ฟอนต์ใหม่จาก Google: Sans Flex
Google ได้เปิดตัวฟอนต์โอเพ่นซอร์สใหม่ชื่อ Sans Flex ภายใต้ SIL Open Font License โดยออกแบบโดย David Berlow ฟอนต์นี้ถูกพัฒนาให้เป็น “next-gen brand typeface” ที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายมิติ เช่น น้ำหนัก ความกว้าง ขนาดเชิงสายตา ความเอียง และปลายตัวอักษรที่โค้งมน ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกสไตล์ที่เหมาะสมกับงานออกแบบได้จากไฟล์เดียว.
ความยืดหยุ่นและการใช้งาน
Sans Flex เป็นฟอนต์แบบ variable font ที่รวมหลายสไตล์ไว้ในไฟล์เดียว แทนที่จะต้องดาวน์โหลดหลายไฟล์เหมือนฟอนต์ทั่วไป จุดเด่นคือการแสดงผลที่ชัดเจนบนหน้าจอความละเอียดสูงและระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานกับ fractional scaling ซึ่งช่วยให้ตัวอักษรคมชัดและอ่านง่ายขึ้น.
การติดตั้งและข้อจำกัด
ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Sans Flex ได้จากเว็บไซต์ทางการ และติดตั้งบน Ubuntu หรือ Linux distribution อื่น ๆ ได้ง่าย แต่มีข้อจำกัดคือ ฟีเจอร์ variable font ยังไม่รองรับเต็มที่บน Linux Desktop ทำให้เมื่อใช้งานแบบ system-wide จะได้เพียงสไตล์ปกติ ไม่สามารถปรับแต่งได้ตามที่ฟอนต์รองรับ.
ผลกระทบต่อวงการออกแบบ
การเปิดตัว Sans Flex ถือเป็นการผลักดันวงการฟอนต์โอเพ่นซอร์สให้เติบโตต่อไป นักออกแบบและนักพัฒนาเว็บมองว่าฟอนต์นี้จะช่วยให้การออกแบบ UI/UX มีความทันสมัยและยืดหยุ่นมากขึ้น อีกทั้งยังลดภาระการจัดการไฟล์ฟอนต์จำนวนมาก เพราะรวมทุกสไตล์ไว้ในไฟล์เดียว.
สรุปสาระสำคัญ
Google เปิดตัวฟอนต์ใหม่ชื่อ Sans Flex
เป็นโอเพ่นซอร์สภายใต้ SIL Open Font License
ฟอนต์แบบ Variable Font รองรับการปรับแต่ง 5 มิติ
น้ำหนัก, ความกว้าง, ขนาดเชิงสายตา, ความเอียง, ปลายตัวอักษรโค้งมน
ออกแบบมาเพื่อหน้าจอสมัยใหม่และความละเอียดสูง
ช่วยลดจำนวนไฟล์ฟอนต์ที่ต้องติดตั้ง
สามารถติดตั้งบน Ubuntu และ Linux อื่น ๆ ได้ง่าย
ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ทางการของ Google
ฟีเจอร์ Variable Font ยังไม่รองรับเต็มที่บน Linux Desktop
ใช้งานแบบ system-wide จะได้เพียงสไตล์ปกติ
อาจยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งขั้นสูงบน Linux
ต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อรองรับเต็มรูปแบบ
https://itsfoss.com/news/google-sans-flex/
Google ได้เปิดตัวฟอนต์โอเพ่นซอร์สใหม่ชื่อ Sans Flex ภายใต้ SIL Open Font License โดยออกแบบโดย David Berlow ฟอนต์นี้ถูกพัฒนาให้เป็น “next-gen brand typeface” ที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายมิติ เช่น น้ำหนัก ความกว้าง ขนาดเชิงสายตา ความเอียง และปลายตัวอักษรที่โค้งมน ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกสไตล์ที่เหมาะสมกับงานออกแบบได้จากไฟล์เดียว.
ความยืดหยุ่นและการใช้งาน
Sans Flex เป็นฟอนต์แบบ variable font ที่รวมหลายสไตล์ไว้ในไฟล์เดียว แทนที่จะต้องดาวน์โหลดหลายไฟล์เหมือนฟอนต์ทั่วไป จุดเด่นคือการแสดงผลที่ชัดเจนบนหน้าจอความละเอียดสูงและระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานกับ fractional scaling ซึ่งช่วยให้ตัวอักษรคมชัดและอ่านง่ายขึ้น.
การติดตั้งและข้อจำกัด
ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Sans Flex ได้จากเว็บไซต์ทางการ และติดตั้งบน Ubuntu หรือ Linux distribution อื่น ๆ ได้ง่าย แต่มีข้อจำกัดคือ ฟีเจอร์ variable font ยังไม่รองรับเต็มที่บน Linux Desktop ทำให้เมื่อใช้งานแบบ system-wide จะได้เพียงสไตล์ปกติ ไม่สามารถปรับแต่งได้ตามที่ฟอนต์รองรับ.
