“ผลโหวต TechPowerUp เผย! ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่จ่ายเงินซื้อแอนตี้ไวรัส – Windows Defender ครองใจคนไอที”
TechPowerUp จัดโพลสำรวจผู้ใช้กว่า 34,000 คนเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัส และผลที่ออกมาก็ชวนให้หลายคนต้องคิดใหม่ เพราะ “เกือบไม่มีใครจ่ายเงินซื้อแอนตี้ไวรัสอีกแล้ว” โดย 60.5% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกใช้ Windows Defender ซึ่งเป็นโปรแกรมฟรีที่ติดมากับ Windows อยู่แล้ว
นอกจากนี้ยังมี 15.7% ที่บอกว่า “ไม่ได้ใช้แอนตี้ไวรัสเลย” ซึ่งจริง ๆ แล้ว Windows Defender ก็ยังทำงานอยู่ในเบื้องหลัง แม้ผู้ใช้จะไม่รู้ตัวก็ตาม ส่วนผู้ที่ยังใช้โปรแกรมจากค่ายอื่น ๆ มีเพียง 24% เท่านั้น โดยแบ่งเป็น Bitdefender 6.1%, Avast 2.9%, AVG 1%, Norton 1.9% และ McAfee 0.7%
เหตุผลหลักที่คนหันหลังให้กับแอนตี้ไวรัสแบบเสียเงินคือ Windows เองได้พัฒนาเครื่องมือรักษาความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง เช่น Secure Boot, BitLocker, TPM, และ Virtualization-based Security ที่ทำให้ระบบปลอดภัยขึ้นมากโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเสริม
อีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้บางคนยังคงใช้โปรแกรมอย่าง Malwarebytes หรือ firewall แบบแยกต่างหากเพื่อเสริมความปลอดภัยเฉพาะทาง เช่น การบล็อก Windows Update หรือการควบคุมการเชื่อมต่อของแอปพลิเคชัน
ผลสำรวจจาก TechPowerUp
ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 34,316 คน
60.5% ใช้ Windows Defender เป็นหลัก
15.7% ระบุว่าไม่ได้ใช้แอนตี้ไวรัสเลย
24% ใช้โปรแกรมจากค่ายอื่น เช่น Bitdefender, Avast, AVG, Norton, McAfee
Bitdefender ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่ม third-party ที่ 6.1%
เหตุผลที่ Windows Defender ได้รับความนิยม
เป็นโปรแกรมฟรีที่ติดมากับ Windows
มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น Secure Boot, BitLocker, TPM, VBS
ลดความจำเป็นในการติดตั้งโปรแกรมเสริม
ไม่กินทรัพยากรเครื่องเท่ากับบางโปรแกรมแบบเสียเงิน
ทางเลือกเสริมของผู้ใช้บางกลุ่ม
ใช้ Malwarebytes สำหรับตรวจจับมัลแวร์เฉพาะทาง
ใช้ firewall แยกต่างหากเพื่อควบคุมการเชื่อมต่อ
บางคนยังใช้โปรแกรมแบบ lifetime license ที่เคยซื้อไว้
https://www.techpowerup.com/342112/almost-nobody-uses-paid-third-party-antivirus-techpowerup-frontpage-poll
TechPowerUp จัดโพลสำรวจผู้ใช้กว่า 34,000 คนเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัส และผลที่ออกมาก็ชวนให้หลายคนต้องคิดใหม่ เพราะ “เกือบไม่มีใครจ่ายเงินซื้อแอนตี้ไวรัสอีกแล้ว” โดย 60.5% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกใช้ Windows Defender ซึ่งเป็นโปรแกรมฟรีที่ติดมากับ Windows อยู่แล้ว
นอกจากนี้ยังมี 15.7% ที่บอกว่า “ไม่ได้ใช้แอนตี้ไวรัสเลย” ซึ่งจริง ๆ แล้ว Windows Defender ก็ยังทำงานอยู่ในเบื้องหลัง แม้ผู้ใช้จะไม่รู้ตัวก็ตาม ส่วนผู้ที่ยังใช้โปรแกรมจากค่ายอื่น ๆ มีเพียง 24% เท่านั้น โดยแบ่งเป็น Bitdefender 6.1%, Avast 2.9%, AVG 1%, Norton 1.9% และ McAfee 0.7%
เหตุผลหลักที่คนหันหลังให้กับแอนตี้ไวรัสแบบเสียเงินคือ Windows เองได้พัฒนาเครื่องมือรักษาความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง เช่น Secure Boot, BitLocker, TPM, และ Virtualization-based Security ที่ทำให้ระบบปลอดภัยขึ้นมากโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเสริม
อีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้บางคนยังคงใช้โปรแกรมอย่าง Malwarebytes หรือ firewall แบบแยกต่างหากเพื่อเสริมความปลอดภัยเฉพาะทาง เช่น การบล็อก Windows Update หรือการควบคุมการเชื่อมต่อของแอปพลิเคชัน
