ฟ้าแลบบนดาวอังคาร
ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย Baptiste Chide จาก University of Toulouse ใช้ไมโครโฟน SuperCam บนยาน Perseverance Rover ตรวจพบการปลดปล่อยไฟฟ้า (electrical discharges) ระหว่างพายุฝุ่นและ “dust devils” บนดาวอังคาร รวมทั้งหมด 55 ครั้งในช่วงสองปีดาวอังคาร การค้นพบนี้ยืนยันว่าบรรยากาศที่บางและแห้งของดาวอังคารสามารถสร้างไฟฟ้าได้จริง แม้จะไม่มีไอน้ำเหมือนโลก
วิธีการตรวจจับ
ไมโครโฟนของ Perseverance สามารถบันทึกทั้งเสียงและสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า นักวิจัยพบ “blip” อิเล็กทรอนิกส์ตามด้วยเสียงคล้ายฟ้าร้องขนาดเล็กที่เกิดจากการขยายตัวของอากาศรอบการปลดปล่อยไฟฟ้า ซึ่งเป็นหลักฐานตรงของฟ้าแลบขนาดจิ๋วบนดาวอังคาร
เงื่อนไขที่ทำให้เกิดฟ้าแลบ
การเกิดฟ้าแลบไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝุ่นหนาแน่นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมี ลมแรงจัด ซึ่งส่วนใหญ่พบในช่วงพายุฝุ่นและที่ขอบของกระแสลมแรง โดย 54 ใน 55 เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่แรงลมอยู่ในระดับสูงสุด 30% ของที่บันทึกได้
ความหมายต่ออนาคต
แม้พลังงานของฟ้าแลบบนดาวอังคารจะเล็กมาก (0.1–150 นาโนจูล และสูงสุด 40 มิลลิจูล) เมื่อเทียบกับฟ้าแลบบนโลกที่มีพลังงานระดับพันล้านจูล แต่การค้นพบนี้มีผลต่อการออกแบบเทคโนโลยีสำรวจในอนาคต และยังช่วยให้นักดาราศาสตร์ชีววิทยาประเมินโอกาสการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่อาจนำไปสู่การกำเนิดชีวิตบนดาวอังคารได้
สรุปสาระสำคัญ
NASA ตรวจพบฟ้าแลบบนดาวอังคารครั้งแรก
บันทึกได้ 55 ครั้งในสองปีดาวอังคาร
ใช้ไมโครโฟน SuperCam บน Perseverance Rover
หลักฐานการเกิดฟ้าแลบ
พบสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้าและเสียงคล้ายฟ้าร้อง
ยืนยันการปลดปล่อยไฟฟ้าในบรรยากาศบางและแห้ง
เงื่อนไขการเกิดฟ้าแลบ
ต้องมีลมแรงจัดและพายุฝุ่น
ส่วนใหญ่เกิดในช่วงแรงลมสูงสุด 30%
ความหมายต่อการสำรวจ
ช่วยออกแบบเทคโนโลยีป้องกันไฟฟ้าสำหรับภารกิจในอนาคต
เพิ่มข้อมูลต่อการศึกษาความเป็นไปได้ของชีวิตบนดาวอังคาร
ข้อควรระวัง
ฟ้าแลบบนดาวอังคารมีพลังงานต่ำมากเมื่อเทียบกับโลก
อาจสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์สำรวจหากไม่ได้รับการป้องกัน
https://www.sciencealert.com/nasa-recorded-lightning-crackling-on-mars-for-the-first-time
ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย Baptiste Chide จาก University of Toulouse ใช้ไมโครโฟน SuperCam บนยาน Perseverance Rover ตรวจพบการปลดปล่อยไฟฟ้า (electrical discharges) ระหว่างพายุฝุ่นและ “dust devils” บนดาวอังคาร รวมทั้งหมด 55 ครั้งในช่วงสองปีดาวอังคาร การค้นพบนี้ยืนยันว่าบรรยากาศที่บางและแห้งของดาวอังคารสามารถสร้างไฟฟ้าได้จริง แม้จะไม่มีไอน้ำเหมือนโลก
วิธีการตรวจจับ
ไมโครโฟนของ Perseverance สามารถบันทึกทั้งเสียงและสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า นักวิจัยพบ “blip” อิเล็กทรอนิกส์ตามด้วยเสียงคล้ายฟ้าร้องขนาดเล็กที่เกิดจากการขยายตัวของอากาศรอบการปลดปล่อยไฟฟ้า ซึ่งเป็นหลักฐานตรงของฟ้าแลบขนาดจิ๋วบนดาวอังคาร
เงื่อนไขที่ทำให้เกิดฟ้าแลบ
การเกิดฟ้าแลบไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝุ่นหนาแน่นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมี ลมแรงจัด ซึ่งส่วนใหญ่พบในช่วงพายุฝุ่นและที่ขอบของกระแสลมแรง โดย 54 ใน 55 เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่แรงลมอยู่ในระดับสูงสุด 30% ของที่บันทึกได้
ความหมายต่ออนาคต
