จาก GPT-3 สู่ Gemini 3: สามปีแห่งการเปลี่ยนโลก AI
บทความโดย Ethan Mollick เล่าถึงการเดินทางของ AI ตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ที่ใช้ GPT-3.5 จนถึงการมาถึงของ Gemini 3 ของ Google ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภายในเวลาไม่ถึง 1,000 วัน AI ได้ก้าวกระโดดจากการสร้างบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การทำงานในระดับ “ผู้ช่วยดิจิทัล” ที่สามารถเขียนโค้ด ออกแบบอินเทอร์เฟซ และสร้างเกมเล็ก ๆ ได้เอง
จาก Chatbot สู่ Digital Coworker
Mollick ทดลองให้ Gemini 3 ทำงานจริง เช่น สร้างเว็บไซต์ที่รวบรวมคำทำนายเก่า ๆ ของเขา โดย AI สามารถอ่านไฟล์จำนวนมาก วางแผนการทำงาน ทำการค้นคว้า และสร้างผลลัพธ์ที่ใช้งานได้จริง พร้อมตรวจสอบกับผู้ใช้เป็นระยะ ๆ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลัง “จัดการทีมงาน” มากกว่าการพิมพ์คำสั่งให้ chatbot ตอบ
ระดับปัญญาเทียบเท่านักศึกษาปริญญาเอก
Gemini 3 ยังถูกทดสอบด้วยงานวิจัยจริง โดย Mollick ให้มันทำการวิเคราะห์ข้อมูลเก่าและเขียนบทความวิชาการ ผลลัพธ์คือเอกสาร 14 หน้า ที่มีการตั้งสมมติฐานใหม่ วิเคราะห์เชิงสถิติ และสร้างมาตรวัดใหม่ ๆ แม้ยังมีข้อบกพร่อง แต่ก็ใกล้เคียงกับการทำงานของนักศึกษาปริญญาเอกที่ต้องการการชี้แนะจากอาจารย์
ความหมายต่ออนาคตการทำงาน
Mollick สรุปว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ที่ต้องการการกำกับดูแลเหมือนทีมงานจริง ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT และจะส่งผลต่อวิธีการทำงาน การเรียนรู้ และการจัดการองค์กรในอนาคต
สรุปสาระสำคัญ
การพัฒนา AI ภายใน 3 ปี
จากการเขียนบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การสร้างเกมและเว็บไซต์
ความสามารถของ Gemini 3
ทำงานเชิงรุก วางแผน และตรวจสอบกับผู้ใช้
การทดสอบระดับวิชาการ
เขียนบทความวิจัย 14 หน้า พร้อมการวิเคราะห์เชิงสถิติ
ความหมายต่ออนาคต
AI กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล”
คำเตือนจาก Mollick
AI ยังต้องการการกำกับดูแล ไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์เอง
ความเสี่ยงต่อการใช้งานจริง
หากไม่มีการตรวจสอบ อาจเกิดข้อผิดพลาดเชิงวิชาการหรือการตีความ
https://www.oneusefulthing.org/p/three-years-from-gpt-3-to-gemini
บทความโดย Ethan Mollick เล่าถึงการเดินทางของ AI ตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ที่ใช้ GPT-3.5 จนถึงการมาถึงของ Gemini 3 ของ Google ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภายในเวลาไม่ถึง 1,000 วัน AI ได้ก้าวกระโดดจากการสร้างบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การทำงานในระดับ “ผู้ช่วยดิจิทัล” ที่สามารถเขียนโค้ด ออกแบบอินเทอร์เฟซ และสร้างเกมเล็ก ๆ ได้เอง
จาก Chatbot สู่ Digital Coworker
Mollick ทดลองให้ Gemini 3 ทำงานจริง เช่น สร้างเว็บไซต์ที่รวบรวมคำทำนายเก่า ๆ ของเขา โดย AI สามารถอ่านไฟล์จำนวนมาก วางแผนการทำงาน ทำการค้นคว้า และสร้างผลลัพธ์ที่ใช้งานได้จริง พร้อมตรวจสอบกับผู้ใช้เป็นระยะ ๆ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลัง “จัดการทีมงาน” มากกว่าการพิมพ์คำสั่งให้ chatbot ตอบ
ระดับปัญญาเทียบเท่านักศึกษาปริญญาเอก
Gemini 3 ยังถูกทดสอบด้วยงานวิจัยจริง โดย Mollick ให้มันทำการวิเคราะห์ข้อมูลเก่าและเขียนบทความวิชาการ ผลลัพธ์คือเอกสาร 14 หน้า ที่มีการตั้งสมมติฐานใหม่ วิเคราะห์เชิงสถิติ และสร้างมาตรวัดใหม่ ๆ แม้ยังมีข้อบกพร่อง แต่ก็ใกล้เคียงกับการทำงานของนักศึกษาปริญญาเอกที่ต้องการการชี้แนะจากอาจารย์
