“CISO ข้ามอุตสาหกรรมได้ไหม? ถอดรหัสทักษะที่ยืดหยุ่นและความเสี่ยงที่ต้องรู้”
 
ลองจินตนาการว่าคุณเป็น CISO (Chief Information Security Officer) ที่มีประสบการณ์แน่นในสายงานไอทีขององค์กรขนาดใหญ่ วันหนึ่งคุณอยากเปลี่ยนไปทำงานในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น จากสายการเงินไปสายสุขภาพ หรือจากเทคโนโลยีไปค้าปลีก…ฟังดูง่ายใช่ไหม? แต่ในความเป็นจริง มันไม่ง่ายอย่างที่คิด
 
หลายคนพบว่าการย้ายข้ามอุตสาหกรรมเป็นเรื่องยาก เพราะผู้บริหารและบริษัทมักมองว่าทักษะของ CISO นั้นเฉพาะเจาะจงกับอุตสาหกรรมเดิม เช่น ถ้าคุณเคยทำในสายธนาคาร ก็จะถูกมองว่าเหมาะกับงานในสายธนาคารเท่านั้น
 
แต่ก็มีคนที่ทำได้สำเร็จ เช่น Marc Ashworth จาก First Bank ที่เคยผ่านงานในอุตสาหกรรมอวกาศ สุขภาพ และการเงิน เขาใช้ประสบการณ์จากการเป็นที่ปรึกษาในการสร้างทักษะที่ยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวได้กับทุกบริบท
 
Tim Youngblood อดีต CISO ของ Dell ก็เช่นกัน เขาเริ่มต้นจากการเป็นที่ปรึกษา KPMG ทำให้ได้สัมผัสกับหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้น และเรียนรู้ว่า “หลักการด้านความปลอดภัยนั้นเหมือนกันทุกที่ ต่างกันแค่บริบท”
 
นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากรว่า หากคุณไม่มีประสบการณ์ที่ปรึกษา ก็สามารถเริ่มจากการย้ายไปอุตสาหกรรมที่มีโครงสร้างคล้ายกัน เช่น จากเภสัชกรรมไปสุขภาพ เพราะทั้งสองอยู่ในระบบที่มีการกำกับดูแลสูง
 
สิ่งสำคัญคือ “การแสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงในอุตสาหกรรมใหม่ และสามารถจัดการได้” เช่น Michael Meline ที่เคยเป็นตำรวจมาก่อน แล้วเปลี่ยนสายมาเป็นผู้บริหารด้านความปลอดภัยในธุรกิจการเงินและสุขภาพ โดยใช้หลักการบริหารความเสี่ยงเป็นแกนหลัก
 
ทักษะที่ถ่ายโอนได้คือหัวใจของการเปลี่ยนอุตสาหกรรม
การเป็นที่ปรึกษาให้หลายองค์กรช่วยสร้างความเข้าใจในหลายบริบท
หลักการด้านความปลอดภัยมีความคล้ายกันในหลายอุตสาหกรรม
การเข้าร่วมกลุ่ม ISACs (Information Sharing and Analysis Centers) ช่วยให้เข้าใจปัญหาเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม
การย้ายจากอุตสาหกรรมที่มีโครงสร้างคล้ายกันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เช่น จากเภสัชกรรมไปสุขภาพ
 
การแสดงผลลัพธ์ที่จับต้องได้ช่วยให้ผู้สรรหามองเห็นคุณค่า
ต้องอธิบายให้ได้ว่าเคยทำอะไร มีผลกระทบอย่างไร และจะนำมาปรับใช้ในบริบทใหม่ได้อย่างไร
การเข้าใจโครงสร้างองค์กรและภัยคุกคามเฉพาะของอุตสาหกรรมใหม่เป็นสิ่งจำเป็น
 
ความเสี่ยงในการถูกมองว่า “เหมาะกับอุตสาหกรรมเดียว”
อาจทำให้โอกาสในการเปลี่ยนสายงานลดลง
ผู้บริหารบางคนยังยึดติดกับแนวคิด “อยู่ในสายไหนก็ต้องอยู่ในสายนั้น”
 
การไม่เข้าใจความเสี่ยงเฉพาะของอุตสาหกรรมใหม่
อาจทำให้ขาดความน่าเชื่อถือในการบริหารความปลอดภัย
ส่งผลต่อการตัดสินใจรับเข้าทำงานในองค์กรใหม่
 
