Shadow Escape: ช่องโหว่ใหม่ใน AI Assistant เสี่ยงทำข้อมูลผู้ใช้รั่วไหลมหาศาล
นักวิจัยจาก Operant AI ได้เปิดเผยการโจมตีแบบใหม่ที่เรียกว่า “Shadow Escape” ซึ่งเป็นการโจมตีแบบ “zero-click” ที่สามารถขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ผ่าน AI Assistant โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกหรือตอบสนองใดๆ เลย จุดอ่อนนี้เกิดจากการใช้มาตรฐาน Model Context Protocol (MCP) ที่ช่วยให้ AI อย่าง ChatGPT, Gemini และ Claude เชื่อมต่อกับระบบภายในขององค์กร เช่น ฐานข้อมูลหรือ API ต่างๆ
สิ่งที่น่ากังวลคือ Shadow Escape สามารถซ่อนคำสั่งอันตรายไว้ในไฟล์ธรรมดา เช่น คู่มือพนักงานหรือ PDF ที่ดูไม่มีพิษภัย เมื่อพนักงานอัปโหลดไฟล์เหล่านี้ให้ AI ช่วยสรุปหรือวิเคราะห์ คำสั่งที่ซ่อนอยู่จะสั่งให้ AI ดึงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า เช่น หมายเลขประกันสังคม (SSN), ข้อมูลการเงิน, หรือเวชระเบียน แล้วส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ไม่หวังดี โดยที่ระบบความปลอดภัยทั่วไปไม่สามารถตรวจจับได้ เพราะการเข้าถึงข้อมูลเกิดขึ้นภายในระบบที่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว
1️⃣ ลักษณะของการโจมตี
จุดเริ่มต้นของการโจมตี
ใช้ไฟล์ธรรมดา เช่น PDF หรือเอกสาร Word ที่ฝังคำสั่งลับ
พนักงานอัปโหลดไฟล์ให้ AI ช่วยสรุปหรือวิเคราะห์
คำสั่งลับจะสั่งให้ AI ดึงข้อมูลจากระบบภายใน
จุดอ่อนที่ถูกใช้
มาตรฐาน Model Context Protocol (MCP) ที่เชื่อม AI กับระบบองค์กร
การตั้งค่า permission ของ MCP ที่ไม่รัดกุม
AI มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลโดยตรง จึงไม่ถูกระบบรักษาความปลอดภัยภายนอกตรวจจับ
2️⃣ ข้อมูลที่ตกอยู่ในความเสี่ยง
ประเภทของข้อมูลที่อาจรั่วไหล
หมายเลขประกันสังคม (SSN)
ข้อมูลบัตรเครดิตและบัญชีธนาคาร
เวชระเบียนและข้อมูลสุขภาพ
ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า
คำเตือน
การรั่วไหลอาจเกิดขึ้นโดยที่พนักงานไม่รู้ตัว
ข้อมูลอาจถูกส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตีโดยไม่มีการแจ้งเตือน
3️⃣ ทำไมระบบความปลอดภัยทั่วไปจึงไม่สามารถป้องกันได้
ลักษณะของการโจมตีแบบ “zero-click”
ไม่ต้องการให้ผู้ใช้คลิกลิงก์หรือทำอะไร
ใช้ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเป็นเครื่องมือในการขโมยข้อมูล
การส่งข้อมูลออกถูกพรางให้ดูเหมือนเป็นการทำงานปกติของระบบ
คำเตือน
ระบบ firewall และระบบตรวจจับภัยคุกคามทั่วไปไม่สามารถแยกแยะพฤติกรรมนี้ได้
การใช้ AI โดยไม่มีการควบคุมสิทธิ์อย่างเข้มงวด อาจกลายเป็นช่องโหว่ร้ายแรง
4️⃣ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย
แนวทางป้องกัน
ตรวจสอบและจำกัดสิทธิ์ของ AI Assistant ในการเข้าถึงข้อมูล
ปรับแต่ง permission ของ MCP ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง
ตรวจสอบไฟล์ที่อัปโหลดเข้าระบบอย่างละเอียดก่อนให้ AI ประมวลผล
คำเตือน
องค์กรที่ใช้ AI Assistant โดยไม่ตรวจสอบการตั้งค่า MCP อาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
การละเลยการ audit ระบบ AI อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลระดับ “หลายล้านล้านรายการ”
https://hackread.com/shadow-escape-0-click-attack-ai-assistants-risk/
