“openSUSE Leap 16 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ — ปรับโฉมใหม่หมด พร้อมซัพพอร์ตฟรี 24 เดือน และระบบติดตั้งแบบเว็บ”
หลังจากการพัฒนาอย่างเข้มข้นและการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ openSUSE Leap 16 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งในระดับสถาปัตยกรรม ระบบติดตั้ง และแนวทางการสนับสนุนที่ยาวนานถึง 24 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นการยกระดับครั้งสำคัญของดิสโทรสายเสถียรที่ได้รับความนิยมในองค์กรและผู้ใช้ทั่วไป
Leap 16 ถูกสร้างขึ้นบนฐานของ SUSE Linux Enterprise 16 (SLES) และแพลตฟอร์มใหม่ SUSE Linux Framework One (SLFO) ซึ่งเคยรู้จักกันในชื่อ ALP ทำให้ Leap 16 ใช้ซอร์สโค้ดและไบนารีเดียวกันกับ SLES และสามารถย้ายไปใช้เวอร์ชันเชิงพาณิชย์ได้อย่างราบรื่น
หนึ่งในไฮไลต์ของเวอร์ชันนี้คือการเปลี่ยนระบบติดตั้งจาก YaST ที่ใช้มานานกว่า 30 ปี ไปเป็น Agama ซึ่งเป็นระบบติดตั้งแบบเว็บที่สามารถเข้าถึงจากอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ช่วยให้การติดตั้งสะดวกและทันสมัยมากขึ้น
Leap 16 ยังเปลี่ยนมาใช้ Wayland เป็นระบบแสดงผลหลักแทน X11 โดยมีเดสก์ท็อปให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ GNOME 48, KDE Plasma 6.4 และ Xfce 4.20 (แบบทดลอง) พร้อมรองรับ XWayland สำหรับแอปเก่า
ด้านความปลอดภัย Leap 16 เปลี่ยนมาใช้ SELinux เป็นโมดูลหลักแทน AppArmor เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ SLES และเพิ่มการควบคุมสิทธิ์แบบบังคับที่แข็งแกร่งขึ้น
Leap 16 ยังรองรับเฉพาะระบบ 64-bit โดยต้องใช้ CPU ที่รองรับ x86-64-v2 (ตั้งแต่ปี 2008 ขึ้นไป) และปิดการรองรับ 32-bit โดยค่าเริ่มต้น แต่สามารถเปิดใช้งานได้ด้วย grub2-compat-ia32 และพารามิเตอร์ ia32_emulation=1 สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นเกมผ่าน Steam
การปรับปรุงอื่น ๆ ได้แก่ การเพิ่ม Cockpit สำหรับจัดการระบบผ่านเว็บ, การเปลี่ยน GUI สำหรับจัดการแพ็กเกจจาก YaST ไปเป็น Myrlyn, การเพิ่ม parallel downloads ใน Zypper และการรวม repository ระหว่าง community กับ enterprise ให้เป็น repo-oss เดียว
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
openSUSE Leap 16 เปิดตัวพร้อมซัพพอร์ตฟรี 24 เดือน
สร้างบนฐาน SUSE Linux Enterprise 16 และ SUSE Linux Framework One
ใช้ซอร์สโค้ดและไบนารีเดียวกันกับ SLES สามารถย้ายไปใช้เชิงพาณิชย์ได้
เปลี่ยนระบบติดตั้งจาก YaST ไปเป็น Agama แบบเว็บ
รองรับการติดตั้งจากอุปกรณ์อื่นในเครือข่าย
ใช้ Wayland เป็นระบบแสดงผลหลัก พร้อม GNOME 48, KDE Plasma 6.4 และ Xfce 4.20
รองรับ XWayland สำหรับแอปที่ยังใช้ X11
เปลี่ยนมาใช้ SELinux เป็นโมดูลความปลอดภัยหลัก
รองรับเฉพาะ CPU ที่มี x86-64-v2 (ปี 2008 ขึ้นไป)
ปิดการรองรับ 32-bit โดยค่าเริ่มต้น แต่สามารถเปิดใช้งานได้
เพิ่ม Cockpit สำหรับจัดการระบบผ่านเว็บ
เปลี่ยน GUI จัดการแพ็กเกจเป็น Myrlyn
เพิ่ม parallel downloads ใน Zypper
รวม repository เป็น repo-oss เดียว
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Agama เป็นระบบติดตั้งที่สามารถควบคุมผ่านเว็บและมี CLI สำหรับผู้ดูแลระบบ
Wayland ให้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยดีกว่า X11 โดยเฉพาะในระบบสมัยใหม่
SELinux เป็นระบบควบคุมสิทธิ์แบบ MAC ที่ใช้ใน Red Hat และระบบองค์กรหลายแห่ง
การรวม repository ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการแพ็กเกจ
Leap 16 เป็นดิสโทรแรกที่ประกาศรองรับ Y2038 โดยไม่มีปัญหา timestamp overflow
https://news.itsfoss.com/opensuse-leap-16-release/