ถ้าคุณกำลังคิดจะเปลี่ยนสายงานในระดับ CISO หรือผู้บริหารด้านความปลอดภัย ข้อคิดสำคัญคือ “อย่าขายแค่ตำแหน่งเดิม แต่ต้องขายผลลัพธ์และความเข้าใจในความเสี่ยง” แล้วคุณจะมีโอกาสข้ามอุตสาหกรรมได้อย่างมั่นใจ
 
https://www.csoonline.com/article/4079956/tips-for-cisos-switching-between-industries.html
  ลองจินตนาการว่าคุณเป็น CISO (Chief Information Security Officer) ที่มีประสบการณ์แน่นในสายงานไอทีขององค์กรขนาดใหญ่ วันหนึ่งคุณอยากเปลี่ยนไปทำงานในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น จากสายการเงินไปสายสุขภาพ หรือจากเทคโนโลยีไปค้าปลีก…ฟังดูง่ายใช่ไหม? แต่ในความเป็นจริง มันไม่ง่ายอย่างที่คิด
หลายคนพบว่าการย้ายข้ามอุตสาหกรรมเป็นเรื่องยาก เพราะผู้บริหารและบริษัทมักมองว่าทักษะของ CISO นั้นเฉพาะเจาะจงกับอุตสาหกรรมเดิม เช่น ถ้าคุณเคยทำในสายธนาคาร ก็จะถูกมองว่าเหมาะกับงานในสายธนาคารเท่านั้น
แต่ก็มีคนที่ทำได้สำเร็จ เช่น Marc Ashworth จาก First Bank ที่เคยผ่านงานในอุตสาหกรรมอวกาศ สุขภาพ และการเงิน เขาใช้ประสบการณ์จากการเป็นที่ปรึกษาในการสร้างทักษะที่ยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวได้กับทุกบริบท
Tim Youngblood อดีต CISO ของ Dell ก็เช่นกัน เขาเริ่มต้นจากการเป็นที่ปรึกษา KPMG ทำให้ได้สัมผัสกับหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้น และเรียนรู้ว่า “หลักการด้านความปลอดภัยนั้นเหมือนกันทุกที่ ต่างกันแค่บริบท”
นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากรว่า หากคุณไม่มีประสบการณ์ที่ปรึกษา ก็สามารถเริ่มจากการย้ายไปอุตสาหกรรมที่มีโครงสร้างคล้ายกัน เช่น จากเภสัชกรรมไปสุขภาพ เพราะทั้งสองอยู่ในระบบที่มีการกำกับดูแลสูง
สิ่งสำคัญคือ “การแสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงในอุตสาหกรรมใหม่ และสามารถจัดการได้” เช่น Michael Meline ที่เคยเป็นตำรวจมาก่อน แล้วเปลี่ยนสายมาเป็นผู้บริหารด้านความปลอดภัยในธุรกิจการเงินและสุขภาพ โดยใช้หลักการบริหารความเสี่ยงเป็นแกนหลัก
ทักษะที่ถ่ายโอนได้คือหัวใจของการเปลี่ยนอุตสาหกรรม
การเป็นที่ปรึกษาให้หลายองค์กรช่วยสร้างความเข้าใจในหลายบริบท
หลักการด้านความปลอดภัยมีความคล้ายกันในหลายอุตสาหกรรม
การเข้าร่วมกลุ่ม ISACs (Information Sharing and Analysis Centers) ช่วยให้เข้าใจปัญหาเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม
การย้ายจากอุตสาหกรรมที่มีโครงสร้างคล้ายกันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เช่น จากเภสัชกรรมไปสุขภาพ
การแสดงผลลัพธ์ที่จับต้องได้ช่วยให้ผู้สรรหามองเห็นคุณค่า
ต้องอธิบายให้ได้ว่าเคยทำอะไร มีผลกระทบอย่างไร และจะนำมาปรับใช้ในบริบทใหม่ได้อย่างไร
การเข้าใจโครงสร้างองค์กรและภัยคุกคามเฉพาะของอุตสาหกรรมใหม่เป็นสิ่งจำเป็น
ความเสี่ยงในการถูกมองว่า “เหมาะกับอุตสาหกรรมเดียว”
อาจทำให้โอกาสในการเปลี่ยนสายงานลดลง
ผู้บริหารบางคนยังยึดติดกับแนวคิด “อยู่ในสายไหนก็ต้องอยู่ในสายนั้น”
การไม่เข้าใจความเสี่ยงเฉพาะของอุตสาหกรรมใหม่
อาจทำให้ขาดความน่าเชื่อถือในการบริหารความปลอดภัย
ส่งผลต่อการตัดสินใจรับเข้าทำงานในองค์กรใหม่
ถ้าคุณกำลังคิดจะเปลี่ยนสายงานในระดับ CISO หรือผู้บริหารด้านความปลอดภัย ข้อคิดสำคัญคือ “อย่าขายแค่ตำแหน่งเดิม แต่ต้องขายผลลัพธ์และความเข้าใจในความเสี่ยง” แล้วคุณจะมีโอกาสข้ามอุตสาหกรรมได้อย่างมั่นใจ
https://www.csoonline.com/article/4079956/tips-for-cisos-switching-between-industries.html
🧭 “CISO ข้ามอุตสาหกรรมได้ไหม? ถอดรหัสทักษะที่ยืดหยุ่นและความเสี่ยงที่ต้องรู้”
ลองจินตนาการว่าคุณเป็น CISO (Chief Information Security Officer) ที่มีประสบการณ์แน่นในสายงานไอทีขององค์กรขนาดใหญ่ วันหนึ่งคุณอยากเปลี่ยนไปทำงานในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น จากสายการเงินไปสายสุขภาพ หรือจากเทคโนโลยีไปค้าปลีก…ฟังดูง่ายใช่ไหม? แต่ในความเป็นจริง มันไม่ง่ายอย่างที่คิด
หลายคนพบว่าการย้ายข้ามอุตสาหกรรมเป็นเรื่องยาก เพราะผู้บริหารและบริษัทมักมองว่าทักษะของ CISO นั้นเฉพาะเจาะจงกับอุตสาหกรรมเดิม เช่น ถ้าคุณเคยทำในสายธนาคาร ก็จะถูกมองว่าเหมาะกับงานในสายธนาคารเท่านั้น
แต่ก็มีคนที่ทำได้สำเร็จ เช่น Marc Ashworth จาก First Bank ที่เคยผ่านงานในอุตสาหกรรมอวกาศ สุขภาพ และการเงิน เขาใช้ประสบการณ์จากการเป็นที่ปรึกษาในการสร้างทักษะที่ยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวได้กับทุกบริบท
Tim Youngblood อดีต CISO ของ Dell ก็เช่นกัน เขาเริ่มต้นจากการเป็นที่ปรึกษา KPMG ทำให้ได้สัมผัสกับหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้น และเรียนรู้ว่า “หลักการด้านความปลอดภัยนั้นเหมือนกันทุกที่ ต่างกันแค่บริบท”
นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากรว่า หากคุณไม่มีประสบการณ์ที่ปรึกษา ก็สามารถเริ่มจากการย้ายไปอุตสาหกรรมที่มีโครงสร้างคล้ายกัน เช่น จากเภสัชกรรมไปสุขภาพ เพราะทั้งสองอยู่ในระบบที่มีการกำกับดูแลสูง
สิ่งสำคัญคือ “การแสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงในอุตสาหกรรมใหม่ และสามารถจัดการได้” เช่น Michael Meline ที่เคยเป็นตำรวจมาก่อน แล้วเปลี่ยนสายมาเป็นผู้บริหารด้านความปลอดภัยในธุรกิจการเงินและสุขภาพ โดยใช้หลักการบริหารความเสี่ยงเป็นแกนหลัก
✅ ทักษะที่ถ่ายโอนได้คือหัวใจของการเปลี่ยนอุตสาหกรรม 
➡️ การเป็นที่ปรึกษาให้หลายองค์กรช่วยสร้างความเข้าใจในหลายบริบท 
➡️ หลักการด้านความปลอดภัยมีความคล้ายกันในหลายอุตสาหกรรม 
➡️ การเข้าร่วมกลุ่ม ISACs (Information Sharing and Analysis Centers) ช่วยให้เข้าใจปัญหาเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม 
➡️ การย้ายจากอุตสาหกรรมที่มีโครงสร้างคล้ายกันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เช่น จากเภสัชกรรมไปสุขภาพ
✅ การแสดงผลลัพธ์ที่จับต้องได้ช่วยให้ผู้สรรหามองเห็นคุณค่า 
➡️ ต้องอธิบายให้ได้ว่าเคยทำอะไร มีผลกระทบอย่างไร และจะนำมาปรับใช้ในบริบทใหม่ได้อย่างไร 
➡️ การเข้าใจโครงสร้างองค์กรและภัยคุกคามเฉพาะของอุตสาหกรรมใหม่เป็นสิ่งจำเป็น
‼️ ความเสี่ยงในการถูกมองว่า “เหมาะกับอุตสาหกรรมเดียว” 
⛔ อาจทำให้โอกาสในการเปลี่ยนสายงานลดลง 
⛔ ผู้บริหารบางคนยังยึดติดกับแนวคิด “อยู่ในสายไหนก็ต้องอยู่ในสายนั้น”
‼️ การไม่เข้าใจความเสี่ยงเฉพาะของอุตสาหกรรมใหม่ 
⛔ อาจทำให้ขาดความน่าเชื่อถือในการบริหารความปลอดภัย 
⛔ ส่งผลต่อการตัดสินใจรับเข้าทำงานในองค์กรใหม่
ถ้าคุณกำลังคิดจะเปลี่ยนสายงานในระดับ CISO หรือผู้บริหารด้านความปลอดภัย ข้อคิดสำคัญคือ “อย่าขายแค่ตำแหน่งเดิม แต่ต้องขายผลลัพธ์และความเข้าใจในความเสี่ยง” แล้วคุณจะมีโอกาสข้ามอุตสาหกรรมได้อย่างมั่นใจ 💼✨
https://www.csoonline.com/article/4079956/tips-for-cisos-switching-between-industries.html
     0 Comments
               0 Shares
               30 Views
                0 Reviews
                
  
                                               
                                                             
                               
  Thai
Thai