ความหมายต่ออนาคตการทำงาน
Mollick สรุปว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ที่ต้องการการกำกับดูแลเหมือนทีมงานจริง ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT และจะส่งผลต่อวิธีการทำงาน การเรียนรู้ และการจัดการองค์กรในอนาคต
สรุปสาระสำคัญ
การพัฒนา AI ภายใน 3 ปี
จากการเขียนบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การสร้างเกมและเว็บไซต์
ความสามารถของ Gemini 3
ทำงานเชิงรุก วางแผน และตรวจสอบกับผู้ใช้
การทดสอบระดับวิชาการ
เขียนบทความวิจัย 14 หน้า พร้อมการวิเคราะห์เชิงสถิติ
ความหมายต่ออนาคต
AI กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล”
คำเตือนจาก Mollick
AI ยังต้องการการกำกับดูแล ไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์เอง
ความเสี่ยงต่อการใช้งานจริง
หากไม่มีการตรวจสอบ อาจเกิดข้อผิดพลาดเชิงวิชาการหรือการตีความ
https://www.oneusefulthing.org/p/three-years-from-gpt-3-to-gemini
🚀 จาก GPT-3 สู่ Gemini 3: สามปีแห่งการเปลี่ยนโลก AI
บทความโดย Ethan Mollick เล่าถึงการเดินทางของ AI ตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ที่ใช้ GPT-3.5 จนถึงการมาถึงของ Gemini 3 ของ Google ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภายในเวลาไม่ถึง 1,000 วัน AI ได้ก้าวกระโดดจากการสร้างบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การทำงานในระดับ “ผู้ช่วยดิจิทัล” ที่สามารถเขียนโค้ด ออกแบบอินเทอร์เฟซ และสร้างเกมเล็ก ๆ ได้เอง
🛠️ จาก Chatbot สู่ Digital Coworker
Mollick ทดลองให้ Gemini 3 ทำงานจริง เช่น สร้างเว็บไซต์ที่รวบรวมคำทำนายเก่า ๆ ของเขา โดย AI สามารถอ่านไฟล์จำนวนมาก วางแผนการทำงาน ทำการค้นคว้า และสร้างผลลัพธ์ที่ใช้งานได้จริง พร้อมตรวจสอบกับผู้ใช้เป็นระยะ ๆ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลัง “จัดการทีมงาน” มากกว่าการพิมพ์คำสั่งให้ chatbot ตอบ
🎓 ระดับปัญญาเทียบเท่านักศึกษาปริญญาเอก
Gemini 3 ยังถูกทดสอบด้วยงานวิจัยจริง โดย Mollick ให้มันทำการวิเคราะห์ข้อมูลเก่าและเขียนบทความวิชาการ ผลลัพธ์คือเอกสาร 14 หน้า ที่มีการตั้งสมมติฐานใหม่ วิเคราะห์เชิงสถิติ และสร้างมาตรวัดใหม่ ๆ แม้ยังมีข้อบกพร่อง แต่ก็ใกล้เคียงกับการทำงานของนักศึกษาปริญญาเอกที่ต้องการการชี้แนะจากอาจารย์
🌍 ความหมายต่ออนาคตการทำงาน
Mollick สรุปว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ที่ต้องการการกำกับดูแลเหมือนทีมงานจริง ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT และจะส่งผลต่อวิธีการทำงาน การเรียนรู้ และการจัดการองค์กรในอนาคต
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ การพัฒนา AI ภายใน 3 ปี
➡️ จากการเขียนบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การสร้างเกมและเว็บไซต์
✅ ความสามารถของ Gemini 3
➡️ ทำงานเชิงรุก วางแผน และตรวจสอบกับผู้ใช้
✅ การทดสอบระดับวิชาการ
➡️ เขียนบทความวิจัย 14 หน้า พร้อมการวิเคราะห์เชิงสถิติ
✅ ความหมายต่ออนาคต
➡️ AI กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล”
‼️ คำเตือนจาก Mollick
⛔ AI ยังต้องการการกำกับดูแล ไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์เอง
‼️ ความเสี่ยงต่อการใช้งานจริง
⛔ หากไม่มีการตรวจสอบ อาจเกิดข้อผิดพลาดเชิงวิชาการหรือการตีความ
https://www.oneusefulthing.org/p/three-years-from-gpt-3-to-gemini
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
7 มุมมอง
0 รีวิว