Windows 11 นำ Agenda View กลับมา แต่ใช้ WebView 2
Microsoft กำลังนำฟีเจอร์ Agenda View กลับคืนสู่ Windows 11 หลังจากที่เคยถูกถอดออกไปตั้งแต่เปิดตัวในปี 2021 โดยฟีเจอร์นี้เคยอยู่ใน Action Center ของ Windows 10 และช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่การกลับมาครั้งนี้มีความแตกต่าง เพราะ Microsoft เลือกใช้ WebView 2 Runtime ในการแสดงผลแทนที่จะสร้างเป็นระบบ Native โดยตรง
การทดสอบพบว่า เมื่อเปิด Agenda View จะมีการสร้างหลาย Process ของ WebView 2 ใน Task Manager และทำให้ Windows Shell Experience Host ใช้ CPU เพิ่มขึ้นถึง 6–20% ก่อนจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์นี้อาจมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่อง โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่มีสเปกต่ำหรือใช้งานหลายโปรแกรมพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม Microsoft มีเหตุผลที่เลือกใช้ WebView 2 เพราะช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้การเชื่อมต่อกับบริการ Outlook และ Microsoft Teams ง่ายขึ้น รวมถึงการฝัง Copilot เข้าไปใน Agenda View เพื่อช่วยผู้ใช้จัดการตารางงานได้อัตโนมัติ เช่น การเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Notification Center โดยไม่ต้องเปิดแอปแยก
แม้จะมีข้อดีด้านการเชื่อมต่อและการพัฒนา แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังคงกังวลเรื่อง Performance Overhead ที่อาจทำให้ระบบไม่ลื่นไหลเหมือนการทำงานแบบ Native App ซึ่งเป็นสิ่งที่ Microsoft ต้องหาทางปรับปรุงต่อไป
สรุปประเด็นสำคัญ
การกลับมาของ Agenda View บน Windows 11
ฟีเจอร์นี้เคยมีใน Windows 10 และถูกถอดออกไปเมื่อเปิดตัว Windows 11
ใช้ WebView 2 Runtime แทน Native App
ช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้เชื่อมต่อกับ Outlook, Teams และ Copilot ได้ง่ายขึ้น
การทำงานร่วมกับ Microsoft 365 Copilot
ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Agenda View
ผลกระทบต่อประสิทธิภาพระบบ
การใช้ WebView 2 ทำให้ CPU พุ่งขึ้น 6–20% และอาจทำให้เครื่องหน่วง
ข้อกังวลจากผู้ใช้
ฟีเจอร์ที่ทำงานผ่าน WebView 2 มักไม่ลื่นไหลเท่ากับ Native App และอาจกระทบประสบการณ์ใช้งาน
https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead/
Microsoft กำลังนำฟีเจอร์ Agenda View กลับคืนสู่ Windows 11 หลังจากที่เคยถูกถอดออกไปตั้งแต่เปิดตัวในปี 2021 โดยฟีเจอร์นี้เคยอยู่ใน Action Center ของ Windows 10 และช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่การกลับมาครั้งนี้มีความแตกต่าง เพราะ Microsoft เลือกใช้ WebView 2 Runtime ในการแสดงผลแทนที่จะสร้างเป็นระบบ Native โดยตรง
การทดสอบพบว่า เมื่อเปิด Agenda View จะมีการสร้างหลาย Process ของ WebView 2 ใน Task Manager และทำให้ Windows Shell Experience Host ใช้ CPU เพิ่มขึ้นถึง 6–20% ก่อนจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์นี้อาจมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่อง โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่มีสเปกต่ำหรือใช้งานหลายโปรแกรมพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม Microsoft มีเหตุผลที่เลือกใช้ WebView 2 เพราะช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้การเชื่อมต่อกับบริการ Outlook และ Microsoft Teams ง่ายขึ้น รวมถึงการฝัง Copilot เข้าไปใน Agenda View เพื่อช่วยผู้ใช้จัดการตารางงานได้อัตโนมัติ เช่น การเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Notification Center โดยไม่ต้องเปิดแอปแยก
