จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก! 
 
จีนสร้างศูนย์ข้อมูลใต้ทะเลลึก 35 เมตรนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ใช้พลังงานลมและน้ำทะเลในการระบายความร้อน ตั้งเป้าเป็นต้นแบบโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ประหยัดพลังงานและลดการใช้พื้นที่บนบก
 
ในยุคที่ข้อมูลคือทุกสิ่ง จีนได้เปิดตัวโครงการที่พลิกโฉมวงการไอที: ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ Lin-gang ทางตอนใต้ของเซี่ยงไฮ้ โครงการนี้มีมูลค่ากว่า 226 ล้านดอลลาร์ และมีเป้าหมายสร้างศูนย์ข้อมูลขนาด 24 เมกะวัตต์ โดยเริ่มต้นแล้วที่ 2.3 เมกะวัตต์
 
แนวคิดเบื้องหลังนั้นเรียบง่ายแต่ทรงพลัง: นำเซิร์ฟเวอร์ใส่แคปซูลกันน้ำ วางไว้ใต้ทะเล แล้วปล่อยให้ธรรมชาติช่วยระบายความร้อน ด้วยการใช้พลังงานลมจากทะเลและน้ำทะเลแทนเครื่องทำความเย็นแบบเดิม ทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ต่ำกว่า 1.15 ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยของศูนย์ข้อมูลบนบก
 
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีนหลายแห่ง และมีแผนขยายเป็นเวอร์ชัน 500 เมกะวัตต์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่: การซ่อมแซมหรืออัปเกรดฮาร์ดแวร์ในแคปซูลที่มีแรงดันสูงนั้นทั้งแพงและใช้เวลานาน
 
แม้ Microsoft เคยทดลองแนวคิดคล้ายกันในโครงการ Natick แต่ก็ยุติไปเพราะต้นทุนและการบำรุงรักษาไม่คุ้มค่า จีนจึงต้องพิสูจน์ว่าแนวทางนี้จะยั่งยืนได้จริงในเชิงพาณิชย์
 
จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก
ตั้งอยู่ในพื้นที่ Lin-gang ใกล้เซี่ยงไฮ้
ลึก 35 เมตรใต้ทะเล ใช้แคปซูลเหล็กเคลือบกันสนิม
ใช้พลังงานลม 95% และน้ำทะเลในการระบายความร้อน
PUE ต่ำกว่า 1.15 ดีกว่าค่ามาตรฐานของจีนที่ 1.25
 
เป้าหมายและการขยายในอนาคต
เริ่มต้นที่ 2.3 เมกะวัตต์ ตั้งเป้า 24 เมกะวัตต์
มีแผนขยายเป็น 500 เมกะวัตต์ในพื้นที่นอกชายฝั่ง
 
เทียบกับโครงการ Natick ของ Microsoft
Natick มีความน่าเชื่อถือสูงถึง 8 เท่า แต่ไม่คุ้มทุน
ถูกยุติและนำข้อมูลไปใช้ใน Azure
 