นักวิจัยจาก Operant AI ได้เปิดเผยการโจมตีแบบใหม่ที่เรียกว่า “Shadow Escape” ซึ่งเป็นการโจมตีแบบ “zero-click” ที่สามารถขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ผ่าน AI Assistant โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกหรือตอบสนองใดๆ เลย จุดอ่อนนี้เกิดจากการใช้มาตรฐาน Model Context Protocol (MCP) ที่ช่วยให้ AI อย่าง ChatGPT, Gemini และ Claude เชื่อมต่อกับระบบภายในขององค์กร เช่น ฐานข้อมูลหรือ API ต่างๆ
สิ่งที่น่ากังวลคือ Shadow Escape สามารถซ่อนคำสั่งอันตรายไว้ในไฟล์ธรรมดา เช่น คู่มือพนักงานหรือ PDF ที่ดูไม่มีพิษภัย เมื่อพนักงานอัปโหลดไฟล์เหล่านี้ให้ AI ช่วยสรุปหรือวิเคราะห์ คำสั่งที่ซ่อนอยู่จะสั่งให้ AI ดึงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า เช่น หมายเลขประกันสังคม (SSN), ข้อมูลการเงิน, หรือเวชระเบียน แล้วส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ไม่หวังดี โดยที่ระบบความปลอดภัยทั่วไปไม่สามารถตรวจจับได้ เพราะการเข้าถึงข้อมูลเกิดขึ้นภายในระบบที่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว
1️⃣ ลักษณะของการโจมตี
จุดเริ่มต้นของการโจมตี
ใช้ไฟล์ธรรมดา เช่น PDF หรือเอกสาร Word ที่ฝังคำสั่งลับ
พนักงานอัปโหลดไฟล์ให้ AI ช่วยสรุปหรือวิเคราะห์
คำสั่งลับจะสั่งให้ AI ดึงข้อมูลจากระบบภายใน
จุดอ่อนที่ถูกใช้
มาตรฐาน Model Context Protocol (MCP) ที่เชื่อม AI กับระบบองค์กร
การตั้งค่า permission ของ MCP ที่ไม่รัดกุม
AI มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลโดยตรง จึงไม่ถูกระบบรักษาความปลอดภัยภายนอกตรวจจับ
2️⃣ ข้อมูลที่ตกอยู่ในความเสี่ยง
ประเภทของข้อมูลที่อาจรั่วไหล
หมายเลขประกันสังคม (SSN)
ข้อมูลบัตรเครดิตและบัญชีธนาคาร
เวชระเบียนและข้อมูลสุขภาพ
ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า
คำเตือน
การรั่วไหลอาจเกิดขึ้นโดยที่พนักงานไม่รู้ตัว
ข้อมูลอาจถูกส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตีโดยไม่มีการแจ้งเตือน
3️⃣ ทำไมระบบความปลอดภัยทั่วไปจึงไม่สามารถป้องกันได้
ลักษณะของการโจมตีแบบ “zero-click”
ไม่ต้องการให้ผู้ใช้คลิกลิงก์หรือทำอะไร
ใช้ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเป็นเครื่องมือในการขโมยข้อมูล
การส่งข้อมูลออกถูกพรางให้ดูเหมือนเป็นการทำงานปกติของระบบ
คำเตือน
ระบบ firewall และระบบตรวจจับภัยคุกคามทั่วไปไม่สามารถแยกแยะพฤติกรรมนี้ได้
การใช้ AI โดยไม่มีการควบคุมสิทธิ์อย่างเข้มงวด อาจกลายเป็นช่องโหว่ร้ายแรง
4️⃣ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย
แนวทางป้องกัน
ตรวจสอบและจำกัดสิทธิ์ของ AI Assistant ในการเข้าถึงข้อมูล
ปรับแต่ง permission ของ MCP ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง
ตรวจสอบไฟล์ที่อัปโหลดเข้าระบบอย่างละเอียดก่อนให้ AI ประมวลผล
คำเตือน
องค์กรที่ใช้ AI Assistant โดยไม่ตรวจสอบการตั้งค่า MCP อาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
การละเลยการ audit ระบบ AI อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลระดับ “หลายล้านล้านรายการ”
https://hackread.com/shadow-escape-0-click-attack-ai-assistants-risk/
🕵️♂️ Shadow Escape: ช่องโหว่ใหม่ใน AI Assistant เสี่ยงทำข้อมูลผู้ใช้รั่วไหลมหาศาล
