ข่าวใหม่: Gemini AI เข้ามาแทนที่ Google Assistant ใน Google Home
Google ได้เปิดตัวการอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Google Home โดยนำ Gemini AI เข้ามาแทนที่ Google Assistant เพื่อยกระดับการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม จุดเด่นคือการสั่งงานด้วยเสียงที่มีความยืดหยุ่นและเข้าใจบริบทมากขึ้น เช่น สามารถสั่งให้ปิดเฉพาะบางดวงไฟในห้อง หรือปรับสีและความสว่างพร้อมกันได้ในคำสั่งเดียว
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จำนวนมากพบว่า Gemini ยังไม่เสถียรพอ บางครั้งไม่ทำงานตามที่สั่ง หรือยืนยันว่าทำงานแล้วทั้งที่จริงไม่ได้ทำอะไรเลย ตัวอย่างเช่น การสั่งให้เปิดไฟแต่ไฟไม่ติด หรือการตอบกลับด้วยข้อมูลผิดพลาดที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่ง ทำให้ความสะดวกที่ควรจะได้ถูกลดทอนลงไป
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถูกพูดถึงคือการสร้าง Automations ด้วยคำสั่งภาษาแบบธรรมชาติ ซึ่งในทางทฤษฎีควรทำให้การตั้งค่าระบบง่ายขึ้น แต่ในทางปฏิบัติกลับมีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถปรับสีไฟใน Automation ใหม่ได้เหมือนเวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ผู้ใช้บางรายต้องกลับไปตั้งค่าเองแบบ manual
นอกจากนี้ Gemini ยังถูกนำไปใช้กับ Nest Doorbell และกล้องวงจรปิด แต่ผู้ใช้กังวลเรื่องความแม่นยำและความปลอดภัย เช่น การแจ้งเตือนผิดพลาดว่ามีคนถือเชือกกระโดด ทั้งที่จริงเป็นเพื่อนบ้านถือขวดน้ำ อีกทั้ง Google ยังเพิ่มค่าใช้จ่ายใหม่ เช่น Google Home Premium Advanced ที่ต้องจ่ายเพิ่มแม้ผู้ใช้จะมีแพ็กเกจ Google AI Pro อยู่แล้ว
สรุปสาระสำคัญ
ข้อดีของ Gemini ใน Google Home
คำสั่งเสียงยืดหยุ่นและเข้าใจบริบทมากขึ้น
สามารถควบคุมไฟและอุปกรณ์ได้ละเอียดกว่าเดิม
ฟีเจอร์ Automations
สร้าง routine ด้วยคำสั่งภาษาแบบธรรมชาติ
ลดความซับซ้อนในการตั้งค่าอัตโนมัติ
การใช้งานกับ Nest Doorbell และกล้อง
สามารถแจ้งเตือนกิจกรรมหน้าบ้าน
รองรับการถามตอบเกี่ยวกับแพ็กเกจหรือกิจกรรมที่บันทึกไว้
ข้อควรระวังและข้อเสีย
Gemini ทำงานผิดพลาดบ่อย เช่น ไฟไม่ติดหรือข้อมูลผิด
Automations ใหม่ไม่รองรับการปรับสีไฟเหมือนเวอร์ชันก่อน
การแจ้งเตือนจากกล้องอาจไม่แม่นยำและเสี่ยงต่อความปลอดภัย
มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับ Google Home Premium Advanced
https://www.slashgear.com/2025559/can-gemini-ai-make-google-home-less-awful-answer/
Google ได้เปิดตัวการอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Google Home โดยนำ Gemini AI เข้ามาแทนที่ Google Assistant เพื่อยกระดับการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม จุดเด่นคือการสั่งงานด้วยเสียงที่มีความยืดหยุ่นและเข้าใจบริบทมากขึ้น เช่น สามารถสั่งให้ปิดเฉพาะบางดวงไฟในห้อง หรือปรับสีและความสว่างพร้อมกันได้ในคำสั่งเดียว
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จำนวนมากพบว่า Gemini ยังไม่เสถียรพอ บางครั้งไม่ทำงานตามที่สั่ง หรือยืนยันว่าทำงานแล้วทั้งที่จริงไม่ได้ทำอะไรเลย ตัวอย่างเช่น การสั่งให้เปิดไฟแต่ไฟไม่ติด หรือการตอบกลับด้วยข้อมูลผิดพลาดที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่ง ทำให้ความสะดวกที่ควรจะได้ถูกลดทอนลงไป
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถูกพูดถึงคือการสร้าง Automations ด้วยคำสั่งภาษาแบบธรรมชาติ ซึ่งในทางทฤษฎีควรทำให้การตั้งค่าระบบง่ายขึ้น แต่ในทางปฏิบัติกลับมีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถปรับสีไฟใน Automation ใหม่ได้เหมือนเวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ผู้ใช้บางรายต้องกลับไปตั้งค่าเองแบบ manual
