เมื่อกฎหมายไซเบอร์กลายเป็นเครื่องมือปราบนักข่าว
 
บทความจาก Columbia Journalism Review เปิดเผยว่า กฎหมายไซเบอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำลังถูกใช้เพื่อกดขี่เสรีภาพสื่อในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแอฟริกาและตะวันออกกลาง เช่น ไนจีเรีย ปากีสถาน จอร์แดน และไนเจอร์
 
ตัวอย่างที่เด่นชัดคือกรณีของ Daniel Ojukwu นักข่าววัย 26 ปีจากไนจีเรีย ที่ถูกจับกุมโดยไม่มีการแจ้งข้อหาอย่างชัดเจน หลังจากเขาเขียนบทความเกี่ยวกับการทุจริตในสำนักงานประธานาธิบดี เขาถูกกล่าวหาว่าละเมิด Cybercrime Act ปี 2015 ซึ่งมีบทบัญญัติที่คลุมเครือ เช่น ห้ามเผยแพร่ข้อมูล “น่ารำคาญ” หรือ “หยาบคาย” ทางออนไลน์
 
แม้จะมีการแก้ไขกฎหมายในปี 2024 แต่ข้อความใหม่ยังคงเปิดช่องให้ตีความได้กว้าง เช่น การเผยแพร่ข้อมูล “เท็จโดยเจตนา” ที่อาจ “ทำให้เกิดความวุ่นวาย” หรือ “คุกคามชีวิต” ซึ่งยังคงถูกใช้เล่นงานนักข่าวสายสืบสวนอย่างต่อเนื่อง
 
ประเทศอื่นก็มีแนวโน้มคล้ายกัน เช่น:
ไนเจอร์ กลับมาใช้โทษจำคุกสำหรับการหมิ่นประมาทและเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบศักดิ์ศรีมนุษย์”
จอร์แดน ดำเนินคดีนักข่าวอย่างน้อย 15 คนภายใต้กฎหมายไซเบอร์ฉบับขยายปี 2023
ปากีสถานและตุรกี ใช้กฎหมาย “ต่อต้านข่าวปลอม” เพื่อควบคุมเนื้อหาสื่อ
 
นักวิจัยจาก Citizen Lab เตือนว่า กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยลดข่าวปลอมจริง ๆ แต่กลับเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ และเมื่อประเทศประชาธิปไตยก็เริ่มออกกฎหมายคล้ายกัน ก็ยิ่งเปิดช่องให้รัฐบาลเผด็จการใช้เป็นข้ออ้างในการเซ็นเซอร์
 
กฎหมายไซเบอร์ถูกใช้เพื่อปราบปรามนักข่าวในหลายประเทศ
โดยเฉพาะผู้ที่เปิดโปงการทุจริตหรือวิพากษ์รัฐบาล
 
Cybercrime Act ของไนจีเรียมีบทบัญญัติคลุมเครือ
เช่น “ข้อมูลเท็จที่คุกคามชีวิต” หรือ “น่ารำคาญ”
เปิดช่องให้ตีความและใช้เล่นงานนักข่าว
 
นักข่าวถูกจับกุมโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน
เช่นกรณี Daniel Ojukwu และทีม Informant247
ถูกควบคุมตัวร่วมกับนักโทษทั่วไปในสภาพแย่
 
กฎหมายคล้ายกันถูกใช้ในไนเจอร์ จอร์แดน ปากีสถาน และตุรกี
เพิ่มโทษจำคุกสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบความสงบ”
ใช้ข้อหา “ข่าวปลอม” เป็นเครื่องมือควบคุมสื่อ
 
