หัวข้อข่าว: ไม่ต้องปัดขวาอีกต่อไป — AI กำลังพลิกโฉมแอปหาคู่
AI กำลังเปลี่ยนวิธีการจับคู่ในแอปหาคู่จากการปัดขวาแบบเดิมๆ ไปสู่การจับคู่แบบเจาะลึกผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบส่วนบุคคล โดยทั้งสตาร์ทอัพและแอปใหญ่ต่างเร่งพัฒนา AI matchmaker เพื่อแก้ปัญหา “วงจรแห่งความสิ้นหวัง” ที่ผู้ใช้มักเจอในแอปหาคู่แบบเก่า.
Emma Inge หญิงสาววัย 25 ปีจากซานฟรานซิสโก เบื่อหน่ายกับการปัดขวาใน Tinder และ Hinge จึงลองใช้บริการของ Known สตาร์ทอัพที่ใช้ AI chatbot เป็นแม่สื่อ เธอใช้เวลา 20 นาทีพูดคุยกับ AI ผ่านโทรศัพท์ บอกความชอบและข้อห้าม จากนั้นหนึ่งสัปดาห์ก็ได้รับการจับคู่ — จ่ายครั้งเดียว US$25 เพื่อไปเจอกันที่บาร์
แม้จะโดน ghosted หลังเดทแรก แต่เธอยอมรับว่า “AI จับคู่ได้ดี แต่คนจริงๆ นั่นแหละที่ไม่เวิร์ก”
บริษัทใหญ่ก็ไม่ยอมตกเทรนด์:
Tinder กำลังทดสอบฟีเจอร์ “Chemistry” ที่ให้ AI สแกนรูปภาพในมือถือเพื่อเรียนรู้ผู้ใช้
Hinge ใช้ generative AI ปรับอัลกอริธึมจนจำนวนการจับคู่เพิ่มขึ้น 15%
Bumble เตรียมเปิดตัวแอปจับคู่ด้วย AI ภายในปีนี้
นอกจากนี้ยังมีการทดลองฟีเจอร์ล้ำๆ เช่น:
AI dating coach ที่ให้คำแนะนำหลังเดท
AI clones ที่จับคู่กันเองแล้วรายงานผลให้เจ้าของ
แต่ก็มีเสียงต้านจากผู้ใช้ที่ไม่ชอบ “AI slop” หรือระบบอัตโนมัติที่มากเกินไป บางแอปจึงเลือกไม่เปิดเผยว่าใช้ AI อยู่
การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมแอปหาคู่
จากระบบปัดขวาไปสู่การจับคู่แบบเจาะลึกด้วย AI
ผู้ใช้จ่ายต่อการจับคู่แทนการสมัครสมาชิกรายเดือน
สตาร์ทอัพอย่าง Known ใช้ AI chatbot เป็นแม่สื่อ
การปรับตัวของแอปใหญ่
Tinder ทดสอบฟีเจอร์ “Chemistry” สแกนรูปเพื่อเรียนรู้ผู้ใช้
Hinge ใช้ generative AI ปรับอัลกอริธึมเพิ่มการจับคู่
Bumble เตรียมเปิดตัวแอป AI matchmaking
ฟีเจอร์ AI ที่กำลังทดลอง
AI dating coach ให้คำแนะนำหลังเดท
AI clones ทดลองจับคู่กันเอง
Facebook Dating ให้ผู้ใช้พิมพ์ลักษณะคู่ในฝันเพื่อจับคู่
คำเตือนจากผู้ใช้และนักวิเคราะห์
“วงจรแห่งความสิ้นหวัง” จากการใช้แอปหาคู่แบบเดิมยังคงอยู่
การใช้ AI มากเกินไปอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ
การเปิดให้ AI เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น รูปภาพ อาจเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/06/you-dont-need-to-swipe-right-ai-is-transforming-dating-apps
AI กำลังเปลี่ยนวิธีการจับคู่ในแอปหาคู่จากการปัดขวาแบบเดิมๆ ไปสู่การจับคู่แบบเจาะลึกผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบส่วนบุคคล โดยทั้งสตาร์ทอัพและแอปใหญ่ต่างเร่งพัฒนา AI matchmaker เพื่อแก้ปัญหา “วงจรแห่งความสิ้นหวัง” ที่ผู้ใช้มักเจอในแอปหาคู่แบบเก่า.