หลังจากการพัฒนาอย่างเข้มข้นและการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ openSUSE Leap 16 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งในระดับสถาปัตยกรรม ระบบติดตั้ง และแนวทางการสนับสนุนที่ยาวนานถึง 24 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นการยกระดับครั้งสำคัญของดิสโทรสายเสถียรที่ได้รับความนิยมในองค์กรและผู้ใช้ทั่วไป
Leap 16 ถูกสร้างขึ้นบนฐานของ SUSE Linux Enterprise 16 (SLES) และแพลตฟอร์มใหม่ SUSE Linux Framework One (SLFO) ซึ่งเคยรู้จักกันในชื่อ ALP ทำให้ Leap 16 ใช้ซอร์สโค้ดและไบนารีเดียวกันกับ SLES และสามารถย้ายไปใช้เวอร์ชันเชิงพาณิชย์ได้อย่างราบรื่น
หนึ่งในไฮไลต์ของเวอร์ชันนี้คือการเปลี่ยนระบบติดตั้งจาก YaST ที่ใช้มานานกว่า 30 ปี ไปเป็น Agama ซึ่งเป็นระบบติดตั้งแบบเว็บที่สามารถเข้าถึงจากอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ช่วยให้การติดตั้งสะดวกและทันสมัยมากขึ้น
Leap 16 ยังเปลี่ยนมาใช้ Wayland เป็นระบบแสดงผลหลักแทน X11 โดยมีเดสก์ท็อปให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ GNOME 48, KDE Plasma 6.4 และ Xfce 4.20 (แบบทดลอง) พร้อมรองรับ XWayland สำหรับแอปเก่า
ด้านความปลอดภัย Leap 16 เปลี่ยนมาใช้ SELinux เป็นโมดูลหลักแทน AppArmor เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ SLES และเพิ่มการควบคุมสิทธิ์แบบบังคับที่แข็งแกร่งขึ้น
Leap 16 ยังรองรับเฉพาะระบบ 64-bit โดยต้องใช้ CPU ที่รองรับ x86-64-v2 (ตั้งแต่ปี 2008 ขึ้นไป) และปิดการรองรับ 32-bit โดยค่าเริ่มต้น แต่สามารถเปิดใช้งานได้ด้วย grub2-compat-ia32 และพารามิเตอร์ ia32_emulation=1 สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นเกมผ่าน Steam
การปรับปรุงอื่น ๆ ได้แก่ การเพิ่ม Cockpit สำหรับจัดการระบบผ่านเว็บ, การเปลี่ยน GUI สำหรับจัดการแพ็กเกจจาก YaST ไปเป็น Myrlyn, การเพิ่ม parallel downloads ใน Zypper และการรวม repository ระหว่าง community กับ enterprise ให้เป็น repo-oss เดียว
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
openSUSE Leap 16 เปิดตัวพร้อมซัพพอร์ตฟรี 24 เดือน
สร้างบนฐาน SUSE Linux Enterprise 16 และ SUSE Linux Framework One
ใช้ซอร์สโค้ดและไบนารีเดียวกันกับ SLES สามารถย้ายไปใช้เชิงพาณิชย์ได้
เปลี่ยนระบบติดตั้งจาก YaST ไปเป็น Agama แบบเว็บ
รองรับการติดตั้งจากอุปกรณ์อื่นในเครือข่าย
ใช้ Wayland เป็นระบบแสดงผลหลัก พร้อม GNOME 48, KDE Plasma 6.4 และ Xfce 4.20
รองรับ XWayland สำหรับแอปที่ยังใช้ X11
เปลี่ยนมาใช้ SELinux เป็นโมดูลความปลอดภัยหลัก
รองรับเฉพาะ CPU ที่มี x86-64-v2 (ปี 2008 ขึ้นไป)
ปิดการรองรับ 32-bit โดยค่าเริ่มต้น แต่สามารถเปิดใช้งานได้
เพิ่ม Cockpit สำหรับจัดการระบบผ่านเว็บ
เปลี่ยน GUI จัดการแพ็กเกจเป็น Myrlyn
เพิ่ม parallel downloads ใน Zypper
รวม repository เป็น repo-oss เดียว
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Agama เป็นระบบติดตั้งที่สามารถควบคุมผ่านเว็บและมี CLI สำหรับผู้ดูแลระบบ
Wayland ให้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยดีกว่า X11 โดยเฉพาะในระบบสมัยใหม่
SELinux เป็นระบบควบคุมสิทธิ์แบบ MAC ที่ใช้ใน Red Hat และระบบองค์กรหลายแห่ง
การรวม repository ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการแพ็กเกจ
Leap 16 เป็นดิสโทรแรกที่ประกาศรองรับ Y2038 โดยไม่มีปัญหา timestamp overflow
https://news.itsfoss.com/opensuse-leap-16-release/
🐧 “openSUSE Leap 16 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ — ปรับโฉมใหม่หมด พร้อมซัพพอร์ตฟรี 24 เดือน และระบบติดตั้งแบบเว็บ”
