การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในต้นทุนซอฟต์แวร์
บทความของ Martin Alderson ชี้ว่า agentic coding tools และ AI กำลังลดต้นทุนการพัฒนาซอฟต์แวร์ลงถึง 90% โดยการลดแรงงานซ้ำซ้อนและการประสานงานทีม ทำให้โครงการที่เคยใช้เวลาหนึ่งเดือนสามารถเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์ พร้อมเปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจและการใช้งานซอฟต์แวร์ในวงกว้าง
Martin เล่าว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง ตั้งแต่ SaaS, mobile apps, blockchain ไปจนถึง low-code แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2025–2026 คือ การมาถึงของ agentic coding ที่ทำให้ต้นทุนการพัฒนาลดลงอย่างมหาศาล. ตัวอย่างเช่น การสร้างระบบ CRUD และ test suite ที่เคยใช้เวลาหลายวัน ตอนนี้ AI สามารถทำได้ในไม่กี่ชั่วโมง.
ลดแรงงานและการประสานงาน
หนึ่งในต้นทุนที่ใหญ่ที่สุดของการพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ใช่การเขียนโค้ด แต่คือ การประสานงานทีม เช่น standups, code reviews, handoffs ระหว่าง frontend/backend ซึ่ง AI agents สามารถลดภาระเหล่านี้ลงได้อย่างมาก ทำให้ทีมเล็ก ๆ สามารถทำงานได้เทียบเท่าทีมใหญ่ และลด overhead ที่เคยเป็นอุปสรรค.
Jevons Paradox และความต้องการที่ซ่อนอยู่
แม้จะดูเหมือนข่าวร้ายสำหรับนักพัฒนา แต่ Martin ชี้ว่า ต้นทุนที่ลดลงจะกระตุ้นความต้องการใหม่ ๆ ตามหลักเศรษฐศาสตร์ Jevons Paradox เช่นเดียวกับไฟฟ้าที่ทำให้การใช้แสงสว่างเพิ่มขึ้นมหาศาล เมื่อซอฟต์แวร์ถูกลง องค์กรที่เคยลังเลจะลงทุนก็พร้อมสร้างแอปใหม่ ๆ เพื่อแทนที่ Excel หรือระบบ manual ที่มีอยู่.
บทบาทใหม่ของนักพัฒนา
แม้ AI จะทำงานได้มาก แต่ มนุษย์ยังคงสำคัญในฐานะผู้กำกับและตรวจสอบ เพื่อหลีกเลี่ยงโค้ดที่ยุ่งเหยิง การมี domain knowledge และความเข้าใจธุรกิจจะกลายเป็น “moat” ที่แท้จริง นักพัฒนาที่ใช้ AI อย่างชาญฉลาดจะกลายเป็น “10x engineer” ที่สามารถสร้างคุณค่าได้มหาศาล.
สรุปประเด็นสำคัญ
การลดต้นทุนการพัฒนา
Agentic coding tools ลดแรงงานซ้ำซ้อนและการประสานงาน
โครงการที่เคยใช้เวลาหนึ่งเดือนเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ต้นทุนที่ลดลงกระตุ้นความต้องการใหม่ ๆ ตาม Jevons Paradox
องค์กรพร้อมสร้างซอฟต์แวร์แทนระบบ manual
บทบาทใหม่ของนักพัฒนา
มนุษย์ยังจำเป็นในการตรวจสอบและกำกับ AI
Domain knowledge กลายเป็นข้อได้เปรียบหลัก
คำเตือนต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
นักพัฒนาที่เพิกเฉยต่อ AI อาจถูกแทนที่เร็ว
การพึ่งพา AI โดยไม่มี oversight อาจสร้างโค้ดที่ยุ่งเหยิง
องค์กรใหญ่ที่ช้าในการปรับตัวจะเสียเปรียบต่อคู่แข่งที่คล่องตัว
https://martinalderson.com/posts/has-the-cost-of-software-just-dropped-90-percent/
บทความของ Martin Alderson ชี้ว่า agentic coding tools และ AI กำลังลดต้นทุนการพัฒนาซอฟต์แวร์ลงถึง 90% โดยการลดแรงงานซ้ำซ้อนและการประสานงานทีม ทำให้โครงการที่เคยใช้เวลาหนึ่งเดือนสามารถเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์ พร้อมเปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจและการใช้งานซอฟต์แวร์ในวงกว้าง
Martin เล่าว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง ตั้งแต่ SaaS, mobile apps, blockchain ไปจนถึง low-code แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2025–2026 คือ การมาถึงของ agentic coding ที่ทำให้ต้นทุนการพัฒนาลดลงอย่างมหาศาล. ตัวอย่างเช่น การสร้างระบบ CRUD และ test suite ที่เคยใช้เวลาหลายวัน ตอนนี้ AI สามารถทำได้ในไม่กี่ชั่วโมง.