แม้จะมีข้อดีด้านการเชื่อมต่อและการพัฒนา แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังคงกังวลเรื่อง Performance Overhead ที่อาจทำให้ระบบไม่ลื่นไหลเหมือนการทำงานแบบ Native App ซึ่งเป็นสิ่งที่ Microsoft ต้องหาทางปรับปรุงต่อไป
สรุปประเด็นสำคัญ
การกลับมาของ Agenda View บน Windows 11
ฟีเจอร์นี้เคยมีใน Windows 10 และถูกถอดออกไปเมื่อเปิดตัว Windows 11
ใช้ WebView 2 Runtime แทน Native App
ช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้เชื่อมต่อกับ Outlook, Teams และ Copilot ได้ง่ายขึ้น
การทำงานร่วมกับ Microsoft 365 Copilot
ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Agenda View
ผลกระทบต่อประสิทธิภาพระบบ
การใช้ WebView 2 ทำให้ CPU พุ่งขึ้น 6–20% และอาจทำให้เครื่องหน่วง
ข้อกังวลจากผู้ใช้
ฟีเจอร์ที่ทำงานผ่าน WebView 2 มักไม่ลื่นไหลเท่ากับ Native App และอาจกระทบประสบการณ์ใช้งาน
https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead/
🖥️ Windows 11 นำ Agenda View กลับมา แต่ใช้ WebView 2
Microsoft กำลังนำฟีเจอร์ Agenda View กลับคืนสู่ Windows 11 หลังจากที่เคยถูกถอดออกไปตั้งแต่เปิดตัวในปี 2021 โดยฟีเจอร์นี้เคยอยู่ใน Action Center ของ Windows 10 และช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่การกลับมาครั้งนี้มีความแตกต่าง เพราะ Microsoft เลือกใช้ WebView 2 Runtime ในการแสดงผลแทนที่จะสร้างเป็นระบบ Native โดยตรง
การทดสอบพบว่า เมื่อเปิด Agenda View จะมีการสร้างหลาย Process ของ WebView 2 ใน Task Manager และทำให้ Windows Shell Experience Host ใช้ CPU เพิ่มขึ้นถึง 6–20% ก่อนจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์นี้อาจมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่อง โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่มีสเปกต่ำหรือใช้งานหลายโปรแกรมพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม Microsoft มีเหตุผลที่เลือกใช้ WebView 2 เพราะช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้การเชื่อมต่อกับบริการ Outlook และ Microsoft Teams ง่ายขึ้น รวมถึงการฝัง Copilot เข้าไปใน Agenda View เพื่อช่วยผู้ใช้จัดการตารางงานได้อัตโนมัติ เช่น การเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Notification Center โดยไม่ต้องเปิดแอปแยก
แม้จะมีข้อดีด้านการเชื่อมต่อและการพัฒนา แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังคงกังวลเรื่อง Performance Overhead ที่อาจทำให้ระบบไม่ลื่นไหลเหมือนการทำงานแบบ Native App ซึ่งเป็นสิ่งที่ Microsoft ต้องหาทางปรับปรุงต่อไป
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ การกลับมาของ Agenda View บน Windows 11
➡️ ฟีเจอร์นี้เคยมีใน Windows 10 และถูกถอดออกไปเมื่อเปิดตัว Windows 11
✅ ใช้ WebView 2 Runtime แทน Native App
➡️ ช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้เชื่อมต่อกับ Outlook, Teams และ Copilot ได้ง่ายขึ้น
✅ การทำงานร่วมกับ Microsoft 365 Copilot
➡️ ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Agenda View
‼️ ผลกระทบต่อประสิทธิภาพระบบ
⛔ การใช้ WebView 2 ทำให้ CPU พุ่งขึ้น 6–20% และอาจทำให้เครื่องหน่วง
‼️ ข้อกังวลจากผู้ใช้
⛔ ฟีเจอร์ที่ทำงานผ่าน WebView 2 มักไม่ลื่นไหลเท่ากับ Native App และอาจกระทบประสบการณ์ใช้งาน
https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
43 มุมมอง
0 รีวิว