"สหรัฐฯ เตรียมแบน TP-Link — ความปลอดภัยไซเบอร์หรือสงครามการค้า? "
รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแบนการขายอุปกรณ์เครือข่ายจาก TP-Link Systems ซึ่งครองตลาดผู้ใช้ตามบ้านและธุรกิจขนาดเล็กกว่า 50% โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงและความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน แม้ TP-Link จะปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าเป็นบริษัทอเมริกันที่แยกตัวจากจีนแล้วก็ตาม
เหตุผลที่สหรัฐฯ เตรียมแบน TP-Link
TP-Link ถูกกล่าวหาว่าอาจอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลจีน
แม้จะมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนียและโรงงานในเวียดนาม แต่ยังมีการดำเนินงานบางส่วนในจีน
อุปกรณ์ TP-Link พบในฐานทัพสหรัฐฯ และร้านค้าสำหรับทหาร
สร้างความกังวลเรื่องการสอดแนมและการโจมตีไซเบอร์
ราคาถูกและประสิทธิภาพดี ทำให้ TP-Link เป็นที่นิยมในตลาด
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ถูกเปิดเผย
กลุ่มแฮกเกอร์ Camaro Dragon ใช้ firmware ปลอมโจมตีหน่วยงานต่างประเทศ
พบเฉพาะในอุปกรณ์ TP-Link แต่มีความเสี่ยงต่ออุปกรณ์อื่นด้วย
Microsoft พบว่า TP-Link ถูกใช้ในการโจมตีแบบ “password spraying”
กลุ่มแฮกเกอร์จีนใช้ router ที่ถูกเจาะระบบเพื่อเข้าถึงบัญชี Microsoft
อุปกรณ์ใหม่มักมี firmware ที่ล้าสมัยและตั้งค่าความปลอดภัยไม่ดี
เช่น รหัสผ่านเริ่มต้นที่ไม่ได้เปลี่ยน ทำให้ถูกโจมตีได้ง่าย
ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ TP-Link
ใช้ firmware แบบ open-source เช่น OpenWRT หรือ DD-WRT
เพิ่มความปลอดภัยและฟีเจอร์ เช่น VPN, ad blocker, network monitor
เปลี่ยน router หากอุปกรณ์เก่าเกิน 4–5 ปี
เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดีกว่า
ตรวจสอบว่า router ได้รับการอัปเดตจาก ISP หรือไม่
หากเป็นอุปกรณ์ที่เช่า ควรปรึกษาผู้ให้บริการก่อนเปลี่ยน
แนวโน้มของตลาด router และความปลอดภัย
ผู้ผลิตเริ่มบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านและอัปเดต firmware ตั้งแต่แรก
เช่น Amazon Eero, Netgear Orbi, Asus ZenWifi
router ราคาถูกมักบังคับให้ติดตั้งผ่านแอปมือถือ
อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ชอบตั้งค่าด้วยตนเอง
https://krebsonsecurity.com/2025/11/drilling-down-on-uncle-sams-proposed-tp-link-ban/
รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแบนการขายอุปกรณ์เครือข่ายจาก TP-Link Systems ซึ่งครองตลาดผู้ใช้ตามบ้านและธุรกิจขนาดเล็กกว่า 50% โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงและความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน แม้ TP-Link จะปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าเป็นบริษัทอเมริกันที่แยกตัวจากจีนแล้วก็ตาม
เหตุผลที่สหรัฐฯ เตรียมแบน TP-Link
TP-Link ถูกกล่าวหาว่าอาจอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลจีน
แม้จะมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนียและโรงงานในเวียดนาม แต่ยังมีการดำเนินงานบางส่วนในจีน
อุปกรณ์ TP-Link พบในฐานทัพสหรัฐฯ และร้านค้าสำหรับทหาร
สร้างความกังวลเรื่องการสอดแนมและการโจมตีไซเบอร์
ราคาถูกและประสิทธิภาพดี ทำให้ TP-Link เป็นที่นิยมในตลาด
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ถูกเปิดเผย
กลุ่มแฮกเกอร์ Camaro Dragon ใช้ firmware ปลอมโจมตีหน่วยงานต่างประเทศ
พบเฉพาะในอุปกรณ์ TP-Link แต่มีความเสี่ยงต่ออุปกรณ์อื่นด้วย
Microsoft พบว่า TP-Link ถูกใช้ในการโจมตีแบบ “password spraying”
กลุ่มแฮกเกอร์จีนใช้ router ที่ถูกเจาะระบบเพื่อเข้าถึงบัญชี Microsoft
