายาวนาน การเพิ่มจำนวนคอร์เป็นสองเท่าจากรุ่นก่อนหน้า ทำให้ AWS คาดการณ์ประสิทธิภาพสูงขึ้นราว 25% แม้ตัวเลขนี้จะถือว่าค่อนข้างอนุรักษ์นิยมเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาปัตยกรรมที่ใหญ่
สถาปัตยกรรมใหม่และการจัดการ Cache
Graviton5 เปลี่ยนจากการใช้ System-Level Cache (SLC) ในรุ่น Graviton4 มาเป็น L3 cache ขนาดใหญ่แบบกระจายตัว ซึ่งช่วยลดความหน่วงในการสื่อสารระหว่างคอร์ลงถึง 33% การออกแบบนี้ตอบโจทย์การขยายตัวของจำนวนคอร์ที่มหาศาล และยังช่วยให้การทำงานแบบ multi-tenant มีความเสถียรมากขึ้นในสภาพแวดล้อมคลาวด์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการพัฒนาเชิงสถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นความสามารถในการรองรับงานขนาดใหญ่และซับซ้อน
ความปลอดภัยและระบบ Nitro Isolation Engine
AWS ยังได้เพิ่มระบบ Nitro Isolation Engine ซึ่งใช้การพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์เพื่อยืนยันการแยกการทำงานของ workload อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่มีการเข้าถึงจากผู้ปฏิบัติการของ AWS เอง นี่เป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในคลาวด์ที่อาจดึงดูดลูกค้าองค์กรที่ต้องการความมั่นใจสูงสุด โดยเฉพาะผู้ที่เคยใช้เซิร์ฟเวอร์แบบ on-premises
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและการแข่งขัน
การเปิดตัว Graviton5 ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับศักยภาพของ AWS เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาด CPU สำหรับศูนย์ข้อมูล ซึ่งกำลังถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการด้าน AI, Machine Learning และ Big Data การที่ AWS ลงทุนใน CPU ของตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทสามารถควบคุมทั้งด้านต้นทุนและประสิทธิภาพได้ดีกว่าการพึ่งพาผู้ผลิตรายอื่น
สรุปประเด็นสำคัญ
คุณสมบัติของ Graviton5
192 Neoverse V3 cores ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm-class
L3 cache ขนาด 180 MB เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากรุ่นก่อน
ประสิทธิภาพสูงขึ้นราว 25% เมื่อเทียบกับ Graviton4
การออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่
เปลี่ยนจาก SLC มาใช้ L3 cache แบบกระจายตัว
ลด inter-core latency ลงถึง 33%
รองรับงาน multi-tenant ได้เสถียรมากขึ้น
ระบบความปลอดภัย
ใช้ AWS Nitro System รุ่นใหม่
เพิ่ม Nitro Isolation Engine เพื่อแยก workload อย่างปลอดภัย
เน้น zero-operator-access model
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
แข่งขันโดยตรงกับ AMD EPYC และ Intel Xeon
รองรับงาน AI, ML และ Big Data ได้ดียิ่งขึ้น
เปิดตัวใน EC2 M9g instances และจะมีรุ่น C9g, R9g ในปี 2026
ข้อควรระวังและข้อจำกัด
AWS ไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรมภายในทั้งหมด
Memory bandwidth ต่อคอร์อาจต่ำกว่ารุ่นก่อน แม้มี cache ขนาดใหญ่
การประเมินประสิทธิภาพ 25% อาจต่ำกว่าศักยภาพจริง แต่ยังไม่ชัดเจนในงานเฉพาะทาง
https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amazon-unveils-192-core-graviton5-cpu-with-massive-180-mb-l3-cache-in-tow-ambitious-server-silicon-challenges-high-end-amd-epyc-and-intel-xeon-in-the-cloud
Amazon Web Services (AWS) ได้เปิดตัว Graviton5 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่ทรงพลังที่สุดของบริษัท โดยมาพร้อมกับ 192 Neoverse V3 cores และ 180 MB L3 cache ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับ 3nm-class ที่คาดว่าใช้โรงงานของ TSMC จุดเด่นคือการออกแบบเพื่อแข่งขันกับ CPU ระดับสูงของ AMD EPYC และ Intel Xeon ที่ครองตลาดศูนย์ข้อมูลมายาวนาน การเพิ่มจำนวนคอร์เป็นสองเท่าจากรุ่นก่อนหน้า ทำให้ AWS คาดการณ์ประสิทธิภาพสูงขึ้นราว 25% แม้ตัวเลขนี้จะถือว่าค่อนข้างอนุรักษ์นิยมเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาปัตยกรรมที่ใหญ่