นอกจากนี้ Gemini ยังถูกนำไปใช้กับ Nest Doorbell และกล้องวงจรปิด แต่ผู้ใช้กังวลเรื่องความแม่นยำและความปลอดภัย เช่น การแจ้งเตือนผิดพลาดว่ามีคนถือเชือกกระโดด ทั้งที่จริงเป็นเพื่อนบ้านถือขวดน้ำ อีกทั้ง Google ยังเพิ่มค่าใช้จ่ายใหม่ เช่น Google Home Premium Advanced ที่ต้องจ่ายเพิ่มแม้ผู้ใช้จะมีแพ็กเกจ Google AI Pro อยู่แล้ว
สรุปสาระสำคัญ
ข้อดีของ Gemini ใน Google Home
คำสั่งเสียงยืดหยุ่นและเข้าใจบริบทมากขึ้น
สามารถควบคุมไฟและอุปกรณ์ได้ละเอียดกว่าเดิม
ฟีเจอร์ Automations
สร้าง routine ด้วยคำสั่งภาษาแบบธรรมชาติ
ลดความซับซ้อนในการตั้งค่าอัตโนมัติ
การใช้งานกับ Nest Doorbell และกล้อง
สามารถแจ้งเตือนกิจกรรมหน้าบ้าน
รองรับการถามตอบเกี่ยวกับแพ็กเกจหรือกิจกรรมที่บันทึกไว้
ข้อควรระวังและข้อเสีย
Gemini ทำงานผิดพลาดบ่อย เช่น ไฟไม่ติดหรือข้อมูลผิด
Automations ใหม่ไม่รองรับการปรับสีไฟเหมือนเวอร์ชันก่อน
การแจ้งเตือนจากกล้องอาจไม่แม่นยำและเสี่ยงต่อความปลอดภัย
มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับ Google Home Premium Advanced
https://www.slashgear.com/2025559/can-gemini-ai-make-google-home-less-awful-answer/
🏠 ข่าวใหม่: Gemini AI เข้ามาแทนที่ Google Assistant ใน Google Home
Google ได้เปิดตัวการอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Google Home โดยนำ Gemini AI เข้ามาแทนที่ Google Assistant เพื่อยกระดับการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม จุดเด่นคือการสั่งงานด้วยเสียงที่มีความยืดหยุ่นและเข้าใจบริบทมากขึ้น เช่น สามารถสั่งให้ปิดเฉพาะบางดวงไฟในห้อง หรือปรับสีและความสว่างพร้อมกันได้ในคำสั่งเดียว
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จำนวนมากพบว่า Gemini ยังไม่เสถียรพอ บางครั้งไม่ทำงานตามที่สั่ง หรือยืนยันว่าทำงานแล้วทั้งที่จริงไม่ได้ทำอะไรเลย ตัวอย่างเช่น การสั่งให้เปิดไฟแต่ไฟไม่ติด หรือการตอบกลับด้วยข้อมูลผิดพลาดที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่ง ทำให้ความสะดวกที่ควรจะได้ถูกลดทอนลงไป
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถูกพูดถึงคือการสร้าง Automations ด้วยคำสั่งภาษาแบบธรรมชาติ ซึ่งในทางทฤษฎีควรทำให้การตั้งค่าระบบง่ายขึ้น แต่ในทางปฏิบัติกลับมีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถปรับสีไฟใน Automation ใหม่ได้เหมือนเวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ผู้ใช้บางรายต้องกลับไปตั้งค่าเองแบบ manual
นอกจากนี้ Gemini ยังถูกนำไปใช้กับ Nest Doorbell และกล้องวงจรปิด แต่ผู้ใช้กังวลเรื่องความแม่นยำและความปลอดภัย เช่น การแจ้งเตือนผิดพลาดว่ามีคนถือเชือกกระโดด ทั้งที่จริงเป็นเพื่อนบ้านถือขวดน้ำ อีกทั้ง Google ยังเพิ่มค่าใช้จ่ายใหม่ เช่น Google Home Premium Advanced ที่ต้องจ่ายเพิ่มแม้ผู้ใช้จะมีแพ็กเกจ Google AI Pro อยู่แล้ว
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ ข้อดีของ Gemini ใน Google Home
➡️ คำสั่งเสียงยืดหยุ่นและเข้าใจบริบทมากขึ้น
➡️ สามารถควบคุมไฟและอุปกรณ์ได้ละเอียดกว่าเดิม
✅ ฟีเจอร์ Automations
➡️ สร้าง routine ด้วยคำสั่งภาษาแบบธรรมชาติ
➡️ ลดความซับซ้อนในการตั้งค่าอัตโนมัติ
✅ การใช้งานกับ Nest Doorbell และกล้อง
➡️ สามารถแจ้งเตือนกิจกรรมหน้าบ้าน
➡️ รองรับการถามตอบเกี่ยวกับแพ็กเกจหรือกิจกรรมที่บันทึกไว้
‼️ ข้อควรระวังและข้อเสีย
⛔ Gemini ทำงานผิดพลาดบ่อย เช่น ไฟไม่ติดหรือข้อมูลผิด
⛔ Automations ใหม่ไม่รองรับการปรับสีไฟเหมือนเวอร์ชันก่อน
⛔ การแจ้งเตือนจากกล้องอาจไม่แม่นยำและเสี่ยงต่อความปลอดภัย
⛔ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับ Google Home Premium Advanced
https://www.slashgear.com/2025559/can-gemini-ai-make-google-home-less-awful-answer/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
21 มุมมอง
0 รีวิว