Tor Project ปรับปรุงครั้งใหญ่ด้วย Rust ลดช่องโหว่จาก C
โครงการ Tor Project ได้เดินหน้าปรับปรุงครั้งสำคัญ โดยเปลี่ยนจากโค้ดเดิมที่เขียนด้วย ภาษา C ไปสู่การเขียนใหม่ด้วย Rust ภายใต้ชื่อ Arti ซึ่งในเวอร์ชันล่าสุด Arti 1.8.0 มีการเพิ่มฟีเจอร์และแก้ไขปัญหาที่เคยเป็นจุดอ่อนของระบบ Tor เดิม เช่น ช่องโหว่ด้านหน่วยความจำและการจัดการบั๊กที่เกิดจาก C
หนึ่งในไฮไลต์ของการอัปเดตครั้งนี้คือการปรับปรุง Circuit Timeout Rework ที่เปลี่ยนจากการใช้ตัวจับเวลาคงที่ (Circuit Dirty Timeout) ไปเป็นการใช้ตัวจับเวลาที่แยกตามการใช้งานจริงและสุ่มเวลาปิดการเชื่อมต่อ เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูก Fingerprinting หรือการติดตามพฤติกรรมผู้ใช้ผ่านรูปแบบการเชื่อมต่อที่คาดเดาได้ง่าย
นอกจากนี้ Arti 1.8.0 ยังเพิ่มคำสั่งใหม่สำหรับผู้ให้บริการ Onion Service ที่ช่วยให้สามารถย้ายคีย์การค้นพบ (Discovery Keys) จากระบบ Tor เดิมไปยัง Arti ได้โดยไม่ต้องทำงานด้วยมือ ลดความยุ่งยากและเพิ่มความปลอดภัยในการจัดการคีย์ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงด้าน Routing Architecture, Directory Cache Support และการตั้งค่า OR Port Listener เพื่อให้ระบบทำงานได้เสถียรและปลอดภัยยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนผ่านจาก C ไปสู่ Rust ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tor Project เพราะ Rust มีคุณสมบัติด้าน Memory Safety ที่ช่วยป้องกันบั๊กประเภท Buffer Overflow และ Use-after-free ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในโค้ด C การอัปเดตนี้จึงไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังช่วยให้ Tor มีความยืดหยุ่นและทันสมัยมากขึ้นในการรองรับผู้ใช้ทั่วโลก
สรุปประเด็นสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงหลักใน Tor Project
จากภาษา C ไปสู่ Rust ภายใต้ชื่อ Arti
ลดช่องโหว่ด้านหน่วยความจำและบั๊กที่เกิดจาก C
ฟีเจอร์ใหม่ใน Arti 1.8.0
Circuit Timeout Rework ลดความเสี่ยงจากการถูก Fingerprinting
คำสั่งใหม่สำหรับ Onion Service ช่วยย้าย Discovery Keys ได้ง่ายขึ้น
ปรับปรุง Routing, Directory Cache และ OR Port Listener
ผลกระทบเชิงบวก
เพิ่มความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบ Tor
ลดความยุ่งยากในการจัดการคีย์และการตั้งค่า
คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
หากยังใช้ Tor เวอร์ชัน C อาจเสี่ยงต่อบั๊กและช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
การไม่อัปเดตไปสู่ Arti อาจทำให้ระบบถูกติดตามหรือโจมตีได้ง่ายขึ้น
https://itsfoss.com/news/tor-rust-rewrite-progress/
โครงการ Tor Project ได้เดินหน้าปรับปรุงครั้งสำคัญ โดยเปลี่ยนจากโค้ดเดิมที่เขียนด้วย ภาษา C ไปสู่การเขียนใหม่ด้วย Rust ภายใต้ชื่อ Arti ซึ่งในเวอร์ชันล่าสุด Arti 1.8.0 มีการเพิ่มฟีเจอร์และแก้ไขปัญหาที่เคยเป็นจุดอ่อนของระบบ Tor เดิม เช่น ช่องโหว่ด้านหน่วยความจำและการจัดการบั๊กที่เกิดจาก C
หนึ่งในไฮไลต์ของการอัปเดตครั้งนี้คือการปรับปรุง Circuit Timeout Rework ที่เปลี่ยนจากการใช้ตัวจับเวลาคงที่ (Circuit Dirty Timeout) ไปเป็นการใช้ตัวจับเวลาที่แยกตามการใช้งานจริงและสุ่มเวลาปิดการเชื่อมต่อ เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูก Fingerprinting หรือการติดตามพฤติกรรมผู้ใช้ผ่านรูปแบบการเชื่อมต่อที่คาดเดาได้ง่าย
นอกจากนี้ Arti 1.8.0 ยังเพิ่มคำสั่งใหม่สำหรับผู้ให้บริการ Onion Service ที่ช่วยให้สามารถย้ายคีย์การค้นพบ (Discovery Keys) จากระบบ Tor เดิมไปยัง Arti ได้โดยไม่ต้องทำงานด้วยมือ ลดความยุ่งยากและเพิ่มความปลอดภัยในการจัดการคีย์ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงด้าน Routing Architecture, Directory Cache Support และการตั้งค่า OR Port Listener เพื่อให้ระบบทำงานได้เสถียรและปลอดภัยยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนผ่านจาก C ไปสู่ Rust ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tor Project เพราะ Rust มีคุณสมบัติด้าน Memory Safety ที่ช่วยป้องกันบั๊กประเภท Buffer Overflow และ Use-after-free ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในโค้ด C การอัปเดตนี้จึงไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังช่วยให้ Tor มีความยืดหยุ่นและทันสมัยมากขึ้นในการรองรับผู้ใช้ทั่วโลก