นักวิจัยเตือนว่ากฎหมายเหล่านี้ไม่ช่วยลด misinformation
แต่เพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหา
ประเทศประชาธิปไตยที่ออกกฎหมายคล้ายกันยิ่งเปิดช่องให้เผด็จการเลียนแบบ
 
https://www.cjr.org/analysis/nigeria-pakistan-jordan-cybercrime-laws-journalism.php
  บทความจาก Columbia Journalism Review เปิดเผยว่า กฎหมายไซเบอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำลังถูกใช้เพื่อกดขี่เสรีภาพสื่อในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแอฟริกาและตะวันออกกลาง เช่น ไนจีเรีย ปากีสถาน จอร์แดน และไนเจอร์
ตัวอย่างที่เด่นชัดคือกรณีของ Daniel Ojukwu นักข่าววัย 26 ปีจากไนจีเรีย ที่ถูกจับกุมโดยไม่มีการแจ้งข้อหาอย่างชัดเจน หลังจากเขาเขียนบทความเกี่ยวกับการทุจริตในสำนักงานประธานาธิบดี เขาถูกกล่าวหาว่าละเมิด Cybercrime Act ปี 2015 ซึ่งมีบทบัญญัติที่คลุมเครือ เช่น ห้ามเผยแพร่ข้อมูล “น่ารำคาญ” หรือ “หยาบคาย” ทางออนไลน์
แม้จะมีการแก้ไขกฎหมายในปี 2024 แต่ข้อความใหม่ยังคงเปิดช่องให้ตีความได้กว้าง เช่น การเผยแพร่ข้อมูล “เท็จโดยเจตนา” ที่อาจ “ทำให้เกิดความวุ่นวาย” หรือ “คุกคามชีวิต” ซึ่งยังคงถูกใช้เล่นงานนักข่าวสายสืบสวนอย่างต่อเนื่อง
ประเทศอื่นก็มีแนวโน้มคล้ายกัน เช่น:
ไนเจอร์ กลับมาใช้โทษจำคุกสำหรับการหมิ่นประมาทและเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบศักดิ์ศรีมนุษย์”
จอร์แดน ดำเนินคดีนักข่าวอย่างน้อย 15 คนภายใต้กฎหมายไซเบอร์ฉบับขยายปี 2023
ปากีสถานและตุรกี ใช้กฎหมาย “ต่อต้านข่าวปลอม” เพื่อควบคุมเนื้อหาสื่อ
นักวิจัยจาก Citizen Lab เตือนว่า กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยลดข่าวปลอมจริง ๆ แต่กลับเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ และเมื่อประเทศประชาธิปไตยก็เริ่มออกกฎหมายคล้ายกัน ก็ยิ่งเปิดช่องให้รัฐบาลเผด็จการใช้เป็นข้ออ้างในการเซ็นเซอร์
กฎหมายไซเบอร์ถูกใช้เพื่อปราบปรามนักข่าวในหลายประเทศ
โดยเฉพาะผู้ที่เปิดโปงการทุจริตหรือวิพากษ์รัฐบาล
Cybercrime Act ของไนจีเรียมีบทบัญญัติคลุมเครือ
เช่น “ข้อมูลเท็จที่คุกคามชีวิต” หรือ “น่ารำคาญ”
เปิดช่องให้ตีความและใช้เล่นงานนักข่าว
นักข่าวถูกจับกุมโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน
เช่นกรณี Daniel Ojukwu และทีม Informant247
ถูกควบคุมตัวร่วมกับนักโทษทั่วไปในสภาพแย่
กฎหมายคล้ายกันถูกใช้ในไนเจอร์ จอร์แดน ปากีสถาน และตุรกี
เพิ่มโทษจำคุกสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบความสงบ”
ใช้ข้อหา “ข่าวปลอม” เป็นเครื่องมือควบคุมสื่อ
นักวิจัยเตือนว่ากฎหมายเหล่านี้ไม่ช่วยลด misinformation
แต่เพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหา
ประเทศประชาธิปไตยที่ออกกฎหมายคล้ายกันยิ่งเปิดช่องให้เผด็จการเลียนแบบ
https://www.cjr.org/analysis/nigeria-pakistan-jordan-cybercrime-laws-journalism.php
