"เมื่อข้อมูลส่วนตัวออนไลน์ กลายเป็นเป้าหมายของตำรวจ "
คุณอาจคิดว่าข้อมูลส่วนตัวของคุณบนโลกออนไลน์ปลอดภัย แต่ความจริงคือ ตำรวจสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้หลายวิธี—ทั้งแบบมีหมายศาลและแบบไม่ต้องขออนุญาตจากใครเลย! มาดูกันว่าเขาทำได้อย่างไร และเราจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร
วิธีที่ตำรวจใช้เข้าถึงข้อมูลของคุณ
ข้อมูลผู้ใช้งาน (Subscriber Info)
ใช้ “หมายเรียก” (Subpoena) ซึ่งไม่ต้องผ่านศาลก่อน
สามารถถูกท้าทายก่อนเปิดเผยได้
ข้อมูลเมตา (Metadata)
ใช้ “คำสั่งศาล” หรือ “หมายเรียก” ต้องมีเหตุผลเฉพาะเจาะจง
ข้อมูลที่เก็บไว้ (Stored Content)
ใช้ “หมายค้น” (Search Warrant) ต้องมี “เหตุอันควรเชื่อ” ว่ามีหลักฐาน
ไม่สามารถท้าทายก่อนเปิดเผยได้
ข้อมูลระหว่างส่ง (Content in Transit)
ใช้ “Super Warrant” ต้องมีเหตุผลมากกว่าแบบอื่น
ต้องพิสูจน์ว่าไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่า และต้องลดการเก็บข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง
วิธีที่ตำรวจใช้เก็บข้อมูลโดยไม่ต้องผ่านศาล
ใช้เครื่องมือเฝ้าระวังโซเชียลมีเดียและบัญชีปลอม
เพื่อดูข้อมูลที่คุณโพสต์ แม้จะอยู่ในกลุ่ม “ส่วนตัว”
ดักฟังการสื่อสารผ่านเครือข่าย
เก็บข้อมูลเมตาและอาจถอดรหัสบางส่วนได้
ซื้อข้อมูลจาก “นายหน้าข้อมูล” (Data Brokers)
ไม่มีข้อจำกัดหรือการกำกับดูแลที่ชัดเจน
วิธีที่ผู้ให้บริการควรปกป้องคุณ
ทำตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ไม่ให้ข้อมูลโดยสมัครใจหรือยกเว้นกฎ
ท้าทายคำขอที่ไม่เหมาะสม
หากคำขอเกินขอบเขตหรือละเมิดสิทธิ์ ควรสู้ในศาล
แจ้งผู้ใช้เมื่อมีคำขอข้อมูล (ถ้าไม่ถูกห้าม)
เพื่อให้ผู้ใช้เตรียมตัวและขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย
เขียนนโยบายความเป็นส่วนตัวให้ชัดเจน
ไม่ใช้ถ้อยคำคลุมเครือ เช่น “เมื่อเหมาะสม”
ลดการเก็บข้อมูลที่ไม่จำเป็น
ยิ่งเก็บมาก ยิ่งเสี่ยงถูกเรียกข้อมูลหรือถูกแฮก
ลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อไม่จำเป็น
เช่น ลบ log การใช้งานหลัง 30 วัน
หลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลกับบริการอื่น
โดยเฉพาะบริการโฆษณาหรือ third-party login
ใช้การเข้ารหัสแบบปลายทางถึงปลายทาง (End-to-End Encryption)
เช่น แอป Signal ที่เปิดเผยข้อมูลได้เพียงเบอร์โทร วันสร้างบัญชี และวันเข้าใช้งานล่าสุด
สิ่งที่ผู้ใช้ควรทำเพื่อปกป้องตัวเอง
เลือกใช้บริการที่เชื่อถือได้และมีนโยบายชัดเจน
ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการมีแนวทางปกป้องข้อมูล
ปรับตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้รัดกุม
ปิดการแชร์ข้อมูลที่ไม่จำเป็น
ใช้เครื่องมือเสริม เช่น Privacy Badger
เพื่อบล็อกการติดตามจากเว็บไซต์ต่างๆ
ให้ความรู้และแบ่งปันกับคนรอบข้าง
เพราะความเป็นส่วนตัวคือ “กีฬาทีม” ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว
https://www.eff.org/deeplinks/2025/06/how-cops-can-get-your-private-online-data