Emma Inge หญิงสาววัย 25 ปีจากซานฟรานซิสโก เบื่อหน่ายกับการปัดขวาใน Tinder และ Hinge จึงลองใช้บริการของ Known สตาร์ทอัพที่ใช้ AI chatbot เป็นแม่สื่อ เธอใช้เวลา 20 นาทีพูดคุยกับ AI ผ่านโทรศัพท์ บอกความชอบและข้อห้าม จากนั้นหนึ่งสัปดาห์ก็ได้รับการจับคู่ — จ่ายครั้งเดียว US$25 เพื่อไปเจอกันที่บาร์
แม้จะโดน ghosted หลังเดทแรก แต่เธอยอมรับว่า “AI จับคู่ได้ดี แต่คนจริงๆ นั่นแหละที่ไม่เวิร์ก”
บริษัทใหญ่ก็ไม่ยอมตกเทรนด์:
Tinder กำลังทดสอบฟีเจอร์ “Chemistry” ที่ให้ AI สแกนรูปภาพในมือถือเพื่อเรียนรู้ผู้ใช้
Hinge ใช้ generative AI ปรับอัลกอริธึมจนจำนวนการจับคู่เพิ่มขึ้น 15%
Bumble เตรียมเปิดตัวแอปจับคู่ด้วย AI ภายในปีนี้
นอกจากนี้ยังมีการทดลองฟีเจอร์ล้ำๆ เช่น:
AI dating coach ที่ให้คำแนะนำหลังเดท
AI clones ที่จับคู่กันเองแล้วรายงานผลให้เจ้าของ
แต่ก็มีเสียงต้านจากผู้ใช้ที่ไม่ชอบ “AI slop” หรือระบบอัตโนมัติที่มากเกินไป บางแอปจึงเลือกไม่เปิดเผยว่าใช้ AI อยู่
การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมแอปหาคู่
จากระบบปัดขวาไปสู่การจับคู่แบบเจาะลึกด้วย AI
ผู้ใช้จ่ายต่อการจับคู่แทนการสมัครสมาชิกรายเดือน
สตาร์ทอัพอย่าง Known ใช้ AI chatbot เป็นแม่สื่อ
การปรับตัวของแอปใหญ่
Tinder ทดสอบฟีเจอร์ “Chemistry” สแกนรูปเพื่อเรียนรู้ผู้ใช้
Hinge ใช้ generative AI ปรับอัลกอริธึมเพิ่มการจับคู่
Bumble เตรียมเปิดตัวแอป AI matchmaking
ฟีเจอร์ AI ที่กำลังทดลอง
AI dating coach ให้คำแนะนำหลังเดท
AI clones ทดลองจับคู่กันเอง
Facebook Dating ให้ผู้ใช้พิมพ์ลักษณะคู่ในฝันเพื่อจับคู่
คำเตือนจากผู้ใช้และนักวิเคราะห์
“วงจรแห่งความสิ้นหวัง” จากการใช้แอปหาคู่แบบเดิมยังคงอยู่
การใช้ AI มากเกินไปอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ
การเปิดให้ AI เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น รูปภาพ อาจเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/06/you-dont-need-to-swipe-right-ai-is-transforming-dating-apps
💘 หัวข้อข่าว: ไม่ต้องปัดขวาอีกต่อไป — AI กำลังพลิกโฉมแอปหาคู่
AI กำลังเปลี่ยนวิธีการจับคู่ในแอปหาคู่จากการปัดขวาแบบเดิมๆ ไปสู่การจับคู่แบบเจาะลึกผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบส่วนบุคคล โดยทั้งสตาร์ทอัพและแอปใหญ่ต่างเร่งพัฒนา AI matchmaker เพื่อแก้ปัญหา “วงจรแห่งความสิ้นหวัง” ที่ผู้ใช้มักเจอในแอปหาคู่แบบเก่า.
Emma Inge หญิงสาววัย 25 ปีจากซานฟรานซิสโก เบื่อหน่ายกับการปัดขวาใน Tinder และ Hinge จึงลองใช้บริการของ Known สตาร์ทอัพที่ใช้ AI chatbot เป็นแม่สื่อ เธอใช้เวลา 20 นาทีพูดคุยกับ AI ผ่านโทรศัพท์ บอกความชอบและข้อห้าม จากนั้นหนึ่งสัปดาห์ก็ได้รับการจับคู่ — จ่ายครั้งเดียว US$25 เพื่อไปเจอกันที่บาร์
แม้จะโดน ghosted หลังเดทแรก แต่เธอยอมรับว่า “AI จับคู่ได้ดี แต่คนจริงๆ นั่นแหละที่ไม่เวิร์ก”
บริษัทใหญ่ก็ไม่ยอมตกเทรนด์:
🔖 Tinder กำลังทดสอบฟีเจอร์ “Chemistry” ที่ให้ AI สแกนรูปภาพในมือถือเพื่อเรียนรู้ผู้ใช้
🔖 Hinge ใช้ generative AI ปรับอัลกอริธึมจนจำนวนการจับคู่เพิ่มขึ้น 15%
🔖 Bumble เตรียมเปิดตัวแอปจับคู่ด้วย AI ภายในปีนี้
นอกจากนี้ยังมีการทดลองฟีเจอร์ล้ำๆ เช่น:
🔖 AI dating coach ที่ให้คำแนะนำหลังเดท
🔖 AI clones ที่จับคู่กันเองแล้วรายงานผลให้เจ้าของ
แต่ก็มีเสียงต้านจากผู้ใช้ที่ไม่ชอบ “AI slop” หรือระบบอัตโนมัติที่มากเกินไป บางแอปจึงเลือกไม่เปิดเผยว่าใช้ AI อยู่
✅ การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมแอปหาคู่
➡️ จากระบบปัดขวาไปสู่การจับคู่แบบเจาะลึกด้วย AI
➡️ ผู้ใช้จ่ายต่อการจับคู่แทนการสมัครสมาชิกรายเดือน
➡️ สตาร์ทอัพอย่าง Known ใช้ AI chatbot เป็นแม่สื่อ
✅ การปรับตัวของแอปใหญ่
➡️ Tinder ทดสอบฟีเจอร์ “Chemistry” สแกนรูปเพื่อเรียนรู้ผู้ใช้
➡️ Hinge ใช้ generative AI ปรับอัลกอริธึมเพิ่มการจับคู่
➡️ Bumble เตรียมเปิดตัวแอป AI matchmaking
✅ ฟีเจอร์ AI ที่กำลังทดลอง
➡️ AI dating coach ให้คำแนะนำหลังเดท
➡️ AI clones ทดลองจับคู่กันเอง
➡️ Facebook Dating ให้ผู้ใช้พิมพ์ลักษณะคู่ในฝันเพื่อจับคู่
‼️ คำเตือนจากผู้ใช้และนักวิเคราะห์
⛔ “วงจรแห่งความสิ้นหวัง” จากการใช้แอปหาคู่แบบเดิมยังคงอยู่
⛔ การใช้ AI มากเกินไปอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ
⛔ การเปิดให้ AI เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น รูปภาพ อาจเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/06/you-dont-need-to-swipe-right-ai-is-transforming-dating-apps
0 Comments
0 Shares
35 Views
0 Reviews