https://www.tomshardware.com/tech-industry/cnina-deploys-wind-powered-underwater-data-center
  จีนสร้างศูนย์ข้อมูลใต้ทะเลลึก 35 เมตรนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ใช้พลังงานลมและน้ำทะเลในการระบายความร้อน ตั้งเป้าเป็นต้นแบบโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ประหยัดพลังงานและลดการใช้พื้นที่บนบก
ในยุคที่ข้อมูลคือทุกสิ่ง จีนได้เปิดตัวโครงการที่พลิกโฉมวงการไอที: ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ Lin-gang ทางตอนใต้ของเซี่ยงไฮ้ โครงการนี้มีมูลค่ากว่า 226 ล้านดอลลาร์ และมีเป้าหมายสร้างศูนย์ข้อมูลขนาด 24 เมกะวัตต์ โดยเริ่มต้นแล้วที่ 2.3 เมกะวัตต์
แนวคิดเบื้องหลังนั้นเรียบง่ายแต่ทรงพลัง: นำเซิร์ฟเวอร์ใส่แคปซูลกันน้ำ วางไว้ใต้ทะเล แล้วปล่อยให้ธรรมชาติช่วยระบายความร้อน ด้วยการใช้พลังงานลมจากทะเลและน้ำทะเลแทนเครื่องทำความเย็นแบบเดิม ทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ต่ำกว่า 1.15 ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยของศูนย์ข้อมูลบนบก
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีนหลายแห่ง และมีแผนขยายเป็นเวอร์ชัน 500 เมกะวัตต์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่: การซ่อมแซมหรืออัปเกรดฮาร์ดแวร์ในแคปซูลที่มีแรงดันสูงนั้นทั้งแพงและใช้เวลานาน
แม้ Microsoft เคยทดลองแนวคิดคล้ายกันในโครงการ Natick แต่ก็ยุติไปเพราะต้นทุนและการบำรุงรักษาไม่คุ้มค่า จีนจึงต้องพิสูจน์ว่าแนวทางนี้จะยั่งยืนได้จริงในเชิงพาณิชย์
จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก
ตั้งอยู่ในพื้นที่ Lin-gang ใกล้เซี่ยงไฮ้
ลึก 35 เมตรใต้ทะเล ใช้แคปซูลเหล็กเคลือบกันสนิม
ใช้พลังงานลม 95% และน้ำทะเลในการระบายความร้อน
PUE ต่ำกว่า 1.15 ดีกว่าค่ามาตรฐานของจีนที่ 1.25
เป้าหมายและการขยายในอนาคต
เริ่มต้นที่ 2.3 เมกะวัตต์ ตั้งเป้า 24 เมกะวัตต์
มีแผนขยายเป็น 500 เมกะวัตต์ในพื้นที่นอกชายฝั่ง
เทียบกับโครงการ Natick ของ Microsoft
Natick มีความน่าเชื่อถือสูงถึง 8 เท่า แต่ไม่คุ้มทุน
ถูกยุติและนำข้อมูลไปใช้ใน Azure
https://www.tomshardware.com/tech-industry/cnina-deploys-wind-powered-underwater-data-center
🌊⚡ จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก! 
จีนสร้างศูนย์ข้อมูลใต้ทะเลลึก 35 เมตรนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ใช้พลังงานลมและน้ำทะเลในการระบายความร้อน ตั้งเป้าเป็นต้นแบบโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ประหยัดพลังงานและลดการใช้พื้นที่บนบก
ในยุคที่ข้อมูลคือทุกสิ่ง จีนได้เปิดตัวโครงการที่พลิกโฉมวงการไอที: ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ Lin-gang ทางตอนใต้ของเซี่ยงไฮ้ โครงการนี้มีมูลค่ากว่า 226 ล้านดอลลาร์ และมีเป้าหมายสร้างศูนย์ข้อมูลขนาด 24 เมกะวัตต์ โดยเริ่มต้นแล้วที่ 2.3 เมกะวัตต์
แนวคิดเบื้องหลังนั้นเรียบง่ายแต่ทรงพลัง: นำเซิร์ฟเวอร์ใส่แคปซูลกันน้ำ วางไว้ใต้ทะเล แล้วปล่อยให้ธรรมชาติช่วยระบายความร้อน ด้วยการใช้พลังงานลมจากทะเลและน้ำทะเลแทนเครื่องทำความเย็นแบบเดิม ทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ต่ำกว่า 1.15 ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยของศูนย์ข้อมูลบนบก
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีนหลายแห่ง และมีแผนขยายเป็นเวอร์ชัน 500 เมกะวัตต์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่: การซ่อมแซมหรืออัปเกรดฮาร์ดแวร์ในแคปซูลที่มีแรงดันสูงนั้นทั้งแพงและใช้เวลานาน
แม้ Microsoft เคยทดลองแนวคิดคล้ายกันในโครงการ Natick แต่ก็ยุติไปเพราะต้นทุนและการบำรุงรักษาไม่คุ้มค่า จีนจึงต้องพิสูจน์ว่าแนวทางนี้จะยั่งยืนได้จริงในเชิงพาณิชย์
✅ จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก 
➡️ ตั้งอยู่ในพื้นที่ Lin-gang ใกล้เซี่ยงไฮ้ 
➡️ ลึก 35 เมตรใต้ทะเล ใช้แคปซูลเหล็กเคลือบกันสนิม 
➡️ ใช้พลังงานลม 95% และน้ำทะเลในการระบายความร้อน 
➡️ PUE ต่ำกว่า 1.15 ดีกว่าค่ามาตรฐานของจีนที่ 1.25
✅ เป้าหมายและการขยายในอนาคต 
➡️ เริ่มต้นที่ 2.3 เมกะวัตต์ ตั้งเป้า 24 เมกะวัตต์ 
➡️ มีแผนขยายเป็น 500 เมกะวัตต์ในพื้นที่นอกชายฝั่ง
✅ เทียบกับโครงการ Natick ของ Microsoft 
➡️ Natick มีความน่าเชื่อถือสูงถึง 8 เท่า แต่ไม่คุ้มทุน 
➡️ ถูกยุติและนำข้อมูลไปใช้ใน Azure
https://www.tomshardware.com/tech-industry/cnina-deploys-wind-powered-underwater-data-center
     0 Comments
               0 Shares
               46 Views
                0 Reviews
                
  
                                               
                                                             
                               
  Thai
Thai