แม้พลังงานของฟ้าแลบบนดาวอังคารจะเล็กมาก (0.1–150 นาโนจูล และสูงสุด 40 มิลลิจูล) เมื่อเทียบกับฟ้าแลบบนโลกที่มีพลังงานระดับพันล้านจูล แต่การค้นพบนี้มีผลต่อการออกแบบเทคโนโลยีสำรวจในอนาคต และยังช่วยให้นักดาราศาสตร์ชีววิทยาประเมินโอกาสการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่อาจนำไปสู่การกำเนิดชีวิตบนดาวอังคารได้
สรุปสาระสำคัญ
NASA ตรวจพบฟ้าแลบบนดาวอังคารครั้งแรก
บันทึกได้ 55 ครั้งในสองปีดาวอังคาร
ใช้ไมโครโฟน SuperCam บน Perseverance Rover
หลักฐานการเกิดฟ้าแลบ
พบสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้าและเสียงคล้ายฟ้าร้อง
ยืนยันการปลดปล่อยไฟฟ้าในบรรยากาศบางและแห้ง
เงื่อนไขการเกิดฟ้าแลบ
ต้องมีลมแรงจัดและพายุฝุ่น
ส่วนใหญ่เกิดในช่วงแรงลมสูงสุด 30%
ความหมายต่อการสำรวจ
ช่วยออกแบบเทคโนโลยีป้องกันไฟฟ้าสำหรับภารกิจในอนาคต
เพิ่มข้อมูลต่อการศึกษาความเป็นไปได้ของชีวิตบนดาวอังคาร
ข้อควรระวัง
ฟ้าแลบบนดาวอังคารมีพลังงานต่ำมากเมื่อเทียบกับโลก
อาจสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์สำรวจหากไม่ได้รับการป้องกัน
https://www.sciencealert.com/nasa-recorded-lightning-crackling-on-mars-for-the-first-time
⚡ ฟ้าแลบบนดาวอังคาร
ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย Baptiste Chide จาก University of Toulouse ใช้ไมโครโฟน SuperCam บนยาน Perseverance Rover ตรวจพบการปลดปล่อยไฟฟ้า (electrical discharges) ระหว่างพายุฝุ่นและ “dust devils” บนดาวอังคาร รวมทั้งหมด 55 ครั้งในช่วงสองปีดาวอังคาร การค้นพบนี้ยืนยันว่าบรรยากาศที่บางและแห้งของดาวอังคารสามารถสร้างไฟฟ้าได้จริง แม้จะไม่มีไอน้ำเหมือนโลก
🎙️ วิธีการตรวจจับ
ไมโครโฟนของ Perseverance สามารถบันทึกทั้งเสียงและสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า นักวิจัยพบ “blip” อิเล็กทรอนิกส์ตามด้วยเสียงคล้ายฟ้าร้องขนาดเล็กที่เกิดจากการขยายตัวของอากาศรอบการปลดปล่อยไฟฟ้า ซึ่งเป็นหลักฐานตรงของฟ้าแลบขนาดจิ๋วบนดาวอังคาร
🌪️ เงื่อนไขที่ทำให้เกิดฟ้าแลบ
การเกิดฟ้าแลบไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝุ่นหนาแน่นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมี ลมแรงจัด ซึ่งส่วนใหญ่พบในช่วงพายุฝุ่นและที่ขอบของกระแสลมแรง โดย 54 ใน 55 เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่แรงลมอยู่ในระดับสูงสุด 30% ของที่บันทึกได้
🌍 ความหมายต่ออนาคต
แม้พลังงานของฟ้าแลบบนดาวอังคารจะเล็กมาก (0.1–150 นาโนจูล และสูงสุด 40 มิลลิจูล) เมื่อเทียบกับฟ้าแลบบนโลกที่มีพลังงานระดับพันล้านจูล แต่การค้นพบนี้มีผลต่อการออกแบบเทคโนโลยีสำรวจในอนาคต และยังช่วยให้นักดาราศาสตร์ชีววิทยาประเมินโอกาสการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่อาจนำไปสู่การกำเนิดชีวิตบนดาวอังคารได้
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ NASA ตรวจพบฟ้าแลบบนดาวอังคารครั้งแรก
➡️ บันทึกได้ 55 ครั้งในสองปีดาวอังคาร
➡️ ใช้ไมโครโฟน SuperCam บน Perseverance Rover
✅ หลักฐานการเกิดฟ้าแลบ
➡️ พบสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้าและเสียงคล้ายฟ้าร้อง
➡️ ยืนยันการปลดปล่อยไฟฟ้าในบรรยากาศบางและแห้ง
✅ เงื่อนไขการเกิดฟ้าแลบ
➡️ ต้องมีลมแรงจัดและพายุฝุ่น
➡️ ส่วนใหญ่เกิดในช่วงแรงลมสูงสุด 30%
✅ ความหมายต่อการสำรวจ
➡️ ช่วยออกแบบเทคโนโลยีป้องกันไฟฟ้าสำหรับภารกิจในอนาคต
➡️ เพิ่มข้อมูลต่อการศึกษาความเป็นไปได้ของชีวิตบนดาวอังคาร
‼️ ข้อควรระวัง
⛔ ฟ้าแลบบนดาวอังคารมีพลังงานต่ำมากเมื่อเทียบกับโลก
⛔ อาจสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์สำรวจหากไม่ได้รับการป้องกัน
https://www.sciencealert.com/nasa-recorded-lightning-crackling-on-mars-for-the-first-time
0 Comments
0 Shares
25 Views
0 Reviews