รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เตือนความเสี่ยงการใช้ Cloud Storage
รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ผ่าน Conference of Swiss Data Protection Officers (Privatim) ได้ออกมาประกาศเตือนเกี่ยวกับการใช้บริการ Cloud Storage โดยเฉพาะกับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของภาครัฐ หลังจากพบว่ามีความเสี่ยงด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลที่อาจสูญเสียไปเมื่อฝากไว้กับผู้ให้บริการคลาวด์ต่างชาติ
หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือการขาดความโปร่งใสของผู้ให้บริการคลาวด์, การไม่มี end-to-end encryption, และความเสี่ยงจากกฎหมายต่างประเทศ เช่น U.S. Cloud Act ที่บังคับให้ผู้ให้บริการในสหรัฐฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลเมื่อรัฐบาลร้องขอ ซึ่งทำให้ข้อมูลของหน่วยงานรัฐสวิตเซอร์แลนด์อาจถูกเข้าถึงได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
แม้การใช้คลาวด์จะมีข้อดี เช่น ลดค่าใช้จ่าย, ขยายระบบได้ง่าย, และเข้าถึงเครื่องมือ SaaS ได้สะดวก แต่ Privatim แนะนำว่ารัฐบาลควรใช้คลาวด์เฉพาะกรณีที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลเอง และมั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการไม่มีสิทธิ์เข้าถึงกุญแจเข้ารหัสนั้น
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แม้จะไม่ได้ถูกห้ามใช้บริการคลาวด์ แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล ทำให้แนวโน้มการ self-hosting หรือการตั้งเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเพื่อเก็บข้อมูลและจัดการแอปพลิเคชันต่าง ๆ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการลดการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่
สรุปประเด็นสำคัญ
การประกาศจาก Privatim
ห้ามใช้ Cloud สำหรับข้อมูลอ่อนไหวของรัฐบาล
เหตุผลด้านความปลอดภัย
ขาดความโปร่งใส, ไม่มี end-to-end encryption, เสี่ยงจาก U.S. Cloud Act
แนวทางแก้ไข
ใช้คลาวด์ได้หากเข้ารหัสเองและควบคุมกุญแจเข้ารหัส
แนวโน้มผู้ใช้ทั่วไป
Self-hosting เริ่มได้รับความนิยมเพื่อควบคุมข้อมูลเอง
ความเสี่ยงจากการฝากข้อมูลกับคลาวด์ต่างชาติ
อาจถูกเข้าถึงโดยรัฐบาลหรือบุคคลที่สาม
การไม่เข้ารหัสข้อมูลอย่างถูกต้อง
เพิ่มโอกาสที่ข้อมูลรั่วไหลหรือถูกโจมตี
https://www.slashgear.com/2045674/swiss-government-warning-cloud-storage-security-risk/
รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ผ่าน Conference of Swiss Data Protection Officers (Privatim) ได้ออกมาประกาศเตือนเกี่ยวกับการใช้บริการ Cloud Storage โดยเฉพาะกับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของภาครัฐ หลังจากพบว่ามีความเสี่ยงด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลที่อาจสูญเสียไปเมื่อฝากไว้กับผู้ให้บริการคลาวด์ต่างชาติ
หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือการขาดความโปร่งใสของผู้ให้บริการคลาวด์, การไม่มี end-to-end encryption, และความเสี่ยงจากกฎหมายต่างประเทศ เช่น U.S. Cloud Act ที่บังคับให้ผู้ให้บริการในสหรัฐฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลเมื่อรัฐบาลร้องขอ ซึ่งทำให้ข้อมูลของหน่วยงานรัฐสวิตเซอร์แลนด์อาจถูกเข้าถึงได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
แม้การใช้คลาวด์จะมีข้อดี เช่น ลดค่าใช้จ่าย, ขยายระบบได้ง่าย, และเข้าถึงเครื่องมือ SaaS ได้สะดวก แต่ Privatim แนะนำว่ารัฐบาลควรใช้คลาวด์เฉพาะกรณีที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลเอง และมั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการไม่มีสิทธิ์เข้าถึงกุญแจเข้ารหัสนั้น
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แม้จะไม่ได้ถูกห้ามใช้บริการคลาวด์ แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล ทำให้แนวโน้มการ self-hosting หรือการตั้งเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเพื่อเก็บข้อมูลและจัดการแอปพลิเคชันต่าง ๆ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการลดการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่
สรุปประเด็นสำคัญ
การประกาศจาก Privatim
ห้ามใช้ Cloud สำหรับข้อมูลอ่อนไหวของรัฐบาล
เหตุผลด้านความปลอดภัย
ขาดความโปร่งใส, ไม่มี end-to-end encryption, เสี่ยงจาก U.S. Cloud Act
แนวทางแก้ไข
ใช้คลาวด์ได้หากเข้ารหัสเองและควบคุมกุญแจเข้ารหัส
แนวโน้มผู้ใช้ทั่วไป
Self-hosting เริ่มได้รับความนิยมเพื่อควบคุมข้อมูลเอง
ความเสี่ยงจากการฝากข้อมูลกับคลาวด์ต่างชาติ
อาจถูกเข้าถึงโดยรัฐบาลหรือบุคคลที่สาม
การไม่เข้ารหัสข้อมูลอย่างถูกต้อง
เพิ่มโอกาสที่ข้อมูลรั่วไหลหรือถูกโจมตี
https://www.slashgear.com/2045674/swiss-government-warning-cloud-storage-security-risk/
🇨🇭 รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เตือนความเสี่ยงการใช้ Cloud Storage
รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ผ่าน Conference of Swiss Data Protection Officers (Privatim) ได้ออกมาประกาศเตือนเกี่ยวกับการใช้บริการ Cloud Storage โดยเฉพาะกับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของภาครัฐ หลังจากพบว่ามีความเสี่ยงด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลที่อาจสูญเสียไปเมื่อฝากไว้กับผู้ให้บริการคลาวด์ต่างชาติ
หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือการขาดความโปร่งใสของผู้ให้บริการคลาวด์, การไม่มี end-to-end encryption, และความเสี่ยงจากกฎหมายต่างประเทศ เช่น U.S. Cloud Act ที่บังคับให้ผู้ให้บริการในสหรัฐฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลเมื่อรัฐบาลร้องขอ ซึ่งทำให้ข้อมูลของหน่วยงานรัฐสวิตเซอร์แลนด์อาจถูกเข้าถึงได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
แม้การใช้คลาวด์จะมีข้อดี เช่น ลดค่าใช้จ่าย, ขยายระบบได้ง่าย, และเข้าถึงเครื่องมือ SaaS ได้สะดวก แต่ Privatim แนะนำว่ารัฐบาลควรใช้คลาวด์เฉพาะกรณีที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลเอง และมั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการไม่มีสิทธิ์เข้าถึงกุญแจเข้ารหัสนั้น
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แม้จะไม่ได้ถูกห้ามใช้บริการคลาวด์ แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล ทำให้แนวโน้มการ self-hosting หรือการตั้งเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเพื่อเก็บข้อมูลและจัดการแอปพลิเคชันต่าง ๆ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการลดการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ การประกาศจาก Privatim
➡️ ห้ามใช้ Cloud สำหรับข้อมูลอ่อนไหวของรัฐบาล
✅ เหตุผลด้านความปลอดภัย
➡️ ขาดความโปร่งใส, ไม่มี end-to-end encryption, เสี่ยงจาก U.S. Cloud Act
✅ แนวทางแก้ไข
➡️ ใช้คลาวด์ได้หากเข้ารหัสเองและควบคุมกุญแจเข้ารหัส
✅ แนวโน้มผู้ใช้ทั่วไป
➡️ Self-hosting เริ่มได้รับความนิยมเพื่อควบคุมข้อมูลเอง
‼️ ความเสี่ยงจากการฝากข้อมูลกับคลาวด์ต่างชาติ
⛔ อาจถูกเข้าถึงโดยรัฐบาลหรือบุคคลที่สาม
‼️ การไม่เข้ารหัสข้อมูลอย่างถูกต้อง
⛔ เพิ่มโอกาสที่ข้อมูลรั่วไหลหรือถูกโจมตี
https://www.slashgear.com/2045674/swiss-government-warning-cloud-storage-security-risk/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
14 มุมมอง
0 รีวิว