Surfshark ขยายเครือข่าย VPN เป็น 4,500 เซิร์ฟเวอร์ – เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
Surfshark ประกาศขยายเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ VPN เพิ่มขึ้นถึง 40% รวมเป็น 4,500 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อได้หลากหลายขึ้น ลดความแออัดของเซิร์ฟเวอร์ และเพิ่มความเร็วในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม บริษัทเน้นย้ำว่า “คุณภาพของเซิร์ฟเวอร์” สำคัญกว่าจำนวน โดยเน้นการดูแลรักษาเซิร์ฟเวอร์ให้มีประสิทธิภาพสูง สเถียร และปลอดภัย
Surfshark ยังเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ภายใต้ระบบ Nexus SDN ได้แก่ Everlink และ FastTrack ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรและความเร็วในการเชื่อมต่อ โดย Everlink จะรักษาการเชื่อมต่อแม้ในเครือข่ายที่ไม่เสถียร ส่วน FastTrack จะปรับเส้นทางการรับส่งข้อมูลให้เหมาะสมกับตำแหน่งและกิจกรรมของผู้ใช้
การขยายเครือข่ายครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวของ Surfshark ที่ต้องการสร้างระบบ VPN ที่เร็ว ปลอดภัย และรองรับการเติบโตของผู้ใช้งานทั่วโลก โดยไม่เน้นแค่ตัวเลข แต่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด
การขยายเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของ Surfshark
เพิ่มขึ้น 40% รวมเป็น 4,500 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
ลดความแออัด เพิ่มความเร็ว และทางเลือกในการเชื่อมต่อ
เน้นคุณภาพของเซิร์ฟเวอร์มากกว่าปริมาณ
เทคโนโลยีใหม่ในระบบ Nexus SDN
Everlink: รักษาการเชื่อมต่อแม้ในเครือข่ายที่ไม่เสถียร
FastTrack: ปรับเส้นทางข้อมูลให้เหมาะกับตำแหน่งและกิจกรรม
เพิ่มความเร็ว ความเสถียร และประสบการณ์ใช้งาน
จุดยืนของ Surfshark
ไม่เน้นแค่จำนวนเซิร์ฟเวอร์ แต่เน้นประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ
มุ่งสร้างระบบ VPN ที่รองรับการเติบโตในอนาคต
ส่งเสริมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
ข้อควรระวังและข้อจำกัด
จำนวนเซิร์ฟเวอร์มากไม่ได้หมายถึงคุณภาพที่ดีเสมอไป
ผู้ใช้ควรเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะกับตำแหน่งและกิจกรรมของตน
เทคโนโลยีใหม่อาจยังไม่รองรับในทุกอุปกรณ์หรือแพลตฟอร์ม
ความเร็วและเสถียรภาพยังขึ้นอยู่กับเครือข่ายของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-network-to-4-500-servers-but-quality-is-more-important-than-quantity
Surfshark ประกาศขยายเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ VPN เพิ่มขึ้นถึง 40% รวมเป็น 4,500 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อได้หลากหลายขึ้น ลดความแออัดของเซิร์ฟเวอร์ และเพิ่มความเร็วในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม บริษัทเน้นย้ำว่า “คุณภาพของเซิร์ฟเวอร์” สำคัญกว่าจำนวน โดยเน้นการดูแลรักษาเซิร์ฟเวอร์ให้มีประสิทธิภาพสูง สเถียร และปลอดภัย
Surfshark ยังเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ภายใต้ระบบ Nexus SDN ได้แก่ Everlink และ FastTrack ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรและความเร็วในการเชื่อมต่อ โดย Everlink จะรักษาการเชื่อมต่อแม้ในเครือข่ายที่ไม่เสถียร ส่วน FastTrack จะปรับเส้นทางการรับส่งข้อมูลให้เหมาะสมกับตำแหน่งและกิจกรรมของผู้ใช้
การขยายเครือข่ายครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวของ Surfshark ที่ต้องการสร้างระบบ VPN ที่เร็ว ปลอดภัย และรองรับการเติบโตของผู้ใช้งานทั่วโลก โดยไม่เน้นแค่ตัวเลข แต่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด
การขยายเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของ Surfshark
