Windows 11 เพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Restore
Microsoft ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Restore ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนระบบกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่บันทึกไว้ทุก 24 ชั่วโมง โดย snapshot จะถูกเก็บไว้ 72 ชั่วโมง ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจาก อัปเดตผิดพลาด, ไดรเวอร์มีปัญหา, หรือการตั้งค่าที่ผิดพลาด ได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์นี้คล้ายกับ System Restore แต่ทำงานอัตโนมัติและมีความแม่นยำมากกว่า
WinRE รองรับเครือข่ายอัตโนมัติ
อีกหนึ่งการปรับปรุงคือ WinRE (Windows Recovery Environment) ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์เองเหมือนเดิม ระบบจะดึงไดรเวอร์จาก Windows หลักมาใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแพตช์หรือแก้ไขปัญหาออนไลน์ได้สะดวกขึ้น โดยเริ่มจากการรองรับ Ethernet และจะขยายไปยัง Wi-Fi WPA2/3 ในอนาคต
Cloud Rebuild สำหรับองค์กร
Microsoft ยังเปิดตัว Cloud Rebuild ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่สูญเสียข้อมูลผู้ใช้ ผ่านการเชื่อมต่อกับ OneDrive for Business ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อองค์กรที่ต้องการความต่อเนื่องในการทำงาน แม้เครื่องจะต้องถูกติดตั้งระบบใหม่ทั้งหมด
ฟีเจอร์ซ่อนหน้าจอ Error บนจอแสดงผลสาธารณะ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Commercial Display Devices ที่จะซ่อนข้อความ error บนหน้าจอสาธารณะ โดยจะแสดงเพียง 15 วินาทีแล้วหายไป เพื่อไม่ให้ผู้ชมเห็นข้อความผิดพลาดที่อาจสร้างความไม่เชื่อมั่น
สรุปสาระสำคัญ
ข้อมูลจากข่าว
ฟีเจอร์ Point-in-Time Restore บันทึก snapshot ทุก 24 ชั่วโมง และเก็บไว้ 72 ชั่วโมง
WinRE รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายอัตโนมัติ เริ่มจาก Ethernet และจะเพิ่ม Wi-Fi WPA2/3
Cloud Rebuild ช่วยติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่สูญเสียข้อมูลผู้ใช้ ผ่าน OneDrive for Business
ฟีเจอร์ซ่อน error บนจอแสดงผลสาธารณะ แสดงเพียง 15 วินาทีแล้วหายไป
คำเตือนจากข่าว
Snapshot มีอายุเพียง 72 ชั่วโมง หากไม่กู้คืนทันเวลาอาจสูญเสียโอกาสแก้ไข
การเชื่อมต่อ WinRE ผ่านเครือข่ายอาจเสี่ยงต่อการโจมตีหากไม่มีการป้องกันที่ดี
Cloud Rebuild ต้องพึ่งพา OneDrive for Business หากระบบคลาวด์มีปัญหาอาจกระทบต่อการกู้คืน
https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment/
Microsoft ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Restore ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนระบบกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่บันทึกไว้ทุก 24 ชั่วโมง โดย snapshot จะถูกเก็บไว้ 72 ชั่วโมง ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจาก อัปเดตผิดพลาด, ไดรเวอร์มีปัญหา, หรือการตั้งค่าที่ผิดพลาด ได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์นี้คล้ายกับ System Restore แต่ทำงานอัตโนมัติและมีความแม่นยำมากกว่า
WinRE รองรับเครือข่ายอัตโนมัติ
อีกหนึ่งการปรับปรุงคือ WinRE (Windows Recovery Environment) ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์เองเหมือนเดิม ระบบจะดึงไดรเวอร์จาก Windows หลักมาใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแพตช์หรือแก้ไขปัญหาออนไลน์ได้สะดวกขึ้น โดยเริ่มจากการรองรับ Ethernet และจะขยายไปยัง Wi-Fi WPA2/3 ในอนาคต
Cloud Rebuild สำหรับองค์กร
Microsoft ยังเปิดตัว Cloud Rebuild ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่สูญเสียข้อมูลผู้ใช้ ผ่านการเชื่อมต่อกับ OneDrive for Business ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อองค์กรที่ต้องการความต่อเนื่องในการทำงาน แม้เครื่องจะต้องถูกติดตั้งระบบใหม่ทั้งหมด
