"ไม่สามารถปฏิเสธได้": เมื่อการสแกนใบหน้ากลายเป็นข้อบังคับ

ICE ใช้แอปสแกนใบหน้า Mobile Fortify โดยไม่ให้ประชาชนปฏิเสธได้ แม้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ข้อมูลจะถูกเก็บนานถึง 15 ปี

ในเอกสารภายในของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ที่เปิดเผยโดย 404 Media พบว่า Immigration and Customs Enforcement (ICE) ได้ใช้แอปชื่อ Mobile Fortify เพื่อสแกนใบหน้าประชาชนบนท้องถนนเพื่อยืนยันตัวตนและสถานะการเข้าเมือง โดยไม่มีทางเลือกให้ปฏิเสธ แม้บุคคลนั้นจะเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ก็ตาม

ภาพใบหน้าที่ถูกสแกนจะถูกเก็บไว้นานถึง 15 ปี โดยไม่สนใจสถานะการเข้าเมืองหรือสัญชาติของบุคคลนั้น ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากในเรื่องสิทธิส่วนบุคคลและการละเมิดข้อมูล

แอป Mobile Fortify สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลของรัฐบาลจำนวนมาก และเปรียบเทียบภาพใบหน้ากับคลังภาพกว่า 200 ล้านภาพ เพื่อดึงข้อมูลเช่น ชื่อ วันเกิด หมายเลขคนเข้าเมือง และคำสั่งเนรเทศ

นักการเมืองและนักสิทธิมนุษยชนออกโรงเตือน สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ รวมถึง Bernie Sanders ได้เรียกร้องให้ ICE ยุติการใช้เทคโนโลยีนี้ โดยชี้ว่า ระบบจดจำใบหน้าเหล่านี้มีความลำเอียงและไม่แม่นยำ โดยเฉพาะกับคนผิวสี และอาจนำไปสู่การควบคุมตัวผิดพลาด เช่นกรณีพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกควบคุมตัวนานถึง 30 ชั่วโมงจากการยืนยันตัวตนผิดพลาด

การทดสอบโดย National Institute of Standards and Technology ในปี 2024 พบว่า ระบบจดจำใบหน้าให้ผลลัพธ์ผิดพลาดเมื่อภาพมีคุณภาพต่ำ เบลอ หรือถ่ายจากมุมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของภาพที่เจ้าหน้าที่ภาคสนามจะได้จากสมาร์ทโฟน

ICE ใช้แอป Mobile Fortify สแกนใบหน้า
ใช้เพื่อยืนยันตัวตนและสถานะการเข้าเมืองของบุคคล

ไม่สามารถปฏิเสธการสแกนได้
แม้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ

ข้อมูลใบหน้าถูกเก็บไว้นานถึง 15 ปี
ไม่สนใจสถานะหรือสัญชาติของบุคคลนั้น

แอปเข้าถึงฐานข้อมูลจำนวนมาก
เปรียบเทียบกับภาพกว่า 200 ล้านภาพเพื่อดึงข้อมูลส่วนบุคคล

นักการเมืองเรียกร้องให้ยุติการใช้
ชี้ว่าเทคโนโลยีมีความลำเอียงและไม่แม่นยำ

มีกรณีควบคุมตัวผิดพลาด
พลเมืองสหรัฐฯ ถูกควบคุมตัว 30 ชั่วโมงจากการยืนยันตัวตนผิด

https://www.404media.co/you-cant-refuse-to-be-scanned-by-ices-facial-recognition-app-dhs-document-says/
🕵️‍♂️ "ไม่สามารถปฏิเสธได้": เมื่อการสแกนใบหน้ากลายเป็นข้อบังคับ ICE ใช้แอปสแกนใบหน้า Mobile Fortify โดยไม่ให้ประชาชนปฏิเสธได้ แม้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ข้อมูลจะถูกเก็บนานถึง 15 ปี ในเอกสารภายในของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ที่เปิดเผยโดย 404 Media พบว่า Immigration and Customs Enforcement (ICE) ได้ใช้แอปชื่อ Mobile Fortify เพื่อสแกนใบหน้าประชาชนบนท้องถนนเพื่อยืนยันตัวตนและสถานะการเข้าเมือง โดยไม่มีทางเลือกให้ปฏิเสธ แม้บุคคลนั้นจะเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ก็ตาม 📸 ภาพใบหน้าที่ถูกสแกนจะถูกเก็บไว้นานถึง 15 ปี โดยไม่สนใจสถานะการเข้าเมืองหรือสัญชาติของบุคคลนั้น ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากในเรื่องสิทธิส่วนบุคคลและการละเมิดข้อมูล 📱 แอป Mobile Fortify สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลของรัฐบาลจำนวนมาก และเปรียบเทียบภาพใบหน้ากับคลังภาพกว่า 200 ล้านภาพ เพื่อดึงข้อมูลเช่น ชื่อ วันเกิด หมายเลขคนเข้าเมือง และคำสั่งเนรเทศ ⚠️ นักการเมืองและนักสิทธิมนุษยชนออกโรงเตือน สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ รวมถึง Bernie Sanders ได้เรียกร้องให้ ICE ยุติการใช้เทคโนโลยีนี้ โดยชี้ว่า ระบบจดจำใบหน้าเหล่านี้มีความลำเอียงและไม่แม่นยำ โดยเฉพาะกับคนผิวสี และอาจนำไปสู่การควบคุมตัวผิดพลาด เช่นกรณีพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกควบคุมตัวนานถึง 30 ชั่วโมงจากการยืนยันตัวตนผิดพลาด 🌫️ การทดสอบโดย National Institute of Standards and Technology ในปี 2024 พบว่า ระบบจดจำใบหน้าให้ผลลัพธ์ผิดพลาดเมื่อภาพมีคุณภาพต่ำ เบลอ หรือถ่ายจากมุมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของภาพที่เจ้าหน้าที่ภาคสนามจะได้จากสมาร์ทโฟน ✅ ICE ใช้แอป Mobile Fortify สแกนใบหน้า ➡️ ใช้เพื่อยืนยันตัวตนและสถานะการเข้าเมืองของบุคคล ✅ ไม่สามารถปฏิเสธการสแกนได้ ➡️ แม้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ✅ ข้อมูลใบหน้าถูกเก็บไว้นานถึง 15 ปี ➡️ ไม่สนใจสถานะหรือสัญชาติของบุคคลนั้น ✅ แอปเข้าถึงฐานข้อมูลจำนวนมาก ➡️ เปรียบเทียบกับภาพกว่า 200 ล้านภาพเพื่อดึงข้อมูลส่วนบุคคล ✅ นักการเมืองเรียกร้องให้ยุติการใช้ ➡️ ชี้ว่าเทคโนโลยีมีความลำเอียงและไม่แม่นยำ ✅ มีกรณีควบคุมตัวผิดพลาด ➡️ พลเมืองสหรัฐฯ ถูกควบคุมตัว 30 ชั่วโมงจากการยืนยันตัวตนผิด https://www.404media.co/you-cant-refuse-to-be-scanned-by-ices-facial-recognition-app-dhs-document-says/
WWW.404MEDIA.CO
You Can't Refuse To Be Scanned by ICE's Facial Recognition App, DHS Document Says
Photos captured by Mobile Fortify will be stored for 15 years, regardless of immigration or citizenship status, the document says.
0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews