“วิธีเอาน้ำออกจากช่องชาร์จมือถือ — ทำผิดวิธีอาจพังหนักกว่าเดิม” — เมื่อการใช้ไดร์เป่าผมหรือข้าวสารไม่ใช่คำตอบ และการอบแห้งคือทางรอดที่แท้จริง
บทความจาก SlashGear แนะนำวิธีจัดการเมื่อน้ำเข้าไปในช่องชาร์จมือถือ ซึ่งอาจเกิดจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ เช่นทำตกน้ำ หรือโดนเครื่องดื่มหกใส่ แม้จะดูน่ากังวล แต่หากจัดการอย่างถูกวิธี ก็สามารถช่วยให้มือถือกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
สิ่งแรกที่ควรทำคือ “ปิดเครื่องทันที” และถอดอุปกรณ์เสริมทั้งหมด จากนั้นใช้ผ้าแห้งที่ไม่มีขุยเช็ดบริเวณช่องชาร์จอย่างระมัดระวัง ห้ามใช้ไดร์เป่าผมหรือจุ่มลงในข้าวสาร เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น
วิธีที่แนะนำคือ:
เขย่าเครื่องเบา ๆ หรือเคาะกับฝ่ามือเพื่อให้น้ำออก
วางไว้ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทดี หรือใช้พัดลมเป่าช่วย
ใส่ในถุงซิปล็อกพร้อมซองซิลิกาเจลเพื่อดูดความชื้น
หากช่องชาร์จแห้งแล้วแต่ยังชาร์จไม่ได้:
ลองเปลี่ยนสายชาร์จ เพราะสายที่เปียกอาจทำให้ระบบตรวจจับความชื้นยังทำงานอยู่
สำหรับ Samsung: เข้า Settings > Apps > Show system apps > USB Settings > Clear cache
สำหรับ Android รุ่นอื่น: ลองหาการตั้งค่า USB ใน System Apps
สำหรับ iPhone: ไม่มีตัวเลือก USB Settings ให้เคลียร์ cache — ลองรีสตาร์ทเครื่องแทน
หากยังไม่สามารถชาร์จได้ อาจเกิดจากความเสียหายภายในหรือการกัดกร่อนของวงจร ควรนำเครื่องไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ หรือใช้การชาร์จแบบไร้สายชั่วคราวหากรองรับ
https://www.slashgear.com/1999314/how-to-remove-water-from-phone-charging-port/
บทความจาก SlashGear แนะนำวิธีจัดการเมื่อน้ำเข้าไปในช่องชาร์จมือถือ ซึ่งอาจเกิดจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ เช่นทำตกน้ำ หรือโดนเครื่องดื่มหกใส่ แม้จะดูน่ากังวล แต่หากจัดการอย่างถูกวิธี ก็สามารถช่วยให้มือถือกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
สิ่งแรกที่ควรทำคือ “ปิดเครื่องทันที” และถอดอุปกรณ์เสริมทั้งหมด จากนั้นใช้ผ้าแห้งที่ไม่มีขุยเช็ดบริเวณช่องชาร์จอย่างระมัดระวัง ห้ามใช้ไดร์เป่าผมหรือจุ่มลงในข้าวสาร เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น
วิธีที่แนะนำคือ:
เขย่าเครื่องเบา ๆ หรือเคาะกับฝ่ามือเพื่อให้น้ำออก
วางไว้ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทดี หรือใช้พัดลมเป่าช่วย
ใส่ในถุงซิปล็อกพร้อมซองซิลิกาเจลเพื่อดูดความชื้น
หากช่องชาร์จแห้งแล้วแต่ยังชาร์จไม่ได้:
ลองเปลี่ยนสายชาร์จ เพราะสายที่เปียกอาจทำให้ระบบตรวจจับความชื้นยังทำงานอยู่
สำหรับ Samsung: เข้า Settings > Apps > Show system apps > USB Settings > Clear cache
สำหรับ Android รุ่นอื่น: ลองหาการตั้งค่า USB ใน System Apps
สำหรับ iPhone: ไม่มีตัวเลือก USB Settings ให้เคลียร์ cache — ลองรีสตาร์ทเครื่องแทน
หากยังไม่สามารถชาร์จได้ อาจเกิดจากความเสียหายภายในหรือการกัดกร่อนของวงจร ควรนำเครื่องไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ หรือใช้การชาร์จแบบไร้สายชั่วคราวหากรองรับ
https://www.slashgear.com/1999314/how-to-remove-water-from-phone-charging-port/
💧 “วิธีเอาน้ำออกจากช่องชาร์จมือถือ — ทำผิดวิธีอาจพังหนักกว่าเดิม” — เมื่อการใช้ไดร์เป่าผมหรือข้าวสารไม่ใช่คำตอบ และการอบแห้งคือทางรอดที่แท้จริง
บทความจาก SlashGear แนะนำวิธีจัดการเมื่อน้ำเข้าไปในช่องชาร์จมือถือ ซึ่งอาจเกิดจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ เช่นทำตกน้ำ หรือโดนเครื่องดื่มหกใส่ แม้จะดูน่ากังวล แต่หากจัดการอย่างถูกวิธี ก็สามารถช่วยให้มือถือกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
สิ่งแรกที่ควรทำคือ “ปิดเครื่องทันที” และถอดอุปกรณ์เสริมทั้งหมด จากนั้นใช้ผ้าแห้งที่ไม่มีขุยเช็ดบริเวณช่องชาร์จอย่างระมัดระวัง ห้ามใช้ไดร์เป่าผมหรือจุ่มลงในข้าวสาร เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น
วิธีที่แนะนำคือ:
💧 เขย่าเครื่องเบา ๆ หรือเคาะกับฝ่ามือเพื่อให้น้ำออก
💧 วางไว้ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทดี หรือใช้พัดลมเป่าช่วย
💧 ใส่ในถุงซิปล็อกพร้อมซองซิลิกาเจลเพื่อดูดความชื้น
หากช่องชาร์จแห้งแล้วแต่ยังชาร์จไม่ได้:
⚡ ลองเปลี่ยนสายชาร์จ เพราะสายที่เปียกอาจทำให้ระบบตรวจจับความชื้นยังทำงานอยู่
⚡ สำหรับ Samsung: เข้า Settings > Apps > Show system apps > USB Settings > Clear cache
⚡ สำหรับ Android รุ่นอื่น: ลองหาการตั้งค่า USB ใน System Apps
⚡ สำหรับ iPhone: ไม่มีตัวเลือก USB Settings ให้เคลียร์ cache — ลองรีสตาร์ทเครื่องแทน
หากยังไม่สามารถชาร์จได้ อาจเกิดจากความเสียหายภายในหรือการกัดกร่อนของวงจร ควรนำเครื่องไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ หรือใช้การชาร์จแบบไร้สายชั่วคราวหากรองรับ
https://www.slashgear.com/1999314/how-to-remove-water-from-phone-charging-port/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
64 มุมมอง
0 รีวิว