หลังจากการพัฒนาอย่างเข้มข้นและการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ openSUSE Leap 16 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งในระดับสถาปัตยกรรม ระบบติดตั้ง และแนวทางการสนับสนุนที่ยาวนานถึง 24 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นการยกระดับครั้งสำคัญของดิสโทรสายเสถียรที่ได้รับความนิยมในองค์กรและผู้ใช้ทั่วไป
Leap 16 ถูกสร้างขึ้นบนฐานของ SUSE Linux Enterprise 16 (SLES) และแพลตฟอร์มใหม่ SUSE Linux Framework One (SLFO) ซึ่งเคยรู้จักกันในชื่อ ALP ทำให้ Leap 16 ใช้ซอร์สโค้ดและไบนารีเดียวกันกับ SLES และสามารถย้ายไปใช้เวอร์ชันเชิงพาณิชย์ได้อย่างราบรื่น
หนึ่งในไฮไลต์ของเวอร์ชันนี้คือการเปลี่ยนระบบติดตั้งจาก YaST ที่ใช้มานานกว่า 30 ปี ไปเป็น Agama ซึ่งเป็นระบบติดตั้งแบบเว็บที่สามารถเข้าถึงจากอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ช่วยให้การติดตั้งสะดวกและทันสมัยมากขึ้น
Leap 16 ยังเปลี่ยนมาใช้ Wayland เป็นระบบแสดงผลหลักแทน X11 โดยมีเดสก์ท็อปให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ GNOME 48, KDE Plasma 6.4 และ Xfce 4.20 (แบบทดลอง) พร้อมรองรับ XWayland สำหรับแอปเก่า
ด้านความปลอดภัย Leap 16 เปลี่ยนมาใช้ SELinux เป็นโมดูลหลักแทน AppArmor เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ SLES และเพิ่มการควบคุมสิทธิ์แบบบังคับที่แข็งแกร่งขึ้น
Leap 16 ยังรองรับเฉพาะระบบ 64-bit โดยต้องใช้ CPU ที่รองรับ x86-64-v2 (ตั้งแต่ปี 2008 ขึ้นไป) และปิดการรองรับ 32-bit โดยค่าเริ่มต้น แต่สามารถเปิดใช้งานได้ด้วย grub2-compat-ia32 และพารามิเตอร์ ia32_emulation=1 สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นเกมผ่าน Steam
การปรับปรุงอื่น ๆ ได้แก่ การเพิ่ม Cockpit สำหรับจัดการระบบผ่านเว็บ, การเปลี่ยน GUI สำหรับจัดการแพ็กเกจจาก YaST ไปเป็น Myrlyn, การเพิ่ม parallel downloads ใน Zypper และการรวม repository ระหว่าง community กับ enterprise ให้เป็น repo-oss เดียว
✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว
➡️ openSUSE Leap 16 เปิดตัวพร้อมซัพพอร์ตฟรี 24 เดือน
➡️ สร้างบนฐาน SUSE Linux Enterprise 16 และ SUSE Linux Framework One
➡️ ใช้ซอร์สโค้ดและไบนารีเดียวกันกับ SLES สามารถย้ายไปใช้เชิงพาณิชย์ได้
➡️ เปลี่ยนระบบติดตั้งจาก YaST ไปเป็น Agama แบบเว็บ
➡️ รองรับการติดตั้งจากอุปกรณ์อื่นในเครือข่าย
➡️ ใช้ Wayland เป็นระบบแสดงผลหลัก พร้อม GNOME 48, KDE Plasma 6.4 และ Xfce 4.20
➡️ รองรับ XWayland สำหรับแอปที่ยังใช้ X11
➡️ เปลี่ยนมาใช้ SELinux เป็นโมดูลความปลอดภัยหลัก
➡️ รองรับเฉพาะ CPU ที่มี x86-64-v2 (ปี 2008 ขึ้นไป)
➡️ ปิดการรองรับ 32-bit โดยค่าเริ่มต้น แต่สามารถเปิดใช้งานได้
➡️ เพิ่ม Cockpit สำหรับจัดการระบบผ่านเว็บ
➡️ เปลี่ยน GUI จัดการแพ็กเกจเป็น Myrlyn
➡️ เพิ่ม parallel downloads ใน Zypper
➡️ รวม repository เป็น repo-oss เดียว
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ Agama เป็นระบบติดตั้งที่สามารถควบคุมผ่านเว็บและมี CLI สำหรับผู้ดูแลระบบ
➡️ Wayland ให้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยดีกว่า X11 โดยเฉพาะในระบบสมัยใหม่
➡️ SELinux เป็นระบบควบคุมสิทธิ์แบบ MAC ที่ใช้ใน Red Hat และระบบองค์กรหลายแห่ง
➡️ การรวม repository ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการแพ็กเกจ
➡️ Leap 16 เป็นดิสโทรแรกที่ประกาศรองรับ Y2038 โดยไม่มีปัญหา timestamp overflow
https://news.itsfoss.com/opensuse-leap-16-release/
0 Comments
0 Shares
37 Views
0 Reviews