“Django ออกแพตช์ด่วน! อุดช่องโหว่ SQL Injection ร้ายแรงใน MySQL/MariaDB พร้อมเตือนภัย Directory Traversal”
ทีมพัฒนา Django ได้ออกอัปเดตความปลอดภัยครั้งสำคัญในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 เพื่อแก้ไขช่องโหว่สองรายการที่ส่งผลกระทบต่อระบบฐานข้อมูลและการตั้งค่าโปรเจกต์ โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-59681 ซึ่งถูกจัดอยู่ในระดับ “ร้ายแรง” เนื่องจากเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่ง SQL ผ่านฟังก์ชันยอดนิยมของ Django ORM ได้แก่ annotate(), alias(), aggregate() และ extra() เมื่อใช้งานร่วมกับฐานข้อมูล MySQL หรือ MariaDB
ช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ dictionary expansion (**kwargs) ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างเหมาะสม ทำให้ attacker สามารถส่ง key ที่มีคำสั่ง SQL แฝงเข้าไปเป็น column alias ได้โดยตรง เช่น malicious_alias; DROP TABLE users; -- ซึ่งจะถูกแปลเป็นคำสั่ง SQL และรันทันทีหากระบบไม่มีการป้องกัน
อีกหนึ่งช่องโหว่ CVE-2025-59682 แม้จะมีความรุนแรงต่ำกว่า แต่ก็อันตรายไม่น้อย โดยเกิดจากฟังก์ชัน django.utils.archive.extract() ที่ใช้ในการสร้างโปรเจกต์หรือแอปผ่าน template ซึ่งสามารถถูกใช้เพื่อโจมตีแบบ directory traversal ได้ หากไฟล์ใน archive มี path ที่คล้ายกับโฟลเดอร์เป้าหมาย เช่น ../../config.py อาจทำให้ไฟล์สำคัญถูกเขียนทับได้
Django ได้ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 5.2.7, 5.1.13 และ 4.2.25 รวมถึงสาขา main และ 6.0 alpha โดยแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตทันที และสำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตรวจสอบโค้ดที่ใช้ฟังก์ชันดังกล่าว และหลีกเลี่ยงการใช้ template ที่ไม่ได้รับความไว้วางใจ
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
Django ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-59681 และ CVE-2025-59682
CVE-2025-59681 เป็นช่องโหว่ SQL Injection ในฟังก์ชัน ORM เช่น annotate(), alias(), aggregate(), extra()
ช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ dictionary expansion (**kwargs) ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
ส่งผลเฉพาะกับฐานข้อมูล MySQL และ MariaDB ไม่กระทบ PostgreSQL หรือ SQLite
CVE-2025-59682 เป็นช่องโหว่ directory traversal ในฟังก์ชัน extract() ที่ใช้ใน startapp และ startproject
Django ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 5.2.7, 5.1.13, 4.2.25 และสาขา main/6.0 alpha
แนะนำให้อัปเดตทันที หรือหลีกเลี่ยงการใช้ template ที่ไม่ปลอดภัย
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Django ORM เป็นหนึ่งในจุดแข็งของ framework ที่ช่วยป้องกัน SQL injection ได้ดี แต่ช่องโหว่นี้หลุดจากการตรวจสอบ alias
การใช้ dictionary ที่มี key จาก user input เป็นความเสี่ยงที่พบได้บ่อยในระบบ dynamic query
Directory traversal เป็นเทคนิคที่ใช้ path เช่น ../ เพื่อเข้าถึงไฟล์นอกโฟลเดอร์เป้าหมาย
ช่องโหว่ลักษณะนี้สามารถใช้ร่วมกับ template ที่ฝังมัลแวร์เพื่อโจมตีในขั้นตอน setup
Django มีระบบแจ้งช่องโหว่ผ่านอีเมล security@djangoproject.com เพื่อให้แก้ไขได้รวดเร็ว
https://securityonline.info/django-security-alert-high-severity-sql-injection-flaw-cve-2025-59681-fixed-in-latest-updates/
ทีมพัฒนา Django ได้ออกอัปเดตความปลอดภัยครั้งสำคัญในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 เพื่อแก้ไขช่องโหว่สองรายการที่ส่งผลกระทบต่อระบบฐานข้อมูลและการตั้งค่าโปรเจกต์ โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-59681 ซึ่งถูกจัดอยู่ในระดับ “ร้ายแรง” เนื่องจากเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่ง SQL ผ่านฟังก์ชันยอดนิยมของ Django ORM ได้แก่ annotate(), alias(), aggregate() และ extra() เมื่อใช้งานร่วมกับฐานข้อมูล MySQL หรือ MariaDB
ช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ dictionary expansion (**kwargs) ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างเหมาะสม ทำให้ attacker สามารถส่ง key ที่มีคำสั่ง SQL แฝงเข้าไปเป็น column alias ได้โดยตรง เช่น malicious_alias; DROP TABLE users; -- ซึ่งจะถูกแปลเป็นคำสั่ง SQL และรันทันทีหากระบบไม่มีการป้องกัน