อุปกรณ์ใหม่มักมี firmware ที่ล้าสมัยและตั้งค่าความปลอดภัยไม่ดี
เช่น รหัสผ่านเริ่มต้นที่ไม่ได้เปลี่ยน ทำให้ถูกโจมตีได้ง่าย
ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ TP-Link
ใช้ firmware แบบ open-source เช่น OpenWRT หรือ DD-WRT
เพิ่มความปลอดภัยและฟีเจอร์ เช่น VPN, ad blocker, network monitor
เปลี่ยน router หากอุปกรณ์เก่าเกิน 4–5 ปี
เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดีกว่า
ตรวจสอบว่า router ได้รับการอัปเดตจาก ISP หรือไม่
หากเป็นอุปกรณ์ที่เช่า ควรปรึกษาผู้ให้บริการก่อนเปลี่ยน
แนวโน้มของตลาด router และความปลอดภัย
ผู้ผลิตเริ่มบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านและอัปเดต firmware ตั้งแต่แรก
เช่น Amazon Eero, Netgear Orbi, Asus ZenWifi
router ราคาถูกมักบังคับให้ติดตั้งผ่านแอปมือถือ
อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ชอบตั้งค่าด้วยตนเอง
https://krebsonsecurity.com/2025/11/drilling-down-on-uncle-sams-proposed-tp-link-ban/
📡 "สหรัฐฯ เตรียมแบน TP-Link — ความปลอดภัยไซเบอร์หรือสงครามการค้า? 🔒🇺🇸"
รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแบนการขายอุปกรณ์เครือข่ายจาก TP-Link Systems ซึ่งครองตลาดผู้ใช้ตามบ้านและธุรกิจขนาดเล็กกว่า 50% โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงและความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน แม้ TP-Link จะปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าเป็นบริษัทอเมริกันที่แยกตัวจากจีนแล้วก็ตาม
🔖 เหตุผลที่สหรัฐฯ เตรียมแบน TP-Link
✅ TP-Link ถูกกล่าวหาว่าอาจอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลจีน
➡️ แม้จะมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนียและโรงงานในเวียดนาม แต่ยังมีการดำเนินงานบางส่วนในจีน
✅ อุปกรณ์ TP-Link พบในฐานทัพสหรัฐฯ และร้านค้าสำหรับทหาร
➡️ สร้างความกังวลเรื่องการสอดแนมและการโจมตีไซเบอร์
✅ ราคาถูกและประสิทธิภาพดี ทำให้ TP-Link เป็นที่นิยมในตลาด
➡️ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)
⛔🚫 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ถูกเปิดเผย
‼️ กลุ่มแฮกเกอร์ Camaro Dragon ใช้ firmware ปลอมโจมตีหน่วยงานต่างประเทศ
⛔ พบเฉพาะในอุปกรณ์ TP-Link แต่มีความเสี่ยงต่ออุปกรณ์อื่นด้วย
‼️ Microsoft พบว่า TP-Link ถูกใช้ในการโจมตีแบบ “password spraying”
⛔ กลุ่มแฮกเกอร์จีนใช้ router ที่ถูกเจาะระบบเพื่อเข้าถึงบัญชี Microsoft
‼️ อุปกรณ์ใหม่มักมี firmware ที่ล้าสมัยและตั้งค่าความปลอดภัยไม่ดี
⛔ เช่น รหัสผ่านเริ่มต้นที่ไม่ได้เปลี่ยน ทำให้ถูกโจมตีได้ง่าย
✅ ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ TP-Link
✅ ใช้ firmware แบบ open-source เช่น OpenWRT หรือ DD-WRT
➡️ เพิ่มความปลอดภัยและฟีเจอร์ เช่น VPN, ad blocker, network monitor
✅ เปลี่ยน router หากอุปกรณ์เก่าเกิน 4–5 ปี
➡️ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดีกว่า
✅ ตรวจสอบว่า router ได้รับการอัปเดตจาก ISP หรือไม่
➡️ หากเป็นอุปกรณ์ที่เช่า ควรปรึกษาผู้ให้บริการก่อนเปลี่ยน
✅ แนวโน้มของตลาด router และความปลอดภัย
✅ ผู้ผลิตเริ่มบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านและอัปเดต firmware ตั้งแต่แรก
➡️ เช่น Amazon Eero, Netgear Orbi, Asus ZenWifi
✅ router ราคาถูกมักบังคับให้ติดตั้งผ่านแอปมือถือ
➡️ อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ชอบตั้งค่าด้วยตนเอง
https://krebsonsecurity.com/2025/11/drilling-down-on-uncle-sams-proposed-tp-link-ban/
0 Comments
0 Shares
45 Views
0 Reviews