ผลกระทบต่อวงการออกแบบ
การเปิดตัว Sans Flex ถือเป็นการผลักดันวงการฟอนต์โอเพ่นซอร์สให้เติบโตต่อไป นักออกแบบและนักพัฒนาเว็บมองว่าฟอนต์นี้จะช่วยให้การออกแบบ UI/UX มีความทันสมัยและยืดหยุ่นมากขึ้น อีกทั้งยังลดภาระการจัดการไฟล์ฟอนต์จำนวนมาก เพราะรวมทุกสไตล์ไว้ในไฟล์เดียว.
สรุปสาระสำคัญ
Google เปิดตัวฟอนต์ใหม่ชื่อ Sans Flex
เป็นโอเพ่นซอร์สภายใต้ SIL Open Font License
ฟอนต์แบบ Variable Font รองรับการปรับแต่ง 5 มิติ
น้ำหนัก, ความกว้าง, ขนาดเชิงสายตา, ความเอียง, ปลายตัวอักษรโค้งมน
ออกแบบมาเพื่อหน้าจอสมัยใหม่และความละเอียดสูง
ช่วยลดจำนวนไฟล์ฟอนต์ที่ต้องติดตั้ง
สามารถติดตั้งบน Ubuntu และ Linux อื่น ๆ ได้ง่าย
ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ทางการของ Google
ฟีเจอร์ Variable Font ยังไม่รองรับเต็มที่บน Linux Desktop
ใช้งานแบบ system-wide จะได้เพียงสไตล์ปกติ
อาจยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งขั้นสูงบน Linux
ต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อรองรับเต็มรูปแบบ
https://itsfoss.com/news/google-sans-flex/
🖋️ ฟอนต์ใหม่จาก Google: Sans Flex
Google ได้เปิดตัวฟอนต์โอเพ่นซอร์สใหม่ชื่อ Sans Flex ภายใต้ SIL Open Font License โดยออกแบบโดย David Berlow ฟอนต์นี้ถูกพัฒนาให้เป็น “next-gen brand typeface” ที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายมิติ เช่น น้ำหนัก ความกว้าง ขนาดเชิงสายตา ความเอียง และปลายตัวอักษรที่โค้งมน ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกสไตล์ที่เหมาะสมกับงานออกแบบได้จากไฟล์เดียว.
💻 ความยืดหยุ่นและการใช้งาน
Sans Flex เป็นฟอนต์แบบ variable font ที่รวมหลายสไตล์ไว้ในไฟล์เดียว แทนที่จะต้องดาวน์โหลดหลายไฟล์เหมือนฟอนต์ทั่วไป จุดเด่นคือการแสดงผลที่ชัดเจนบนหน้าจอความละเอียดสูงและระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานกับ fractional scaling ซึ่งช่วยให้ตัวอักษรคมชัดและอ่านง่ายขึ้น.
🌐 การติดตั้งและข้อจำกัด
ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Sans Flex ได้จากเว็บไซต์ทางการ และติดตั้งบน Ubuntu หรือ Linux distribution อื่น ๆ ได้ง่าย แต่มีข้อจำกัดคือ ฟีเจอร์ variable font ยังไม่รองรับเต็มที่บน Linux Desktop ทำให้เมื่อใช้งานแบบ system-wide จะได้เพียงสไตล์ปกติ ไม่สามารถปรับแต่งได้ตามที่ฟอนต์รองรับ.
📈 ผลกระทบต่อวงการออกแบบ
การเปิดตัว Sans Flex ถือเป็นการผลักดันวงการฟอนต์โอเพ่นซอร์สให้เติบโตต่อไป นักออกแบบและนักพัฒนาเว็บมองว่าฟอนต์นี้จะช่วยให้การออกแบบ UI/UX มีความทันสมัยและยืดหยุ่นมากขึ้น อีกทั้งยังลดภาระการจัดการไฟล์ฟอนต์จำนวนมาก เพราะรวมทุกสไตล์ไว้ในไฟล์เดียว.
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ Google เปิดตัวฟอนต์ใหม่ชื่อ Sans Flex
➡️ เป็นโอเพ่นซอร์สภายใต้ SIL Open Font License
✅ ฟอนต์แบบ Variable Font รองรับการปรับแต่ง 5 มิติ
➡️ น้ำหนัก, ความกว้าง, ขนาดเชิงสายตา, ความเอียง, ปลายตัวอักษรโค้งมน
✅ ออกแบบมาเพื่อหน้าจอสมัยใหม่และความละเอียดสูง
➡️ ช่วยลดจำนวนไฟล์ฟอนต์ที่ต้องติดตั้ง
✅ สามารถติดตั้งบน Ubuntu และ Linux อื่น ๆ ได้ง่าย
➡️ ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ทางการของ Google
‼️ ฟีเจอร์ Variable Font ยังไม่รองรับเต็มที่บน Linux Desktop
⛔ ใช้งานแบบ system-wide จะได้เพียงสไตล์ปกติ
‼️ อาจยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งขั้นสูงบน Linux
⛔ ต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อรองรับเต็มรูปแบบ
https://itsfoss.com/news/google-sans-flex/
0 Comments
0 Shares
10 Views
0 Reviews