ลดแรงงานและการประสานงาน
หนึ่งในต้นทุนที่ใหญ่ที่สุดของการพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ใช่การเขียนโค้ด แต่คือ การประสานงานทีม เช่น standups, code reviews, handoffs ระหว่าง frontend/backend ซึ่ง AI agents สามารถลดภาระเหล่านี้ลงได้อย่างมาก ทำให้ทีมเล็ก ๆ สามารถทำงานได้เทียบเท่าทีมใหญ่ และลด overhead ที่เคยเป็นอุปสรรค.
Jevons Paradox และความต้องการที่ซ่อนอยู่
แม้จะดูเหมือนข่าวร้ายสำหรับนักพัฒนา แต่ Martin ชี้ว่า ต้นทุนที่ลดลงจะกระตุ้นความต้องการใหม่ ๆ ตามหลักเศรษฐศาสตร์ Jevons Paradox เช่นเดียวกับไฟฟ้าที่ทำให้การใช้แสงสว่างเพิ่มขึ้นมหาศาล เมื่อซอฟต์แวร์ถูกลง องค์กรที่เคยลังเลจะลงทุนก็พร้อมสร้างแอปใหม่ ๆ เพื่อแทนที่ Excel หรือระบบ manual ที่มีอยู่.
บทบาทใหม่ของนักพัฒนา
แม้ AI จะทำงานได้มาก แต่ มนุษย์ยังคงสำคัญในฐานะผู้กำกับและตรวจสอบ เพื่อหลีกเลี่ยงโค้ดที่ยุ่งเหยิง การมี domain knowledge และความเข้าใจธุรกิจจะกลายเป็น “moat” ที่แท้จริง นักพัฒนาที่ใช้ AI อย่างชาญฉลาดจะกลายเป็น “10x engineer” ที่สามารถสร้างคุณค่าได้มหาศาล.
สรุปประเด็นสำคัญ
การลดต้นทุนการพัฒนา
Agentic coding tools ลดแรงงานซ้ำซ้อนและการประสานงาน
โครงการที่เคยใช้เวลาหนึ่งเดือนเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ต้นทุนที่ลดลงกระตุ้นความต้องการใหม่ ๆ ตาม Jevons Paradox
องค์กรพร้อมสร้างซอฟต์แวร์แทนระบบ manual
บทบาทใหม่ของนักพัฒนา
มนุษย์ยังจำเป็นในการตรวจสอบและกำกับ AI
Domain knowledge กลายเป็นข้อได้เปรียบหลัก
คำเตือนต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
นักพัฒนาที่เพิกเฉยต่อ AI อาจถูกแทนที่เร็ว
การพึ่งพา AI โดยไม่มี oversight อาจสร้างโค้ดที่ยุ่งเหยิง
องค์กรใหญ่ที่ช้าในการปรับตัวจะเสียเปรียบต่อคู่แข่งที่คล่องตัว
https://martinalderson.com/posts/has-the-cost-of-software-just-dropped-90-percent/
💻 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในต้นทุนซอฟต์แวร์
บทความของ Martin Alderson ชี้ว่า agentic coding tools และ AI กำลังลดต้นทุนการพัฒนาซอฟต์แวร์ลงถึง 90% โดยการลดแรงงานซ้ำซ้อนและการประสานงานทีม ทำให้โครงการที่เคยใช้เวลาหนึ่งเดือนสามารถเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์ พร้อมเปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจและการใช้งานซอฟต์แวร์ในวงกว้าง
Martin เล่าว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง ตั้งแต่ SaaS, mobile apps, blockchain ไปจนถึง low-code แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2025–2026 คือ การมาถึงของ agentic coding ที่ทำให้ต้นทุนการพัฒนาลดลงอย่างมหาศาล. ตัวอย่างเช่น การสร้างระบบ CRUD และ test suite ที่เคยใช้เวลาหลายวัน ตอนนี้ AI สามารถทำได้ในไม่กี่ชั่วโมง.
