แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 12
นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
ตอนที่ 12
ปัจจัยสุดท้าย ที่จะตามประเมินกันคือ เรื่องกองกำลัง ซึ่งมีทั้งในระบบและนอกระบบ
สำหรับกองกำลังในระบบ เป็นเรื่องที่ประเมินยาก เนื่องจากความแตกต่างทางข้อมูลของของแต่ละแหล่งที่มา ซึ่งแน่นอน มีทั้งการซ่อนตัวเลขไม่ให้อีกฝ่ายรู้ความจริง หรือแต่งให้ดูดีกว่าเป็นจริง จึงเป็นเรื่องที่ยากจะยืนยัน ตัวเลขที่จะนำมาแสดงต่อไปนี้ ผมได้มาจากหลายแหล่ง มีทั้งเวบด้านทหาร และข้อมูลที่มีผู้รู้ทางด้านนี้ส่งมาให้ ผมใช้ตัวเลขที่ประเมินจากทุกแหล่งข้อมูลที่ได้ มาเปรียบเทียบ และ ประมาณความเป็นไปได้นะครับ
ฝ่ายอเมริกา 5 อันดับแรก
– อเมริกา มีประมาณ 2.2 ล้านนาย
– เกาหลีใต้ มีประมาณ 1 ล้านนาย
– อังกฤษ มีประมาณ 4 แสนนาย
– ฝรั่งเศษ มีประมาณ 4 แสนนาย
– ออสเตรเลีย มีประมาณ 3.5 แสนนาย
– ที่เหลือรวมๆกันของพันธมิตร มีประมาณ 2 ล้านนาย
รวมทั้งหมดประมาณ 7 ล้านนาย
ส่วนกองกำลังในระบบ ของฝ่ายรัสเซีย 5 อันดับแรก
– จีน มีประมาณ 4.3 ล้านนาย
– รัสเซีย มีประมาณ 3.2 ล้านนาย
– อินเดีย มีประมาณ 3.4 ล้านนาย
– เกาหลีเหนือ มีประมาณ 2 ล้านนาย
– อิหร่าน มีประมาณ 3 ล้านนาย
– ที่เหลือรวมๆกันของพันธมิตร มีประมาณ 2 ล้านนาย
รวมทั้งหมดประมาณ 18 ล้านนาย
สรุป กองกำลังในระบบ หรือประจำกองทัพ ระหว่างฝ่ายอเมริกากับฝ่ายรัสเซีย อัตราส่วนประมาณ 1: 2.5 ฝ่ายรัสเซียมีมากกว่าฝ่ายอเมริกากว่าเท่าครึ่ง
คงพอเห็นแล้วว่า มีจำนวนพันธมิตรมาก ก็เรื่องหนึ่ง แต่เวลาทำสงคราม จำนวนนักรบ อาจสำคัญกว่าเพื่อนที่เป็นภาระรุงรังนะครับ
เกี่ยวกับเรื่องกองกำลังนั้น อเมริกาเลิกระบบทหารเกณฑ์ไปแล้ว มีแต่ทหารสมัคร ขณะที่รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และ อิหร่าน ยังมีระบบทหารเกณฑ์ตามกฏหมายอยู่ ซึ่งจะทำให้ทั้ง 4 ประเทศ สามารถเรียกทหารสำรอง และทหารเกณฑ์ได้อีกหลายสิบล้านนาย
ยังมีตัวแปรที่มีกองกำลังขนาดใหญ่ ที่ผมไม่ได้ใส่ไป 2 ประเทศ คือ บราซิล และตุรกี บราซิล นั้น อยู่ระหว่างจะเป็นกลาง หรือเข้ากับฝ่ายรัสเซีย มีกองกำลังประมาณ 4 แสนคน ส่วนตุรกีนั้น ด้วยความเป็นนก 2 หัว ชอบเล่นเกมเสียว ตุรกียังเล่นเสียวต่อ ไม่ตัดสินใจ มีกองกำลังประมาณ 6 แสนคน
สำหรับไทยแลนด์ แดนสมันน้อยนั้น ผมไม่ได้เอามาใส่อยู่ฝ่ายใดเลย เพราะไม่สามารถคาดเดาความลึกซึ้งยาวไกลในวิสัยทัศน์ของท่านผู้นำได้ ไม่แตะดีกว่าครับ ได้แต่แอบหวังว่า พระสยามเทวาธิราชท่านคงดลใจให้ไปถูกทาง เพื่อให้สมันน้อยรอดพ้นจากอันตราย
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
