นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผยถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบันทึกความเข้าใจ(MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ฉบับปี 2543 และ ฉบับปี 2544 ได้ฝากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ต้องระมัดระวัง รัฐบาลต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น อย่าตั้งรับอย่างเดียว เพราะกัมพูชาใช้ทุกเวทีระหว่างประเทศ
รมว.ต่างประเทศ ต้องไปแก้ไข การรุกจะทำให้กองทัพทำงานง่ายขึ้น สถานะของประเทศไทยในสายตาประชาคมโลก เรามีบทบาทได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนที่รัฐบาลพิจารณาทำประชามติยกเลิกเอ็มโอยู มีข้อกังวลมาก เป็นเรื่องไม่ง่ายในการทำความเข้าใจกับประชาชน การให้ข้อมูลต่อประชาชนเพื่อตัดสินใจ จะทำให้กัมพูชารู้ข้อมูล ซึ่งจะเป็นปัญหาและอุปสรรค รัฐบาลต้องบอกประชาชนให้ชัดเจนว่า ถ้ายกเลิกเอ็มโอยูโดยการตัดสินของประชาชน ไทยจะเดินไปแบบไหน ยุทธศาสตร์กรณีไม่มีเอ็มโอยูคืออะไร ซึ่งจะทำให้ประชาชนตัดสินใจได้ว่าควรเดินในรูปแบบใด หรือจะใช้ข้อตกลง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผยถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบันทึกความเข้าใจ(MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ฉบับปี 2543 และ ฉบับปี 2544 ได้ฝากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ต้องระมัดระวัง รัฐบาลต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น อย่าตั้งรับอย่างเดียว เพราะกัมพูชาใช้ทุกเวทีระหว่างประเทศ รมว.ต่างประเทศ ต้องไปแก้ไข การรุกจะทำให้กองทัพทำงานง่ายขึ้น สถานะของประเทศไทยในสายตาประชาคมโลก เรามีบทบาทได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนที่รัฐบาลพิจารณาทำประชามติยกเลิกเอ็มโอยู มีข้อกังวลมาก เป็นเรื่องไม่ง่ายในการทำความเข้าใจกับประชาชน การให้ข้อมูลต่อประชาชนเพื่อตัดสินใจ จะทำให้กัมพูชารู้ข้อมูล ซึ่งจะเป็นปัญหาและอุปสรรค รัฐบาลต้องบอกประชาชนให้ชัดเจนว่า ถ้ายกเลิกเอ็มโอยูโดยการตัดสินของประชาชน ไทยจะเดินไปแบบไหน ยุทธศาสตร์กรณีไม่มีเอ็มโอยูคืออะไร ซึ่งจะทำให้ประชาชนตัดสินใจได้ว่าควรเดินในรูปแบบใด หรือจะใช้ข้อตกลง
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 0 รีวิว