เพิ่มขึ้น 40% รวมเป็น 4,500 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
ลดความแออัด เพิ่มความเร็ว และทางเลือกในการเชื่อมต่อ
เน้นคุณภาพของเซิร์ฟเวอร์มากกว่าปริมาณ
เทคโนโลยีใหม่ในระบบ Nexus SDN
Everlink: รักษาการเชื่อมต่อแม้ในเครือข่ายที่ไม่เสถียร
FastTrack: ปรับเส้นทางข้อมูลให้เหมาะกับตำแหน่งและกิจกรรม
เพิ่มความเร็ว ความเสถียร และประสบการณ์ใช้งาน
จุดยืนของ Surfshark
ไม่เน้นแค่จำนวนเซิร์ฟเวอร์ แต่เน้นประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ
มุ่งสร้างระบบ VPN ที่รองรับการเติบโตในอนาคต
ส่งเสริมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
ข้อควรระวังและข้อจำกัด
จำนวนเซิร์ฟเวอร์มากไม่ได้หมายถึงคุณภาพที่ดีเสมอไป
ผู้ใช้ควรเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะกับตำแหน่งและกิจกรรมของตน
เทคโนโลยีใหม่อาจยังไม่รองรับในทุกอุปกรณ์หรือแพลตฟอร์ม
ความเร็วและเสถียรภาพยังขึ้นอยู่กับเครือข่ายของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-network-to-4-500-servers-but-quality-is-more-important-than-quantity
🌐 Surfshark ขยายเครือข่าย VPN เป็น 4,500 เซิร์ฟเวอร์ – เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
Surfshark ประกาศขยายเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ VPN เพิ่มขึ้นถึง 40% รวมเป็น 4,500 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อได้หลากหลายขึ้น ลดความแออัดของเซิร์ฟเวอร์ และเพิ่มความเร็วในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม บริษัทเน้นย้ำว่า “คุณภาพของเซิร์ฟเวอร์” สำคัญกว่าจำนวน โดยเน้นการดูแลรักษาเซิร์ฟเวอร์ให้มีประสิทธิภาพสูง สเถียร และปลอดภัย
Surfshark ยังเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ภายใต้ระบบ Nexus SDN ได้แก่ Everlink และ FastTrack ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรและความเร็วในการเชื่อมต่อ โดย Everlink จะรักษาการเชื่อมต่อแม้ในเครือข่ายที่ไม่เสถียร ส่วน FastTrack จะปรับเส้นทางการรับส่งข้อมูลให้เหมาะสมกับตำแหน่งและกิจกรรมของผู้ใช้
การขยายเครือข่ายครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวของ Surfshark ที่ต้องการสร้างระบบ VPN ที่เร็ว ปลอดภัย และรองรับการเติบโตของผู้ใช้งานทั่วโลก โดยไม่เน้นแค่ตัวเลข แต่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด
✅ การขยายเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของ Surfshark
➡️ เพิ่มขึ้น 40% รวมเป็น 4,500 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
➡️ ลดความแออัด เพิ่มความเร็ว และทางเลือกในการเชื่อมต่อ
➡️ เน้นคุณภาพของเซิร์ฟเวอร์มากกว่าปริมาณ
✅ เทคโนโลยีใหม่ในระบบ Nexus SDN
➡️ Everlink: รักษาการเชื่อมต่อแม้ในเครือข่ายที่ไม่เสถียร
➡️ FastTrack: ปรับเส้นทางข้อมูลให้เหมาะกับตำแหน่งและกิจกรรม
➡️ เพิ่มความเร็ว ความเสถียร และประสบการณ์ใช้งาน
✅ จุดยืนของ Surfshark
➡️ ไม่เน้นแค่จำนวนเซิร์ฟเวอร์ แต่เน้นประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ
➡️ มุ่งสร้างระบบ VPN ที่รองรับการเติบโตในอนาคต
➡️ ส่งเสริมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด
⛔ จำนวนเซิร์ฟเวอร์มากไม่ได้หมายถึงคุณภาพที่ดีเสมอไป
⛔ ผู้ใช้ควรเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะกับตำแหน่งและกิจกรรมของตน
⛔ เทคโนโลยีใหม่อาจยังไม่รองรับในทุกอุปกรณ์หรือแพลตฟอร์ม
⛔ ความเร็วและเสถียรภาพยังขึ้นอยู่กับเครือข่ายของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-network-to-4-500-servers-but-quality-is-more-important-than-quantity
0 Comments
0 Shares
57 Views
0 Reviews