คุณอาจคิดว่าข้อมูลส่วนตัวของคุณบนโลกออนไลน์ปลอดภัย แต่ความจริงคือ ตำรวจสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้หลายวิธี—ทั้งแบบมีหมายศาลและแบบไม่ต้องขออนุญาตจากใครเลย! มาดูกันว่าเขาทำได้อย่างไร และเราจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร
วิธีที่ตำรวจใช้เข้าถึงข้อมูลของคุณ
ข้อมูลผู้ใช้งาน (Subscriber Info)
ใช้ “หมายเรียก” (Subpoena) ซึ่งไม่ต้องผ่านศาลก่อน
สามารถถูกท้าทายก่อนเปิดเผยได้
ข้อมูลเมตา (Metadata)
ใช้ “คำสั่งศาล” หรือ “หมายเรียก” ต้องมีเหตุผลเฉพาะเจาะจง
ข้อมูลที่เก็บไว้ (Stored Content)
ใช้ “หมายค้น” (Search Warrant) ต้องมี “เหตุอันควรเชื่อ” ว่ามีหลักฐาน
ไม่สามารถท้าทายก่อนเปิดเผยได้
ข้อมูลระหว่างส่ง (Content in Transit)
ใช้ “Super Warrant” ต้องมีเหตุผลมากกว่าแบบอื่น
ต้องพิสูจน์ว่าไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่า และต้องลดการเก็บข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง
วิธีที่ตำรวจใช้เก็บข้อมูลโดยไม่ต้องผ่านศาล
ใช้เครื่องมือเฝ้าระวังโซเชียลมีเดียและบัญชีปลอม
เพื่อดูข้อมูลที่คุณโพสต์ แม้จะอยู่ในกลุ่ม “ส่วนตัว”
ดักฟังการสื่อสารผ่านเครือข่าย
เก็บข้อมูลเมตาและอาจถอดรหัสบางส่วนได้
ซื้อข้อมูลจาก “นายหน้าข้อมูล” (Data Brokers)
ไม่มีข้อจำกัดหรือการกำกับดูแลที่ชัดเจน
วิธีที่ผู้ให้บริการควรปกป้องคุณ
ทำตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ไม่ให้ข้อมูลโดยสมัครใจหรือยกเว้นกฎ
ท้าทายคำขอที่ไม่เหมาะสม
หากคำขอเกินขอบเขตหรือละเมิดสิทธิ์ ควรสู้ในศาล
แจ้งผู้ใช้เมื่อมีคำขอข้อมูล (ถ้าไม่ถูกห้าม)
เพื่อให้ผู้ใช้เตรียมตัวและขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย
เขียนนโยบายความเป็นส่วนตัวให้ชัดเจน
ไม่ใช้ถ้อยคำคลุมเครือ เช่น “เมื่อเหมาะสม”
ลดการเก็บข้อมูลที่ไม่จำเป็น
ยิ่งเก็บมาก ยิ่งเสี่ยงถูกเรียกข้อมูลหรือถูกแฮก
ลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อไม่จำเป็น
เช่น ลบ log การใช้งานหลัง 30 วัน
หลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลกับบริการอื่น
โดยเฉพาะบริการโฆษณาหรือ third-party login
ใช้การเข้ารหัสแบบปลายทางถึงปลายทาง (End-to-End Encryption)
เช่น แอป Signal ที่เปิดเผยข้อมูลได้เพียงเบอร์โทร วันสร้างบัญชี และวันเข้าใช้งานล่าสุด
สิ่งที่ผู้ใช้ควรทำเพื่อปกป้องตัวเอง
เลือกใช้บริการที่เชื่อถือได้และมีนโยบายชัดเจน
ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการมีแนวทางปกป้องข้อมูล
ปรับตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้รัดกุม
ปิดการแชร์ข้อมูลที่ไม่จำเป็น
ใช้เครื่องมือเสริม เช่น Privacy Badger
เพื่อบล็อกการติดตามจากเว็บไซต์ต่างๆ
ให้ความรู้และแบ่งปันกับคนรอบข้าง
เพราะความเป็นส่วนตัวคือ “กีฬาทีม” ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว
https://www.eff.org/deeplinks/2025/06/how-cops-can-get-your-private-online-data
🔐 "เมื่อข้อมูลส่วนตัวออนไลน์ กลายเป็นเป้าหมายของตำรวจ 👮♂️💻"
