Wolfram Cloud พบช่องโหว่ RCE และ Privilege Escalation
CERT/CC เปิดเผยช่องโหว่ใน Wolfram Cloud เวอร์ชัน 14.2 (CVE-2025-11919) ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์และรันโค้ดอันตรายได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ temporary directory /tmp/ ที่ไม่ปลอดภัยใน JVM ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ race condition เพื่อแทรกโค้ดลงใน classpath ระหว่างการเริ่มต้น JVM และหากทำสำเร็จ โค้ดนั้นจะถูกรันด้วยสิทธิ์ของผู้ใช้เป้าหมายทันที
Wolfram Cloud เป็นแพลตฟอร์ม multi-tenant ที่ผู้ใช้หลายคนแชร์ทรัพยากรร่วมกัน ช่องโหว่นี้จึงอันตรายมาก เพราะผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดใน session ของผู้ใช้คนอื่นได้ CERT/CC ประเมินความรุนแรงว่า “Technical Impact = Total” หมายถึงผู้โจมตีสามารถควบคุมพฤติกรรมซอฟต์แวร์หรือเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดในระบบได้
การแก้ไขคืออัปเดตเป็น Wolfram Cloud เวอร์ชัน 14.2.1 ที่ปรับปรุงการจัดการ temporary directory และเพิ่มการแยก JVM ให้ปลอดภัยขึ้น กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ multi-tenant cloud ที่หากมีช่องโหว่เล็ก ๆ ก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากพร้อมกัน
ช่องโหว่ CVE-2025-11919
เกิดจาก race condition ใน JVM ที่ใช้ /tmp/ directory
ผลกระทบ
Privilege Escalation, ขโมยข้อมูล, Remote Code Execution
วิธีแก้ไข
อัปเดตเป็น Wolfram Cloud 14.2.1
ความเสี่ยง
Multi-tenant cloud ทำให้ผู้โจมตีเข้าถึง session ของผู้ใช้คนอื่นได้
https://securityonline.info/cve-2025-11919-wolfram-cloud-vulnerability-exposes-users-to-privilege-escalation-and-remote-code-execution/
CERT/CC เปิดเผยช่องโหว่ใน Wolfram Cloud เวอร์ชัน 14.2 (CVE-2025-11919) ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์และรันโค้ดอันตรายได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ temporary directory /tmp/ ที่ไม่ปลอดภัยใน JVM ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ race condition เพื่อแทรกโค้ดลงใน classpath ระหว่างการเริ่มต้น JVM และหากทำสำเร็จ โค้ดนั้นจะถูกรันด้วยสิทธิ์ของผู้ใช้เป้าหมายทันที
Wolfram Cloud เป็นแพลตฟอร์ม multi-tenant ที่ผู้ใช้หลายคนแชร์ทรัพยากรร่วมกัน ช่องโหว่นี้จึงอันตรายมาก เพราะผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดใน session ของผู้ใช้คนอื่นได้ CERT/CC ประเมินความรุนแรงว่า “Technical Impact = Total” หมายถึงผู้โจมตีสามารถควบคุมพฤติกรรมซอฟต์แวร์หรือเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดในระบบได้
การแก้ไขคืออัปเดตเป็น Wolfram Cloud เวอร์ชัน 14.2.1 ที่ปรับปรุงการจัดการ temporary directory และเพิ่มการแยก JVM ให้ปลอดภัยขึ้น กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ multi-tenant cloud ที่หากมีช่องโหว่เล็ก ๆ ก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากพร้อมกัน
ช่องโหว่ CVE-2025-11919
เกิดจาก race condition ใน JVM ที่ใช้ /tmp/ directory
ผลกระทบ
Privilege Escalation, ขโมยข้อมูล, Remote Code Execution
วิธีแก้ไข
อัปเดตเป็น Wolfram Cloud 14.2.1
ความเสี่ยง
Multi-tenant cloud ทำให้ผู้โจมตีเข้าถึง session ของผู้ใช้คนอื่นได้
https://securityonline.info/cve-2025-11919-wolfram-cloud-vulnerability-exposes-users-to-privilege-escalation-and-remote-code-execution/
☁️ Wolfram Cloud พบช่องโหว่ RCE และ Privilege Escalation
CERT/CC เปิดเผยช่องโหว่ใน Wolfram Cloud เวอร์ชัน 14.2 (CVE-2025-11919) ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์และรันโค้ดอันตรายได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ temporary directory /tmp/ ที่ไม่ปลอดภัยใน JVM ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ race condition เพื่อแทรกโค้ดลงใน classpath ระหว่างการเริ่มต้น JVM และหากทำสำเร็จ โค้ดนั้นจะถูกรันด้วยสิทธิ์ของผู้ใช้เป้าหมายทันที
Wolfram Cloud เป็นแพลตฟอร์ม multi-tenant ที่ผู้ใช้หลายคนแชร์ทรัพยากรร่วมกัน ช่องโหว่นี้จึงอันตรายมาก เพราะผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดใน session ของผู้ใช้คนอื่นได้ CERT/CC ประเมินความรุนแรงว่า “Technical Impact = Total” หมายถึงผู้โจมตีสามารถควบคุมพฤติกรรมซอฟต์แวร์หรือเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดในระบบได้
การแก้ไขคืออัปเดตเป็น Wolfram Cloud เวอร์ชัน 14.2.1 ที่ปรับปรุงการจัดการ temporary directory และเพิ่มการแยก JVM ให้ปลอดภัยขึ้น กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ multi-tenant cloud ที่หากมีช่องโหว่เล็ก ๆ ก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากพร้อมกัน
✅ ช่องโหว่ CVE-2025-11919
➡️ เกิดจาก race condition ใน JVM ที่ใช้ /tmp/ directory
✅ ผลกระทบ
➡️ Privilege Escalation, ขโมยข้อมูล, Remote Code Execution
✅ วิธีแก้ไข
➡️ อัปเดตเป็น Wolfram Cloud 14.2.1
‼️ ความเสี่ยง
⛔ Multi-tenant cloud ทำให้ผู้โจมตีเข้าถึง session ของผู้ใช้คนอื่นได้
https://securityonline.info/cve-2025-11919-wolfram-cloud-vulnerability-exposes-users-to-privilege-escalation-and-remote-code-execution/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
10 มุมมอง
0 รีวิว