5 ธค. 2557
นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
ตอนที่ 12
ปัจจัยสุดท้าย ที่จะตามประเมินกันคือ เรื่องกองกำลัง ซึ่งมีทั้งในระบบและนอกระบบ
สำหรับกองกำลังในระบบ เป็นเรื่องที่ประเมินยาก เนื่องจากความแตกต่างทางข้อมูลของของแต่ละแหล่งที่มา ซึ่งแน่นอน มีทั้งการซ่อนตัวเลขไม่ให้อีกฝ่ายรู้ความจริง หรือแต่งให้ดูดีกว่าเป็นจริง จึงเป็นเรื่องที่ยากจะยืนยัน ตัวเลขที่จะนำมาแสดงต่อไปนี้ ผมได้มาจากหลายแหล่ง มีทั้งเวบด้านทหาร และข้อมูลที่มีผู้รู้ทางด้านนี้ส่งมาให้ ผมใช้ตัวเลขที่ประเมินจากทุกแหล่งข้อมูลที่ได้ มาเปรียบเทียบ และ ประมาณความเป็นไปได้นะครับ
ฝ่ายอเมริกา 5 อันดับแรก
– อเมริกา มีประมาณ 2.2 ล้านนาย
– เกาหลีใต้ มีประมาณ 1 ล้านนาย
– อังกฤษ มีประมาณ 4 แสนนาย
– ฝรั่งเศษ มีประมาณ 4 แสนนาย
– ออสเตรเลีย มีประมาณ 3.5 แสนนาย
– ที่เหลือรวมๆกันของพันธมิตร มีประมาณ 2 ล้านนาย
รวมทั้งหมดประมาณ 7 ล้านนาย
ส่วนกองกำลังในระบบ ของฝ่ายรัสเซีย 5 อันดับแรก
– จีน มีประมาณ 4.3 ล้านนาย
– รัสเซีย มีประมาณ 3.2 ล้านนาย
– อินเดีย มีประมาณ 3.4 ล้านนาย
– เกาหลีเหนือ มีประมาณ 2 ล้านนาย
– อิหร่าน มีประมาณ 3 ล้านนาย
– ที่เหลือรวมๆกันของพันธมิตร มีประมาณ 2 ล้านนาย
รวมทั้งหมดประมาณ 18 ล้านนาย
สรุป กองกำลังในระบบ หรือประจำกองทัพ ระหว่างฝ่ายอเมริกากับฝ่ายรัสเซีย อัตราส่วนประมาณ 1: 2.5 ฝ่ายรัสเซียมีมากกว่าฝ่ายอเมริกากว่าเท่าครึ่ง
คงพอเห็นแล้วว่า มีจำนวนพันธมิตรมาก ก็เรื่องหนึ่ง แต่เวลาทำสงคราม จำนวนนักรบ อาจสำคัญกว่าเพื่อนที่เป็นภาระรุงรังนะครับ
เกี่ยวกับเรื่องกองกำลังนั้น อเมริกาเลิกระบบทหารเกณฑ์ไปแล้ว มีแต่ทหารสมัคร ขณะที่รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และ อิหร่าน ยังมีระบบทหารเกณฑ์ตามกฏหมายอยู่ ซึ่งจะทำให้ทั้ง 4 ประเทศ สามารถเรียกทหารสำรอง และทหารเกณฑ์ได้อีกหลายสิบล้านนาย
ยังมีตัวแปรที่มีกองกำลังขนาดใหญ่ ที่ผมไม่ได้ใส่ไป 2 ประเทศ คือ บราซิล และตุรกี บราซิล นั้น อยู่ระหว่างจะเป็นกลาง หรือเข้ากับฝ่ายรัสเซีย มีกองกำลังประมาณ 4 แสนคน ส่วนตุรกีนั้น ด้วยความเป็นนก 2 หัว ชอบเล่นเกมเสียว ตุรกียังเล่นเสียวต่อ ไม่ตัดสินใจ มีกองกำลังประมาณ 6 แสนคน
สำหรับไทยแลนด์ แดนสมันน้อยนั้น ผมไม่ได้เอามาใส่อยู่ฝ่ายใดเลย เพราะไม่สามารถคาดเดาความลึกซึ้งยาวไกลในวิสัยทัศน์ของท่านผู้นำได้ ไม่แตะดีกว่าครับ ได้แต่แอบหวังว่า พระสยามเทวาธิราชท่านคงดลใจให้ไปถูกทาง เพื่อให้สมันน้อยรอดพ้นจากอันตราย
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
5 ธค. 2557
แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 12
นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
ตอนที่ 12
ปัจจัยสุดท้าย ที่จะตามประเมินกันคือ เรื่องกองกำลัง ซึ่งมีทั้งในระบบและนอกระบบ
สำหรับกองกำลังในระบบ เป็นเรื่องที่ประเมินยาก เนื่องจากความแตกต่างทางข้อมูลของของแต่ละแหล่งที่มา ซึ่งแน่นอน มีทั้งการซ่อนตัวเลขไม่ให้อีกฝ่ายรู้ความจริง หรือแต่งให้ดูดีกว่าเป็นจริง จึงเป็นเรื่องที่ยากจะยืนยัน ตัวเลขที่จะนำมาแสดงต่อไปนี้ ผมได้มาจากหลายแหล่ง มีทั้งเวบด้านทหาร และข้อมูลที่มีผู้รู้ทางด้านนี้ส่งมาให้ ผมใช้ตัวเลขที่ประเมินจากทุกแหล่งข้อมูลที่ได้ มาเปรียบเทียบ และ ประมาณความเป็นไปได้นะครับ
ฝ่ายอเมริกา 5 อันดับแรก
– อเมริกา มีประมาณ 2.2 ล้านนาย
– เกาหลีใต้ มีประมาณ 1 ล้านนาย
– อังกฤษ มีประมาณ 4 แสนนาย
– ฝรั่งเศษ มีประมาณ 4 แสนนาย
– ออสเตรเลีย มีประมาณ 3.5 แสนนาย
– ที่เหลือรวมๆกันของพันธมิตร มีประมาณ 2 ล้านนาย
รวมทั้งหมดประมาณ 7 ล้านนาย
ส่วนกองกำลังในระบบ ของฝ่ายรัสเซีย 5 อันดับแรก
– จีน มีประมาณ 4.3 ล้านนาย
– รัสเซีย มีประมาณ 3.2 ล้านนาย
– อินเดีย มีประมาณ 3.4 ล้านนาย
– เกาหลีเหนือ มีประมาณ 2 ล้านนาย
– อิหร่าน มีประมาณ 3 ล้านนาย
– ที่เหลือรวมๆกันของพันธมิตร มีประมาณ 2 ล้านนาย
รวมทั้งหมดประมาณ 18 ล้านนาย
สรุป กองกำลังในระบบ หรือประจำกองทัพ ระหว่างฝ่ายอเมริกากับฝ่ายรัสเซีย อัตราส่วนประมาณ 1: 2.5 ฝ่ายรัสเซียมีมากกว่าฝ่ายอเมริกากว่าเท่าครึ่ง
คงพอเห็นแล้วว่า มีจำนวนพันธมิตรมาก ก็เรื่องหนึ่ง แต่เวลาทำสงคราม จำนวนนักรบ อาจสำคัญกว่าเพื่อนที่เป็นภาระรุงรังนะครับ
เกี่ยวกับเรื่องกองกำลังนั้น อเมริกาเลิกระบบทหารเกณฑ์ไปแล้ว มีแต่ทหารสมัคร ขณะที่รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และ อิหร่าน ยังมีระบบทหารเกณฑ์ตามกฏหมายอยู่ ซึ่งจะทำให้ทั้ง 4 ประเทศ สามารถเรียกทหารสำรอง และทหารเกณฑ์ได้อีกหลายสิบล้านนาย
ยังมีตัวแปรที่มีกองกำลังขนาดใหญ่ ที่ผมไม่ได้ใส่ไป 2 ประเทศ คือ บราซิล และตุรกี บราซิล นั้น อยู่ระหว่างจะเป็นกลาง หรือเข้ากับฝ่ายรัสเซีย มีกองกำลังประมาณ 4 แสนคน ส่วนตุรกีนั้น ด้วยความเป็นนก 2 หัว ชอบเล่นเกมเสียว ตุรกียังเล่นเสียวต่อ ไม่ตัดสินใจ มีกองกำลังประมาณ 6 แสนคน
สำหรับไทยแลนด์ แดนสมันน้อยนั้น ผมไม่ได้เอามาใส่อยู่ฝ่ายใดเลย เพราะไม่สามารถคาดเดาความลึกซึ้งยาวไกลในวิสัยทัศน์ของท่านผู้นำได้ ไม่แตะดีกว่าครับ ได้แต่แอบหวังว่า พระสยามเทวาธิราชท่านคงดลใจให้ไปถูกทาง เพื่อให้สมันน้อยรอดพ้นจากอันตราย
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
5 ธค. 2557
0 Comments
0 Shares
46 Views
0 Reviews