สรุปประเด็นสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงหลักใน Tor Project
จากภาษา C ไปสู่ Rust ภายใต้ชื่อ Arti
ลดช่องโหว่ด้านหน่วยความจำและบั๊กที่เกิดจาก C
ฟีเจอร์ใหม่ใน Arti 1.8.0
Circuit Timeout Rework ลดความเสี่ยงจากการถูก Fingerprinting
คำสั่งใหม่สำหรับ Onion Service ช่วยย้าย Discovery Keys ได้ง่ายขึ้น
ปรับปรุง Routing, Directory Cache และ OR Port Listener
ผลกระทบเชิงบวก
เพิ่มความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบ Tor
ลดความยุ่งยากในการจัดการคีย์และการตั้งค่า
คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
หากยังใช้ Tor เวอร์ชัน C อาจเสี่ยงต่อบั๊กและช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
การไม่อัปเดตไปสู่ Arti อาจทำให้ระบบถูกติดตามหรือโจมตีได้ง่ายขึ้น
https://itsfoss.com/news/tor-rust-rewrite-progress/
🦊 Tor Project ปรับปรุงครั้งใหญ่ด้วย Rust ลดช่องโหว่จาก C
โครงการ Tor Project ได้เดินหน้าปรับปรุงครั้งสำคัญ โดยเปลี่ยนจากโค้ดเดิมที่เขียนด้วย ภาษา C ไปสู่การเขียนใหม่ด้วย Rust ภายใต้ชื่อ Arti ซึ่งในเวอร์ชันล่าสุด Arti 1.8.0 มีการเพิ่มฟีเจอร์และแก้ไขปัญหาที่เคยเป็นจุดอ่อนของระบบ Tor เดิม เช่น ช่องโหว่ด้านหน่วยความจำและการจัดการบั๊กที่เกิดจาก C
หนึ่งในไฮไลต์ของการอัปเดตครั้งนี้คือการปรับปรุง Circuit Timeout Rework ที่เปลี่ยนจากการใช้ตัวจับเวลาคงที่ (Circuit Dirty Timeout) ไปเป็นการใช้ตัวจับเวลาที่แยกตามการใช้งานจริงและสุ่มเวลาปิดการเชื่อมต่อ เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูก Fingerprinting หรือการติดตามพฤติกรรมผู้ใช้ผ่านรูปแบบการเชื่อมต่อที่คาดเดาได้ง่าย
นอกจากนี้ Arti 1.8.0 ยังเพิ่มคำสั่งใหม่สำหรับผู้ให้บริการ Onion Service ที่ช่วยให้สามารถย้ายคีย์การค้นพบ (Discovery Keys) จากระบบ Tor เดิมไปยัง Arti ได้โดยไม่ต้องทำงานด้วยมือ ลดความยุ่งยากและเพิ่มความปลอดภัยในการจัดการคีย์ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงด้าน Routing Architecture, Directory Cache Support และการตั้งค่า OR Port Listener เพื่อให้ระบบทำงานได้เสถียรและปลอดภัยยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนผ่านจาก C ไปสู่ Rust ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tor Project เพราะ Rust มีคุณสมบัติด้าน Memory Safety ที่ช่วยป้องกันบั๊กประเภท Buffer Overflow และ Use-after-free ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในโค้ด C การอัปเดตนี้จึงไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังช่วยให้ Tor มีความยืดหยุ่นและทันสมัยมากขึ้นในการรองรับผู้ใช้ทั่วโลก
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ การเปลี่ยนแปลงหลักใน Tor Project
➡️ จากภาษา C ไปสู่ Rust ภายใต้ชื่อ Arti
➡️ ลดช่องโหว่ด้านหน่วยความจำและบั๊กที่เกิดจาก C
✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Arti 1.8.0
➡️ Circuit Timeout Rework ลดความเสี่ยงจากการถูก Fingerprinting
➡️ คำสั่งใหม่สำหรับ Onion Service ช่วยย้าย Discovery Keys ได้ง่ายขึ้น
➡️ ปรับปรุง Routing, Directory Cache และ OR Port Listener
✅ ผลกระทบเชิงบวก
➡️ เพิ่มความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบ Tor
➡️ ลดความยุ่งยากในการจัดการคีย์และการตั้งค่า
‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
⛔ หากยังใช้ Tor เวอร์ชัน C อาจเสี่ยงต่อบั๊กและช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
⛔ การไม่อัปเดตไปสู่ Arti อาจทำให้ระบบถูกติดตามหรือโจมตีได้ง่ายขึ้น
https://itsfoss.com/news/tor-rust-rewrite-progress/
0 Comments
0 Shares
9 Views
0 Reviews