⚡ ลดแรงงานและการประสานงาน
หนึ่งในต้นทุนที่ใหญ่ที่สุดของการพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ใช่การเขียนโค้ด แต่คือ การประสานงานทีม เช่น standups, code reviews, handoffs ระหว่าง frontend/backend ซึ่ง AI agents สามารถลดภาระเหล่านี้ลงได้อย่างมาก ทำให้ทีมเล็ก ๆ สามารถทำงานได้เทียบเท่าทีมใหญ่ และลด overhead ที่เคยเป็นอุปสรรค.
📈 Jevons Paradox และความต้องการที่ซ่อนอยู่
แม้จะดูเหมือนข่าวร้ายสำหรับนักพัฒนา แต่ Martin ชี้ว่า ต้นทุนที่ลดลงจะกระตุ้นความต้องการใหม่ ๆ ตามหลักเศรษฐศาสตร์ Jevons Paradox เช่นเดียวกับไฟฟ้าที่ทำให้การใช้แสงสว่างเพิ่มขึ้นมหาศาล เมื่อซอฟต์แวร์ถูกลง องค์กรที่เคยลังเลจะลงทุนก็พร้อมสร้างแอปใหม่ ๆ เพื่อแทนที่ Excel หรือระบบ manual ที่มีอยู่.
🧠 บทบาทใหม่ของนักพัฒนา
แม้ AI จะทำงานได้มาก แต่ มนุษย์ยังคงสำคัญในฐานะผู้กำกับและตรวจสอบ เพื่อหลีกเลี่ยงโค้ดที่ยุ่งเหยิง การมี domain knowledge และความเข้าใจธุรกิจจะกลายเป็น “moat” ที่แท้จริง นักพัฒนาที่ใช้ AI อย่างชาญฉลาดจะกลายเป็น “10x engineer” ที่สามารถสร้างคุณค่าได้มหาศาล.
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ การลดต้นทุนการพัฒนา
➡️ Agentic coding tools ลดแรงงานซ้ำซ้อนและการประสานงาน
➡️ โครงการที่เคยใช้เวลาหนึ่งเดือนเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์
✅ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
➡️ ต้นทุนที่ลดลงกระตุ้นความต้องการใหม่ ๆ ตาม Jevons Paradox
➡️ องค์กรพร้อมสร้างซอฟต์แวร์แทนระบบ manual
✅ บทบาทใหม่ของนักพัฒนา
➡️ มนุษย์ยังจำเป็นในการตรวจสอบและกำกับ AI
➡️ Domain knowledge กลายเป็นข้อได้เปรียบหลัก
‼️ คำเตือนต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
⛔ นักพัฒนาที่เพิกเฉยต่อ AI อาจถูกแทนที่เร็ว
⛔ การพึ่งพา AI โดยไม่มี oversight อาจสร้างโค้ดที่ยุ่งเหยิง
⛔ องค์กรใหญ่ที่ช้าในการปรับตัวจะเสียเปรียบต่อคู่แข่งที่คล่องตัว
https://martinalderson.com/posts/has-the-cost-of-software-just-dropped-90-percent/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
16 มุมมอง
0 รีวิว