คุณอาจคิดว่าข้อมูลส่วนตัวของคุณบนโลกออนไลน์ปลอดภัย แต่ความจริงคือ ตำรวจสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้หลายวิธี—ทั้งแบบมีหมายศาลและแบบไม่ต้องขออนุญาตจากใครเลย! มาดูกันว่าเขาทำได้อย่างไร และเราจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร
📥 วิธีที่ตำรวจใช้เข้าถึงข้อมูลของคุณ
✅ ข้อมูลผู้ใช้งาน (Subscriber Info)
➡️ ใช้ “หมายเรียก” (Subpoena) ซึ่งไม่ต้องผ่านศาลก่อน
➡️ สามารถถูกท้าทายก่อนเปิดเผยได้
✅ ข้อมูลเมตา (Metadata)
➡️ ใช้ “คำสั่งศาล” หรือ “หมายเรียก” ต้องมีเหตุผลเฉพาะเจาะจง
✅ ข้อมูลที่เก็บไว้ (Stored Content)
➡️ ใช้ “หมายค้น” (Search Warrant) ต้องมี “เหตุอันควรเชื่อ” ว่ามีหลักฐาน
➡️ ไม่สามารถท้าทายก่อนเปิดเผยได้
✅ ข้อมูลระหว่างส่ง (Content in Transit)
➡️ ใช้ “Super Warrant” ต้องมีเหตุผลมากกว่าแบบอื่น
➡️ ต้องพิสูจน์ว่าไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่า และต้องลดการเก็บข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง
🕵️♂️ วิธีที่ตำรวจใช้เก็บข้อมูลโดยไม่ต้องผ่านศาล
‼️ ใช้เครื่องมือเฝ้าระวังโซเชียลมีเดียและบัญชีปลอม
⛔ เพื่อดูข้อมูลที่คุณโพสต์ แม้จะอยู่ในกลุ่ม “ส่วนตัว”
‼️ ดักฟังการสื่อสารผ่านเครือข่าย
⛔ เก็บข้อมูลเมตาและอาจถอดรหัสบางส่วนได้
‼️ ซื้อข้อมูลจาก “นายหน้าข้อมูล” (Data Brokers)
⛔ ไม่มีข้อจำกัดหรือการกำกับดูแลที่ชัดเจน
🛡️ วิธีที่ผู้ให้บริการควรปกป้องคุณ
✅ ทำตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด
➡️ ไม่ให้ข้อมูลโดยสมัครใจหรือยกเว้นกฎ
✅ ท้าทายคำขอที่ไม่เหมาะสม
➡️ หากคำขอเกินขอบเขตหรือละเมิดสิทธิ์ ควรสู้ในศาล
✅ แจ้งผู้ใช้เมื่อมีคำขอข้อมูล (ถ้าไม่ถูกห้าม)
➡️ เพื่อให้ผู้ใช้เตรียมตัวและขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย
✅ เขียนนโยบายความเป็นส่วนตัวให้ชัดเจน
➡️ ไม่ใช้ถ้อยคำคลุมเครือ เช่น “เมื่อเหมาะสม”
✅ ลดการเก็บข้อมูลที่ไม่จำเป็น
➡️ ยิ่งเก็บมาก ยิ่งเสี่ยงถูกเรียกข้อมูลหรือถูกแฮก
✅ ลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อไม่จำเป็น
➡️ เช่น ลบ log การใช้งานหลัง 30 วัน
✅ หลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลกับบริการอื่น
➡️ โดยเฉพาะบริการโฆษณาหรือ third-party login
✅ ใช้การเข้ารหัสแบบปลายทางถึงปลายทาง (End-to-End Encryption)
➡️ เช่น แอป Signal ที่เปิดเผยข้อมูลได้เพียงเบอร์โทร วันสร้างบัญชี และวันเข้าใช้งานล่าสุด
🧍♀️ สิ่งที่ผู้ใช้ควรทำเพื่อปกป้องตัวเอง
✅ เลือกใช้บริการที่เชื่อถือได้และมีนโยบายชัดเจน
➡️ ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการมีแนวทางปกป้องข้อมูล
✅ ปรับตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้รัดกุม
➡️ ปิดการแชร์ข้อมูลที่ไม่จำเป็น
✅ ใช้เครื่องมือเสริม เช่น Privacy Badger
➡️ เพื่อบล็อกการติดตามจากเว็บไซต์ต่างๆ
✅ ให้ความรู้และแบ่งปันกับคนรอบข้าง
➡️ เพราะความเป็นส่วนตัวคือ “กีฬาทีม” ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว
https://www.eff.org/deeplinks/2025/06/how-cops-can-get-your-private-online-data
0 Comments
0 Shares
41 Views
0 Reviews