พลังงานจากดวงอาทิตย์ปะทุแรง – Solar Flare X5.1 และพายุแม่เหล็กโลก
เรื่องราวนี้เหมือนการเล่าเหตุการณ์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ดวงอาทิตย์ได้ปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบ Solar Flare ระดับ X5.1 ซึ่งถือว่าเป็นการปะทุที่รุนแรงมากในรอบหลายปี และตามมาด้วย Coronal Mass Ejection (CME) หรือการพุ่งออกของมวลพลาสมาจำนวนมหาศาลตรงมายังโลก เหตุการณ์นี้ทำให้หน่วยงานด้านอวกาศต้องออกประกาศเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิด พายุแม่เหล็กโลกระดับ G4 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบสื่อสาร ดาวเทียม และแม้แต่โครงสร้างไฟฟ้าบนโลก
สิ่งที่น่าสนใจคือปรากฏการณ์นี้ยังสร้างโอกาสให้ผู้คนในหลายประเทศที่อยู่ละติจูดต่ำกว่าปกติสามารถเห็นแสงเหนือ (Aurora) ได้ เช่นในยุโรปตอนกลาง และบางรัฐในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์หายากที่เกิดขึ้นจากพลังงานมหาศาลของดวงอาทิตย์
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังชี้ว่าการเกิด Solar Flare และ CME ติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้การพยากรณ์ผลกระทบยากขึ้น เพราะคลื่นพลังงานอาจซ้อนทับกันและสร้างความรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
การปะทุของดวงอาทิตย์ครั้งใหญ่
Solar Flare ระดับ X5.1 และ CME ขนาดเต็มวง
โอกาสเห็นแสงเหนือในพื้นที่ใหม่
ประเทศในยุโรปตอนกลางและบางรัฐในสหรัฐฯ
ความเสี่ยงต่อระบบสื่อสารและไฟฟ้า
พายุแม่เหล็กโลกระดับ G4 อาจกระทบดาวเทียมและโครงสร้างพื้นฐาน
ความไม่แน่นอนจาก CME หลายลูก
การพยากรณ์ผลกระทบทำได้ยากและอาจรุนแรงกว่าที่คาด
https://www.spaceweatherlive.com/en/news/view/593/20251111-x5-1-solar-flare-g4-geomagnetic-storm-watch.html
เรื่องราวนี้เหมือนการเล่าเหตุการณ์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ดวงอาทิตย์ได้ปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบ Solar Flare ระดับ X5.1 ซึ่งถือว่าเป็นการปะทุที่รุนแรงมากในรอบหลายปี และตามมาด้วย Coronal Mass Ejection (CME) หรือการพุ่งออกของมวลพลาสมาจำนวนมหาศาลตรงมายังโลก เหตุการณ์นี้ทำให้หน่วยงานด้านอวกาศต้องออกประกาศเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิด พายุแม่เหล็กโลกระดับ G4 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบสื่อสาร ดาวเทียม และแม้แต่โครงสร้างไฟฟ้าบนโลก
สิ่งที่น่าสนใจคือปรากฏการณ์นี้ยังสร้างโอกาสให้ผู้คนในหลายประเทศที่อยู่ละติจูดต่ำกว่าปกติสามารถเห็นแสงเหนือ (Aurora) ได้ เช่นในยุโรปตอนกลาง และบางรัฐในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์หายากที่เกิดขึ้นจากพลังงานมหาศาลของดวงอาทิตย์
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังชี้ว่าการเกิด Solar Flare และ CME ติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้การพยากรณ์ผลกระทบยากขึ้น เพราะคลื่นพลังงานอาจซ้อนทับกันและสร้างความรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
การปะทุของดวงอาทิตย์ครั้งใหญ่
Solar Flare ระดับ X5.1 และ CME ขนาดเต็มวง
โอกาสเห็นแสงเหนือในพื้นที่ใหม่
ประเทศในยุโรปตอนกลางและบางรัฐในสหรัฐฯ
ความเสี่ยงต่อระบบสื่อสารและไฟฟ้า
พายุแม่เหล็กโลกระดับ G4 อาจกระทบดาวเทียมและโครงสร้างพื้นฐาน
ความไม่แน่นอนจาก CME หลายลูก
การพยากรณ์ผลกระทบทำได้ยากและอาจรุนแรงกว่าที่คาด
https://www.spaceweatherlive.com/en/news/view/593/20251111-x5-1-solar-flare-g4-geomagnetic-storm-watch.html
🌞 พลังงานจากดวงอาทิตย์ปะทุแรง – Solar Flare X5.1 และพายุแม่เหล็กโลก
เรื่องราวนี้เหมือนการเล่าเหตุการณ์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ดวงอาทิตย์ได้ปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบ Solar Flare ระดับ X5.1 ซึ่งถือว่าเป็นการปะทุที่รุนแรงมากในรอบหลายปี และตามมาด้วย Coronal Mass Ejection (CME) หรือการพุ่งออกของมวลพลาสมาจำนวนมหาศาลตรงมายังโลก เหตุการณ์นี้ทำให้หน่วยงานด้านอวกาศต้องออกประกาศเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิด พายุแม่เหล็กโลกระดับ G4 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบสื่อสาร ดาวเทียม และแม้แต่โครงสร้างไฟฟ้าบนโลก
สิ่งที่น่าสนใจคือปรากฏการณ์นี้ยังสร้างโอกาสให้ผู้คนในหลายประเทศที่อยู่ละติจูดต่ำกว่าปกติสามารถเห็นแสงเหนือ (Aurora) ได้ เช่นในยุโรปตอนกลาง และบางรัฐในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์หายากที่เกิดขึ้นจากพลังงานมหาศาลของดวงอาทิตย์
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังชี้ว่าการเกิด Solar Flare และ CME ติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้การพยากรณ์ผลกระทบยากขึ้น เพราะคลื่นพลังงานอาจซ้อนทับกันและสร้างความรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
✅ การปะทุของดวงอาทิตย์ครั้งใหญ่
➡️ Solar Flare ระดับ X5.1 และ CME ขนาดเต็มวง
✅ โอกาสเห็นแสงเหนือในพื้นที่ใหม่
➡️ ประเทศในยุโรปตอนกลางและบางรัฐในสหรัฐฯ
‼️ ความเสี่ยงต่อระบบสื่อสารและไฟฟ้า
⛔ พายุแม่เหล็กโลกระดับ G4 อาจกระทบดาวเทียมและโครงสร้างพื้นฐาน
‼️ ความไม่แน่นอนจาก CME หลายลูก
⛔ การพยากรณ์ผลกระทบทำได้ยากและอาจรุนแรงกว่าที่คาด
https://www.spaceweatherlive.com/en/news/view/593/20251111-x5-1-solar-flare-g4-geomagnetic-storm-watch.html
0 Comments
0 Shares
9 Views
0 Reviews