หัวข้อข่าว: "เพื่อนวัยเด็กมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ในอนาคตมากกว่าแม่"

ทฤษฎีการยึดเหนี่ยว (Attachment Theory) ที่ริเริ่มโดย John Bowlby ในทศวรรษ 1970 เคยเชื่อว่าความสัมพันธ์กับพ่อแม่ โดยเฉพาะแม่ เป็นตัวกำหนดรูปแบบความผูกพันในอนาคต แต่การศึกษาระยะยาวกว่า 30 ปีล่าสุดกลับพบว่า เพื่อนวัยเด็กมีบทบาทสำคัญกว่า.

งานวิจัยนี้ติดตามเด็กกว่า 1,364 คนตั้งแต่ปี 1991 และต่อเนื่องจนพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ช่วงอายุ 26–31 ปี ผลการวิเคราะห์ชี้ว่า ความสัมพันธ์กับแม่มีผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์เพียง 2–3% ขณะที่ คุณภาพของมิตรภาพในวัยเด็กส่งผลถึง 10–11% ต่อการหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ และ 4% ต่อความวิตกกังวลในความสัมพันธ์กับคู่รักและเพื่อนสนิท.

นักวิจัยอธิบายว่า มิตรภาพในวัยเด็กคือการฝึกฝน “การให้และรับ” ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ในวัยผู้ใหญ่ หากเด็กมีเพื่อนที่ดีและรู้สึกเชื่อมโยง ก็มีแนวโน้มที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและปลอดภัยเมื่อโตขึ้น.

ผลการศึกษานี้จึงท้าทายความเชื่อเดิม และชี้ให้เห็นว่า การเลือกเพื่อนในวัยเรียนมีผลต่อชีวิตในระยะยาว ไม่แพ้การเลี้ยงดูจากครอบครัว.

สรุปสาระสำคัญ
การศึกษาระยะยาว 30 ปี
ติดตามเด็กกว่า 1,364 คนตั้งแต่ปี 1991 จนถึงวัยผู้ใหญ่

ผลกระทบจากแม่
มีผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์เพียง 2–3%

ผลกระทบจากเพื่อนวัยเด็ก
ส่งผล 10–11% ต่อการหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์
ส่งผล 4% ต่อความวิตกกังวลในความสัมพันธ์กับคู่รักและเพื่อนสนิท

ข้อสรุปของนักวิจัย
มิตรภาพวัยเด็กคือการฝึกฝนการให้และรับ ซึ่งสะท้อนในความสัมพันธ์ตอนโต

คำเตือนด้านการเลี้ยงดู
แม้แม่ยังมีบทบาท แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการสร้าง attachment styles

คำเตือนด้านสังคม
การขาดมิตรภาพที่ดีในวัยเด็กอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงในอนาคต

https://nautil.us/childhood-friends-not-moms-shape-attachment-styles-most-1247316/
🧑‍🤝‍🧑 หัวข้อข่าว: "เพื่อนวัยเด็กมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ในอนาคตมากกว่าแม่" ทฤษฎีการยึดเหนี่ยว (Attachment Theory) ที่ริเริ่มโดย John Bowlby ในทศวรรษ 1970 เคยเชื่อว่าความสัมพันธ์กับพ่อแม่ โดยเฉพาะแม่ เป็นตัวกำหนดรูปแบบความผูกพันในอนาคต แต่การศึกษาระยะยาวกว่า 30 ปีล่าสุดกลับพบว่า เพื่อนวัยเด็กมีบทบาทสำคัญกว่า. งานวิจัยนี้ติดตามเด็กกว่า 1,364 คนตั้งแต่ปี 1991 และต่อเนื่องจนพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ช่วงอายุ 26–31 ปี ผลการวิเคราะห์ชี้ว่า ความสัมพันธ์กับแม่มีผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์เพียง 2–3% ขณะที่ คุณภาพของมิตรภาพในวัยเด็กส่งผลถึง 10–11% ต่อการหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ และ 4% ต่อความวิตกกังวลในความสัมพันธ์กับคู่รักและเพื่อนสนิท. นักวิจัยอธิบายว่า มิตรภาพในวัยเด็กคือการฝึกฝน “การให้และรับ” ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ในวัยผู้ใหญ่ หากเด็กมีเพื่อนที่ดีและรู้สึกเชื่อมโยง ก็มีแนวโน้มที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและปลอดภัยเมื่อโตขึ้น. ผลการศึกษานี้จึงท้าทายความเชื่อเดิม และชี้ให้เห็นว่า การเลือกเพื่อนในวัยเรียนมีผลต่อชีวิตในระยะยาว ไม่แพ้การเลี้ยงดูจากครอบครัว. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การศึกษาระยะยาว 30 ปี ➡️ ติดตามเด็กกว่า 1,364 คนตั้งแต่ปี 1991 จนถึงวัยผู้ใหญ่ ✅ ผลกระทบจากแม่ ➡️ มีผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์เพียง 2–3% ✅ ผลกระทบจากเพื่อนวัยเด็ก ➡️ ส่งผล 10–11% ต่อการหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ ➡️ ส่งผล 4% ต่อความวิตกกังวลในความสัมพันธ์กับคู่รักและเพื่อนสนิท ✅ ข้อสรุปของนักวิจัย ➡️ มิตรภาพวัยเด็กคือการฝึกฝนการให้และรับ ซึ่งสะท้อนในความสัมพันธ์ตอนโต ‼️ คำเตือนด้านการเลี้ยงดู ⛔ แม้แม่ยังมีบทบาท แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการสร้าง attachment styles ‼️ คำเตือนด้านสังคม ⛔ การขาดมิตรภาพที่ดีในวัยเด็กอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงในอนาคต https://nautil.us/childhood-friends-not-moms-shape-attachment-styles-most-1247316/
NAUTIL.US
Childhood Friends, Not Moms, Shape Attachment Styles Most
Childhood Friends, Not Moms, Shape Attachment Styles Most: A new study upends conventional wisdom about how we relate to those closest to us.
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว