OpenAI เผย: กว่า 1 ล้านคนต่อสัปดาห์พูดคุยกับ ChatGPT เรื่องการฆ่าตัวตาย — สะท้อนบทบาทใหม่ของ AI ในสุขภาพจิต
บทความจาก TechCrunch รายงานว่า OpenAI เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า มีผู้ใช้มากกว่า 1 ล้านคนต่อสัปดาห์พูดคุยกับ ChatGPT เกี่ยวกับความคิดฆ่าตัวตายหรือปัญหาสุขภาพจิตที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ AI ในการเป็น “ที่พึ่งทางอารมณ์” แม้จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตโดยตรง
ประเด็นสำคัญจากรายงานของ OpenAI
ChatGPT ถูกใช้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการระบายความรู้สึก
ผู้ใช้จำนวนมากพูดถึงความเครียด, ความเหงา, ความวิตกกังวล และความคิดฆ่าตัวตาย
บางคนใช้ ChatGPT เป็น “เพื่อนคุย” หรือ “ที่ปรึกษา” ในยามวิกฤต
OpenAI ยอมรับว่า AI ไม่สามารถแทนที่นักบำบัดได้
บริษัทระบุว่า ChatGPT ไม่ใช่เครื่องมือรักษาทางจิตเวช
แต่สามารถเป็น “จุดเริ่มต้น” ที่ช่วยให้ผู้ใช้กล้าขอความช่วยเหลือจากมนุษย์
มีการฝึก AI ให้ตอบสนองอย่างเห็นอกเห็นใจและปลอดภัย
ChatGPT ได้รับการฝึกให้หลีกเลี่ยงการให้คำแนะนำที่อาจเป็นอันตราย
หากตรวจพบคำพูดเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเอง ระบบจะกระตุ้นให้ผู้ใช้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญหรือสายด่วน
OpenAI กำลังพัฒนาเครื่องมือช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตเพิ่มเติม
มีการร่วมมือกับองค์กรด้านสุขภาพจิตเพื่อปรับปรุงการตอบสนองของ AI
อาจมีการสร้างฟีเจอร์เฉพาะสำหรับการสนับสนุนทางอารมณ์ในอนาคต
AI ไม่สามารถแทนที่การดูแลจากมนุษย์ได้
ChatGPT ไม่สามารถวินิจฉัยหรือรักษาโรคทางจิตเวช
การพึ่งพา AI เพียงอย่างเดียวอาจทำให้ปัญหาถูกละเลย
การพูดคุยกับ AI อาจช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว แต่ไม่ใช่การรักษา
ควรใช้เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ทางออกหลัก
การพูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญยังคงสำคัญที่สุด
https://techcrunch.com/2025/10/27/openai-says-over-a-million-people-talk-to-chatgpt-about-suicide-weekly/
บทความจาก TechCrunch รายงานว่า OpenAI เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า มีผู้ใช้มากกว่า 1 ล้านคนต่อสัปดาห์พูดคุยกับ ChatGPT เกี่ยวกับความคิดฆ่าตัวตายหรือปัญหาสุขภาพจิตที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ AI ในการเป็น “ที่พึ่งทางอารมณ์” แม้จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตโดยตรง
ประเด็นสำคัญจากรายงานของ OpenAI
ChatGPT ถูกใช้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการระบายความรู้สึก
ผู้ใช้จำนวนมากพูดถึงความเครียด, ความเหงา, ความวิตกกังวล และความคิดฆ่าตัวตาย
บางคนใช้ ChatGPT เป็น “เพื่อนคุย” หรือ “ที่ปรึกษา” ในยามวิกฤต
OpenAI ยอมรับว่า AI ไม่สามารถแทนที่นักบำบัดได้
บริษัทระบุว่า ChatGPT ไม่ใช่เครื่องมือรักษาทางจิตเวช
แต่สามารถเป็น “จุดเริ่มต้น” ที่ช่วยให้ผู้ใช้กล้าขอความช่วยเหลือจากมนุษย์
มีการฝึก AI ให้ตอบสนองอย่างเห็นอกเห็นใจและปลอดภัย
ChatGPT ได้รับการฝึกให้หลีกเลี่ยงการให้คำแนะนำที่อาจเป็นอันตราย
หากตรวจพบคำพูดเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเอง ระบบจะกระตุ้นให้ผู้ใช้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญหรือสายด่วน
OpenAI กำลังพัฒนาเครื่องมือช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตเพิ่มเติม
มีการร่วมมือกับองค์กรด้านสุขภาพจิตเพื่อปรับปรุงการตอบสนองของ AI
อาจมีการสร้างฟีเจอร์เฉพาะสำหรับการสนับสนุนทางอารมณ์ในอนาคต
AI ไม่สามารถแทนที่การดูแลจากมนุษย์ได้
ChatGPT ไม่สามารถวินิจฉัยหรือรักษาโรคทางจิตเวช
การพึ่งพา AI เพียงอย่างเดียวอาจทำให้ปัญหาถูกละเลย
การพูดคุยกับ AI อาจช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว แต่ไม่ใช่การรักษา
ควรใช้เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ทางออกหลัก
การพูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญยังคงสำคัญที่สุด
https://techcrunch.com/2025/10/27/openai-says-over-a-million-people-talk-to-chatgpt-about-suicide-weekly/
🧠💬 OpenAI เผย: กว่า 1 ล้านคนต่อสัปดาห์พูดคุยกับ ChatGPT เรื่องการฆ่าตัวตาย — สะท้อนบทบาทใหม่ของ AI ในสุขภาพจิต
บทความจาก TechCrunch รายงานว่า OpenAI เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า มีผู้ใช้มากกว่า 1 ล้านคนต่อสัปดาห์พูดคุยกับ ChatGPT เกี่ยวกับความคิดฆ่าตัวตายหรือปัญหาสุขภาพจิตที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ AI ในการเป็น “ที่พึ่งทางอารมณ์” แม้จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตโดยตรง
✅ ประเด็นสำคัญจากรายงานของ OpenAI
✅ ChatGPT ถูกใช้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการระบายความรู้สึก
➡️ ผู้ใช้จำนวนมากพูดถึงความเครียด, ความเหงา, ความวิตกกังวล และความคิดฆ่าตัวตาย
➡️ บางคนใช้ ChatGPT เป็น “เพื่อนคุย” หรือ “ที่ปรึกษา” ในยามวิกฤต
✅ OpenAI ยอมรับว่า AI ไม่สามารถแทนที่นักบำบัดได้
➡️ บริษัทระบุว่า ChatGPT ไม่ใช่เครื่องมือรักษาทางจิตเวช
➡️ แต่สามารถเป็น “จุดเริ่มต้น” ที่ช่วยให้ผู้ใช้กล้าขอความช่วยเหลือจากมนุษย์
✅ มีการฝึก AI ให้ตอบสนองอย่างเห็นอกเห็นใจและปลอดภัย
➡️ ChatGPT ได้รับการฝึกให้หลีกเลี่ยงการให้คำแนะนำที่อาจเป็นอันตราย
➡️ หากตรวจพบคำพูดเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเอง ระบบจะกระตุ้นให้ผู้ใช้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญหรือสายด่วน
✅ OpenAI กำลังพัฒนาเครื่องมือช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตเพิ่มเติม
➡️ มีการร่วมมือกับองค์กรด้านสุขภาพจิตเพื่อปรับปรุงการตอบสนองของ AI
➡️ อาจมีการสร้างฟีเจอร์เฉพาะสำหรับการสนับสนุนทางอารมณ์ในอนาคต
‼️ AI ไม่สามารถแทนที่การดูแลจากมนุษย์ได้
⛔ ChatGPT ไม่สามารถวินิจฉัยหรือรักษาโรคทางจิตเวช
⛔ การพึ่งพา AI เพียงอย่างเดียวอาจทำให้ปัญหาถูกละเลย
‼️ การพูดคุยกับ AI อาจช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว แต่ไม่ใช่การรักษา
⛔ ควรใช้เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ทางออกหลัก
⛔ การพูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญยังคงสำคัญที่สุด
https://techcrunch.com/2025/10/27/openai-says-over-a-million-people-talk-to-chatgpt-about-suicide-weekly/
0 Comments
0 Shares
50 Views
0 Reviews