ฟีเจอร์ซ่อนหน้าจอ Error บนจอแสดงผลสาธารณะ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Commercial Display Devices ที่จะซ่อนข้อความ error บนหน้าจอสาธารณะ โดยจะแสดงเพียง 15 วินาทีแล้วหายไป เพื่อไม่ให้ผู้ชมเห็นข้อความผิดพลาดที่อาจสร้างความไม่เชื่อมั่น
สรุปสาระสำคัญ
ข้อมูลจากข่าว
ฟีเจอร์ Point-in-Time Restore บันทึก snapshot ทุก 24 ชั่วโมง และเก็บไว้ 72 ชั่วโมง
WinRE รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายอัตโนมัติ เริ่มจาก Ethernet และจะเพิ่ม Wi-Fi WPA2/3
Cloud Rebuild ช่วยติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่สูญเสียข้อมูลผู้ใช้ ผ่าน OneDrive for Business
ฟีเจอร์ซ่อน error บนจอแสดงผลสาธารณะ แสดงเพียง 15 วินาทีแล้วหายไป
คำเตือนจากข่าว
Snapshot มีอายุเพียง 72 ชั่วโมง หากไม่กู้คืนทันเวลาอาจสูญเสียโอกาสแก้ไข
การเชื่อมต่อ WinRE ผ่านเครือข่ายอาจเสี่ยงต่อการโจมตีหากไม่มีการป้องกันที่ดี
Cloud Rebuild ต้องพึ่งพา OneDrive for Business หากระบบคลาวด์มีปัญหาอาจกระทบต่อการกู้คืน
https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment/
🖥️ Windows 11 เพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Restore
Microsoft ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Restore ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนระบบกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่บันทึกไว้ทุก 24 ชั่วโมง โดย snapshot จะถูกเก็บไว้ 72 ชั่วโมง ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจาก อัปเดตผิดพลาด, ไดรเวอร์มีปัญหา, หรือการตั้งค่าที่ผิดพลาด ได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์นี้คล้ายกับ System Restore แต่ทำงานอัตโนมัติและมีความแม่นยำมากกว่า
🌐 WinRE รองรับเครือข่ายอัตโนมัติ
อีกหนึ่งการปรับปรุงคือ WinRE (Windows Recovery Environment) ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์เองเหมือนเดิม ระบบจะดึงไดรเวอร์จาก Windows หลักมาใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแพตช์หรือแก้ไขปัญหาออนไลน์ได้สะดวกขึ้น โดยเริ่มจากการรองรับ Ethernet และจะขยายไปยัง Wi-Fi WPA2/3 ในอนาคต
☁️ Cloud Rebuild สำหรับองค์กร
Microsoft ยังเปิดตัว Cloud Rebuild ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่สูญเสียข้อมูลผู้ใช้ ผ่านการเชื่อมต่อกับ OneDrive for Business ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อองค์กรที่ต้องการความต่อเนื่องในการทำงาน แม้เครื่องจะต้องถูกติดตั้งระบบใหม่ทั้งหมด
📺 ฟีเจอร์ซ่อนหน้าจอ Error บนจอแสดงผลสาธารณะ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Commercial Display Devices ที่จะซ่อนข้อความ error บนหน้าจอสาธารณะ โดยจะแสดงเพียง 15 วินาทีแล้วหายไป เพื่อไม่ให้ผู้ชมเห็นข้อความผิดพลาดที่อาจสร้างความไม่เชื่อมั่น
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ ข้อมูลจากข่าว
➡️ ฟีเจอร์ Point-in-Time Restore บันทึก snapshot ทุก 24 ชั่วโมง และเก็บไว้ 72 ชั่วโมง
➡️ WinRE รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายอัตโนมัติ เริ่มจาก Ethernet และจะเพิ่ม Wi-Fi WPA2/3
➡️ Cloud Rebuild ช่วยติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่สูญเสียข้อมูลผู้ใช้ ผ่าน OneDrive for Business
➡️ ฟีเจอร์ซ่อน error บนจอแสดงผลสาธารณะ แสดงเพียง 15 วินาทีแล้วหายไป
‼️ คำเตือนจากข่าว
⛔ Snapshot มีอายุเพียง 72 ชั่วโมง หากไม่กู้คืนทันเวลาอาจสูญเสียโอกาสแก้ไข
⛔ การเชื่อมต่อ WinRE ผ่านเครือข่ายอาจเสี่ยงต่อการโจมตีหากไม่มีการป้องกันที่ดี
⛔ Cloud Rebuild ต้องพึ่งพา OneDrive for Business หากระบบคลาวด์มีปัญหาอาจกระทบต่อการกู้คืน
https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
16 มุมมอง
0 รีวิว