🛑 เมื่อกฎหมายไซเบอร์กลายเป็นเครื่องมือปราบนักข่าว
บทความจาก Columbia Journalism Review เปิดเผยว่า กฎหมายไซเบอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำลังถูกใช้เพื่อกดขี่เสรีภาพสื่อในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแอฟริกาและตะวันออกกลาง เช่น ไนจีเรีย ปากีสถาน จอร์แดน และไนเจอร์
ตัวอย่างที่เด่นชัดคือกรณีของ Daniel Ojukwu นักข่าววัย 26 ปีจากไนจีเรีย ที่ถูกจับกุมโดยไม่มีการแจ้งข้อหาอย่างชัดเจน หลังจากเขาเขียนบทความเกี่ยวกับการทุจริตในสำนักงานประธานาธิบดี เขาถูกกล่าวหาว่าละเมิด Cybercrime Act ปี 2015 ซึ่งมีบทบัญญัติที่คลุมเครือ เช่น ห้ามเผยแพร่ข้อมูล “น่ารำคาญ” หรือ “หยาบคาย” ทางออนไลน์
แม้จะมีการแก้ไขกฎหมายในปี 2024 แต่ข้อความใหม่ยังคงเปิดช่องให้ตีความได้กว้าง เช่น การเผยแพร่ข้อมูล “เท็จโดยเจตนา” ที่อาจ “ทำให้เกิดความวุ่นวาย” หรือ “คุกคามชีวิต” ซึ่งยังคงถูกใช้เล่นงานนักข่าวสายสืบสวนอย่างต่อเนื่อง
ประเทศอื่นก็มีแนวโน้มคล้ายกัน เช่น:
🎃 ไนเจอร์ กลับมาใช้โทษจำคุกสำหรับการหมิ่นประมาทและเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบศักดิ์ศรีมนุษย์”
🎃 จอร์แดน ดำเนินคดีนักข่าวอย่างน้อย 15 คนภายใต้กฎหมายไซเบอร์ฉบับขยายปี 2023
🎃 ปากีสถานและตุรกี ใช้กฎหมาย “ต่อต้านข่าวปลอม” เพื่อควบคุมเนื้อหาสื่อ
นักวิจัยจาก Citizen Lab เตือนว่า กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยลดข่าวปลอมจริง ๆ แต่กลับเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ และเมื่อประเทศประชาธิปไตยก็เริ่มออกกฎหมายคล้ายกัน ก็ยิ่งเปิดช่องให้รัฐบาลเผด็จการใช้เป็นข้ออ้างในการเซ็นเซอร์
✅ กฎหมายไซเบอร์ถูกใช้เพื่อปราบปรามนักข่าวในหลายประเทศ 
➡️ โดยเฉพาะผู้ที่เปิดโปงการทุจริตหรือวิพากษ์รัฐบาล
✅ Cybercrime Act ของไนจีเรียมีบทบัญญัติคลุมเครือ 
➡️ เช่น “ข้อมูลเท็จที่คุกคามชีวิต” หรือ “น่ารำคาญ” 
➡️ เปิดช่องให้ตีความและใช้เล่นงานนักข่าว
✅ นักข่าวถูกจับกุมโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน 
➡️ เช่นกรณี Daniel Ojukwu และทีม Informant247 
➡️ ถูกควบคุมตัวร่วมกับนักโทษทั่วไปในสภาพแย่
✅ กฎหมายคล้ายกันถูกใช้ในไนเจอร์ จอร์แดน ปากีสถาน และตุรกี 
➡️ เพิ่มโทษจำคุกสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบความสงบ” 
➡️ ใช้ข้อหา “ข่าวปลอม” เป็นเครื่องมือควบคุมสื่อ
✅ นักวิจัยเตือนว่ากฎหมายเหล่านี้ไม่ช่วยลด misinformation 
➡️ แต่เพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหา 
➡️ ประเทศประชาธิปไตยที่ออกกฎหมายคล้ายกันยิ่งเปิดช่องให้เผด็จการเลียนแบบ
https://www.cjr.org/analysis/nigeria-pakistan-jordan-cybercrime-laws-journalism.php
     0 Comments
               0 Shares
               62 Views
                0 Reviews