นักวิจัยจาก Operant AI ได้เปิดเผยการโจมตีแบบใหม่ที่เรียกว่า “Shadow Escape” ซึ่งเป็นการโจมตีแบบ “zero-click” ที่สามารถขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ผ่าน AI Assistant โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกหรือตอบสนองใดๆ เลย จุดอ่อนนี้เกิดจากการใช้มาตรฐาน Model Context Protocol (MCP) ที่ช่วยให้ AI อย่าง ChatGPT, Gemini และ Claude เชื่อมต่อกับระบบภายในขององค์กร เช่น ฐานข้อมูลหรือ API ต่างๆ
สิ่งที่น่ากังวลคือ Shadow Escape สามารถซ่อนคำสั่งอันตรายไว้ในไฟล์ธรรมดา เช่น คู่มือพนักงานหรือ PDF ที่ดูไม่มีพิษภัย เมื่อพนักงานอัปโหลดไฟล์เหล่านี้ให้ AI ช่วยสรุปหรือวิเคราะห์ คำสั่งที่ซ่อนอยู่จะสั่งให้ AI ดึงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า เช่น หมายเลขประกันสังคม (SSN), ข้อมูลการเงิน, หรือเวชระเบียน แล้วส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ไม่หวังดี โดยที่ระบบความปลอดภัยทั่วไปไม่สามารถตรวจจับได้ เพราะการเข้าถึงข้อมูลเกิดขึ้นภายในระบบที่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว
1️⃣ ลักษณะของการโจมตี
✅ จุดเริ่มต้นของการโจมตี
➡️ ใช้ไฟล์ธรรมดา เช่น PDF หรือเอกสาร Word ที่ฝังคำสั่งลับ
➡️ พนักงานอัปโหลดไฟล์ให้ AI ช่วยสรุปหรือวิเคราะห์
➡️ คำสั่งลับจะสั่งให้ AI ดึงข้อมูลจากระบบภายใน
✅ จุดอ่อนที่ถูกใช้
➡️ มาตรฐาน Model Context Protocol (MCP) ที่เชื่อม AI กับระบบองค์กร
➡️ การตั้งค่า permission ของ MCP ที่ไม่รัดกุม
➡️ AI มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลโดยตรง จึงไม่ถูกระบบรักษาความปลอดภัยภายนอกตรวจจับ
2️⃣ ข้อมูลที่ตกอยู่ในความเสี่ยง
✅ ประเภทของข้อมูลที่อาจรั่วไหล
➡️ หมายเลขประกันสังคม (SSN)
➡️ ข้อมูลบัตรเครดิตและบัญชีธนาคาร
➡️ เวชระเบียนและข้อมูลสุขภาพ
➡️ ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า
‼️ คำเตือน
⛔ การรั่วไหลอาจเกิดขึ้นโดยที่พนักงานไม่รู้ตัว
⛔ ข้อมูลอาจถูกส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตีโดยไม่มีการแจ้งเตือน
3️⃣ ทำไมระบบความปลอดภัยทั่วไปจึงไม่สามารถป้องกันได้
✅ ลักษณะของการโจมตีแบบ “zero-click”
➡️ ไม่ต้องการให้ผู้ใช้คลิกลิงก์หรือทำอะไร
➡️ ใช้ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเป็นเครื่องมือในการขโมยข้อมูล
➡️ การส่งข้อมูลออกถูกพรางให้ดูเหมือนเป็นการทำงานปกติของระบบ
‼️ คำเตือน
⛔ ระบบ firewall และระบบตรวจจับภัยคุกคามทั่วไปไม่สามารถแยกแยะพฤติกรรมนี้ได้
⛔ การใช้ AI โดยไม่มีการควบคุมสิทธิ์อย่างเข้มงวด อาจกลายเป็นช่องโหว่ร้ายแรง
4️⃣ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย
✅ แนวทางป้องกัน
➡️ ตรวจสอบและจำกัดสิทธิ์ของ AI Assistant ในการเข้าถึงข้อมูล
➡️ ปรับแต่ง permission ของ MCP ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง
➡️ ตรวจสอบไฟล์ที่อัปโหลดเข้าระบบอย่างละเอียดก่อนให้ AI ประมวลผล
‼️ คำเตือน
⛔ องค์กรที่ใช้ AI Assistant โดยไม่ตรวจสอบการตั้งค่า MCP อาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
⛔ การละเลยการ audit ระบบ AI อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลระดับ “หลายล้านล้านรายการ”
https://hackread.com/shadow-escape-0-click-attack-ai-assistants-risk/
0 Comments
0 Shares
56 Views
0 Reviews