ผลสำรวจจาก TechPowerUp
ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 34,316 คน
60.5% ใช้ Windows Defender เป็นหลัก
15.7% ระบุว่าไม่ได้ใช้แอนตี้ไวรัสเลย
24% ใช้โปรแกรมจากค่ายอื่น เช่น Bitdefender, Avast, AVG, Norton, McAfee
Bitdefender ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่ม third-party ที่ 6.1%
เหตุผลที่ Windows Defender ได้รับความนิยม
เป็นโปรแกรมฟรีที่ติดมากับ Windows
มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น Secure Boot, BitLocker, TPM, VBS
ลดความจำเป็นในการติดตั้งโปรแกรมเสริม
ไม่กินทรัพยากรเครื่องเท่ากับบางโปรแกรมแบบเสียเงิน
ทางเลือกเสริมของผู้ใช้บางกลุ่ม
ใช้ Malwarebytes สำหรับตรวจจับมัลแวร์เฉพาะทาง
ใช้ firewall แยกต่างหากเพื่อควบคุมการเชื่อมต่อ
บางคนยังใช้โปรแกรมแบบ lifetime license ที่เคยซื้อไว้
https://www.techpowerup.com/342112/almost-nobody-uses-paid-third-party-antivirus-techpowerup-frontpage-poll
🛡️ “ผลโหวต TechPowerUp เผย! ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่จ่ายเงินซื้อแอนตี้ไวรัส – Windows Defender ครองใจคนไอที”
TechPowerUp จัดโพลสำรวจผู้ใช้กว่า 34,000 คนเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัส และผลที่ออกมาก็ชวนให้หลายคนต้องคิดใหม่ เพราะ “เกือบไม่มีใครจ่ายเงินซื้อแอนตี้ไวรัสอีกแล้ว” โดย 60.5% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกใช้ Windows Defender ซึ่งเป็นโปรแกรมฟรีที่ติดมากับ Windows อยู่แล้ว
นอกจากนี้ยังมี 15.7% ที่บอกว่า “ไม่ได้ใช้แอนตี้ไวรัสเลย” ซึ่งจริง ๆ แล้ว Windows Defender ก็ยังทำงานอยู่ในเบื้องหลัง แม้ผู้ใช้จะไม่รู้ตัวก็ตาม ส่วนผู้ที่ยังใช้โปรแกรมจากค่ายอื่น ๆ มีเพียง 24% เท่านั้น โดยแบ่งเป็น Bitdefender 6.1%, Avast 2.9%, AVG 1%, Norton 1.9% และ McAfee 0.7%
เหตุผลหลักที่คนหันหลังให้กับแอนตี้ไวรัสแบบเสียเงินคือ Windows เองได้พัฒนาเครื่องมือรักษาความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง เช่น Secure Boot, BitLocker, TPM, และ Virtualization-based Security ที่ทำให้ระบบปลอดภัยขึ้นมากโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเสริม
อีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้บางคนยังคงใช้โปรแกรมอย่าง Malwarebytes หรือ firewall แบบแยกต่างหากเพื่อเสริมความปลอดภัยเฉพาะทาง เช่น การบล็อก Windows Update หรือการควบคุมการเชื่อมต่อของแอปพลิเคชัน
✅ ผลสำรวจจาก TechPowerUp
➡️ ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 34,316 คน
➡️ 60.5% ใช้ Windows Defender เป็นหลัก
➡️ 15.7% ระบุว่าไม่ได้ใช้แอนตี้ไวรัสเลย
➡️ 24% ใช้โปรแกรมจากค่ายอื่น เช่น Bitdefender, Avast, AVG, Norton, McAfee
➡️ Bitdefender ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่ม third-party ที่ 6.1%
✅ เหตุผลที่ Windows Defender ได้รับความนิยม
➡️ เป็นโปรแกรมฟรีที่ติดมากับ Windows
➡️ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น Secure Boot, BitLocker, TPM, VBS
➡️ ลดความจำเป็นในการติดตั้งโปรแกรมเสริม
➡️ ไม่กินทรัพยากรเครื่องเท่ากับบางโปรแกรมแบบเสียเงิน
✅ ทางเลือกเสริมของผู้ใช้บางกลุ่ม
➡️ ใช้ Malwarebytes สำหรับตรวจจับมัลแวร์เฉพาะทาง
➡️ ใช้ firewall แยกต่างหากเพื่อควบคุมการเชื่อมต่อ
➡️ บางคนยังใช้โปรแกรมแบบ lifetime license ที่เคยซื้อไว้
https://www.techpowerup.com/342112/almost-nobody-uses-paid-third-party-antivirus-techpowerup-frontpage-poll
0 Comments
0 Shares
12 Views
0 Reviews