สถาปัตยกรรมใหม่และการจัดการ Cache
Graviton5 เปลี่ยนจากการใช้ System-Level Cache (SLC) ในรุ่น Graviton4 มาเป็น L3 cache ขนาดใหญ่แบบกระจายตัว ซึ่งช่วยลดความหน่วงในการสื่อสารระหว่างคอร์ลงถึง 33% การออกแบบนี้ตอบโจทย์การขยายตัวของจำนวนคอร์ที่มหาศาล และยังช่วยให้การทำงานแบบ multi-tenant มีความเสถียรมากขึ้นในสภาพแวดล้อมคลาวด์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการพัฒนาเชิงสถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นความสามารถในการรองรับงานขนาดใหญ่และซับซ้อน
ความปลอดภัยและระบบ Nitro Isolation Engine
AWS ยังได้เพิ่มระบบ Nitro Isolation Engine ซึ่งใช้การพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์เพื่อยืนยันการแยกการทำงานของ workload อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่มีการเข้าถึงจากผู้ปฏิบัติการของ AWS เอง นี่เป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในคลาวด์ที่อาจดึงดูดลูกค้าองค์กรที่ต้องการความมั่นใจสูงสุด โดยเฉพาะผู้ที่เคยใช้เซิร์ฟเวอร์แบบ on-premises
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและการแข่งขัน
การเปิดตัว Graviton5 ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับศักยภาพของ AWS เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาด CPU สำหรับศูนย์ข้อมูล ซึ่งกำลังถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการด้าน AI, Machine Learning และ Big Data การที่ AWS ลงทุนใน CPU ของตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทสามารถควบคุมทั้งด้านต้นทุนและประสิทธิภาพได้ดีกว่าการพึ่งพาผู้ผลิตรายอื่น
สรุปประเด็นสำคัญ
คุณสมบัติของ Graviton5
192 Neoverse V3 cores ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm-class
L3 cache ขนาด 180 MB เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากรุ่นก่อน
ประสิทธิภาพสูงขึ้นราว 25% เมื่อเทียบกับ Graviton4
การออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่
เปลี่ยนจาก SLC มาใช้ L3 cache แบบกระจายตัว
ลด inter-core latency ลงถึง 33%
รองรับงาน multi-tenant ได้เสถียรมากขึ้น
ระบบความปลอดภัย
ใช้ AWS Nitro System รุ่นใหม่
เพิ่ม Nitro Isolation Engine เพื่อแยก workload อย่างปลอดภัย
เน้น zero-operator-access model
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
แข่งขันโดยตรงกับ AMD EPYC และ Intel Xeon
รองรับงาน AI, ML และ Big Data ได้ดียิ่งขึ้น
เปิดตัวใน EC2 M9g instances และจะมีรุ่น C9g, R9g ในปี 2026
ข้อควรระวังและข้อจำกัด
AWS ไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรมภายในทั้งหมด
Memory bandwidth ต่อคอร์อาจต่ำกว่ารุ่นก่อน แม้มี cache ขนาดใหญ่
การประเมินประสิทธิภาพ 25% อาจต่ำกว่าศักยภาพจริง แต่ยังไม่ชัดเจนในงานเฉพาะทาง
https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amazon-unveils-192-core-graviton5-cpu-with-massive-180-mb-l3-cache-in-tow-ambitious-server-silicon-challenges-high-end-amd-epyc-and-intel-xeon-in-the-cloud
🖥️ Amazon เปิดตัว Graviton5: CPU 192-Core ที่ท้าชนยักษ์ใหญ่
Amazon Web Services (AWS) ได้เปิดตัว Graviton5 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่ทรงพลังที่สุดของบริษัท โดยมาพร้อมกับ 192 Neoverse V3 cores และ 180 MB L3 cache ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับ 3nm-class ที่คาดว่าใช้โรงงานของ TSMC จุดเด่นคือการออกแบบเพื่อแข่งขันกับ CPU ระดับสูงของ AMD EPYC และ Intel Xeon ที่ครองตลาดศูนย์ข้อมูลมายาวนาน การเพิ่มจำนวนคอร์เป็นสองเท่าจากรุ่นก่อนหน้า ทำให้ AWS คาดการณ์ประสิทธิภาพสูงขึ้นราว 25% แม้ตัวเลขนี้จะถือว่าค่อนข้างอนุรักษ์นิยมเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาปัตยกรรมที่ใหญ่
⚡ สถาปัตยกรรมใหม่และการจัดการ Cache
Graviton5 เปลี่ยนจากการใช้ System-Level Cache (SLC) ในรุ่น Graviton4 มาเป็น L3 cache ขนาดใหญ่แบบกระจายตัว ซึ่งช่วยลดความหน่วงในการสื่อสารระหว่างคอร์ลงถึง 33% การออกแบบนี้ตอบโจทย์การขยายตัวของจำนวนคอร์ที่มหาศาล และยังช่วยให้การทำงานแบบ multi-tenant มีความเสถียรมากขึ้นในสภาพแวดล้อมคลาวด์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการพัฒนาเชิงสถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นความสามารถในการรองรับงานขนาดใหญ่และซับซ้อน
🔒 ความปลอดภัยและระบบ Nitro Isolation Engine
AWS ยังได้เพิ่มระบบ Nitro Isolation Engine ซึ่งใช้การพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์เพื่อยืนยันการแยกการทำงานของ workload อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่มีการเข้าถึงจากผู้ปฏิบัติการของ AWS เอง นี่เป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในคลาวด์ที่อาจดึงดูดลูกค้าองค์กรที่ต้องการความมั่นใจสูงสุด โดยเฉพาะผู้ที่เคยใช้เซิร์ฟเวอร์แบบ on-premises
🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและการแข่งขัน
การเปิดตัว Graviton5 ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับศักยภาพของ AWS เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาด CPU สำหรับศูนย์ข้อมูล ซึ่งกำลังถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการด้าน AI, Machine Learning และ Big Data การที่ AWS ลงทุนใน CPU ของตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทสามารถควบคุมทั้งด้านต้นทุนและประสิทธิภาพได้ดีกว่าการพึ่งพาผู้ผลิตรายอื่น
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ คุณสมบัติของ Graviton5
➡️ 192 Neoverse V3 cores ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm-class
➡️ L3 cache ขนาด 180 MB เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากรุ่นก่อน
➡️ ประสิทธิภาพสูงขึ้นราว 25% เมื่อเทียบกับ Graviton4
✅ การออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่
➡️ เปลี่ยนจาก SLC มาใช้ L3 cache แบบกระจายตัว
➡️ ลด inter-core latency ลงถึง 33%
➡️ รองรับงาน multi-tenant ได้เสถียรมากขึ้น
✅ ระบบความปลอดภัย
➡️ ใช้ AWS Nitro System รุ่นใหม่
➡️ เพิ่ม Nitro Isolation Engine เพื่อแยก workload อย่างปลอดภัย
➡️ เน้น zero-operator-access model
✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
➡️ แข่งขันโดยตรงกับ AMD EPYC และ Intel Xeon
➡️ รองรับงาน AI, ML และ Big Data ได้ดียิ่งขึ้น
➡️ เปิดตัวใน EC2 M9g instances และจะมีรุ่น C9g, R9g ในปี 2026
‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด
⛔ AWS ไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรมภายในทั้งหมด
⛔ Memory bandwidth ต่อคอร์อาจต่ำกว่ารุ่นก่อน แม้มี cache ขนาดใหญ่
⛔ การประเมินประสิทธิภาพ 25% อาจต่ำกว่าศักยภาพจริง แต่ยังไม่ชัดเจนในงานเฉพาะทาง
https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amazon-unveils-192-core-graviton5-cpu-with-massive-180-mb-l3-cache-in-tow-ambitious-server-silicon-challenges-high-end-amd-epyc-and-intel-xeon-in-the-cloud
0 Comments
0 Shares
59 Views
0 Reviews