อีกหนึ่งช่องโหว่ CVE-2025-59682 แม้จะมีความรุนแรงต่ำกว่า แต่ก็อันตรายไม่น้อย โดยเกิดจากฟังก์ชัน django.utils.archive.extract() ที่ใช้ในการสร้างโปรเจกต์หรือแอปผ่าน template ซึ่งสามารถถูกใช้เพื่อโจมตีแบบ directory traversal ได้ หากไฟล์ใน archive มี path ที่คล้ายกับโฟลเดอร์เป้าหมาย เช่น ../../config.py อาจทำให้ไฟล์สำคัญถูกเขียนทับได้
Django ได้ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 5.2.7, 5.1.13 และ 4.2.25 รวมถึงสาขา main และ 6.0 alpha โดยแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตทันที และสำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตรวจสอบโค้ดที่ใช้ฟังก์ชันดังกล่าว และหลีกเลี่ยงการใช้ template ที่ไม่ได้รับความไว้วางใจ
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
Django ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-59681 และ CVE-2025-59682
CVE-2025-59681 เป็นช่องโหว่ SQL Injection ในฟังก์ชัน ORM เช่น annotate(), alias(), aggregate(), extra()
ช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ dictionary expansion (**kwargs) ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
ส่งผลเฉพาะกับฐานข้อมูล MySQL และ MariaDB ไม่กระทบ PostgreSQL หรือ SQLite
CVE-2025-59682 เป็นช่องโหว่ directory traversal ในฟังก์ชัน extract() ที่ใช้ใน startapp และ startproject
Django ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 5.2.7, 5.1.13, 4.2.25 และสาขา main/6.0 alpha
แนะนำให้อัปเดตทันที หรือหลีกเลี่ยงการใช้ template ที่ไม่ปลอดภัย
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Django ORM เป็นหนึ่งในจุดแข็งของ framework ที่ช่วยป้องกัน SQL injection ได้ดี แต่ช่องโหว่นี้หลุดจากการตรวจสอบ alias
การใช้ dictionary ที่มี key จาก user input เป็นความเสี่ยงที่พบได้บ่อยในระบบ dynamic query
Directory traversal เป็นเทคนิคที่ใช้ path เช่น ../ เพื่อเข้าถึงไฟล์นอกโฟลเดอร์เป้าหมาย
ช่องโหว่ลักษณะนี้สามารถใช้ร่วมกับ template ที่ฝังมัลแวร์เพื่อโจมตีในขั้นตอน setup
Django มีระบบแจ้งช่องโหว่ผ่านอีเมล security@djangoproject.com เพื่อให้แก้ไขได้รวดเร็ว
https://securityonline.info/django-security-alert-high-severity-sql-injection-flaw-cve-2025-59681-fixed-in-latest-updates/
🛡️ “Django ออกแพตช์ด่วน! อุดช่องโหว่ SQL Injection ร้ายแรงใน MySQL/MariaDB พร้อมเตือนภัย Directory Traversal”
ทีมพัฒนา Django ได้ออกอัปเดตความปลอดภัยครั้งสำคัญในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 เพื่อแก้ไขช่องโหว่สองรายการที่ส่งผลกระทบต่อระบบฐานข้อมูลและการตั้งค่าโปรเจกต์ โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-59681 ซึ่งถูกจัดอยู่ในระดับ “ร้ายแรง” เนื่องจากเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่ง SQL ผ่านฟังก์ชันยอดนิยมของ Django ORM ได้แก่ annotate(), alias(), aggregate() และ extra() เมื่อใช้งานร่วมกับฐานข้อมูล MySQL หรือ MariaDB
ช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ dictionary expansion (**kwargs) ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างเหมาะสม ทำให้ attacker สามารถส่ง key ที่มีคำสั่ง SQL แฝงเข้าไปเป็น column alias ได้โดยตรง เช่น malicious_alias; DROP TABLE users; -- ซึ่งจะถูกแปลเป็นคำสั่ง SQL และรันทันทีหากระบบไม่มีการป้องกัน
อีกหนึ่งช่องโหว่ CVE-2025-59682 แม้จะมีความรุนแรงต่ำกว่า แต่ก็อันตรายไม่น้อย โดยเกิดจากฟังก์ชัน django.utils.archive.extract() ที่ใช้ในการสร้างโปรเจกต์หรือแอปผ่าน template ซึ่งสามารถถูกใช้เพื่อโจมตีแบบ directory traversal ได้ หากไฟล์ใน archive มี path ที่คล้ายกับโฟลเดอร์เป้าหมาย เช่น ../../config.py อาจทำให้ไฟล์สำคัญถูกเขียนทับได้
Django ได้ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 5.2.7, 5.1.13 และ 4.2.25 รวมถึงสาขา main และ 6.0 alpha โดยแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตทันที และสำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตรวจสอบโค้ดที่ใช้ฟังก์ชันดังกล่าว และหลีกเลี่ยงการใช้ template ที่ไม่ได้รับความไว้วางใจ
✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว
➡️ Django ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-59681 และ CVE-2025-59682
➡️ CVE-2025-59681 เป็นช่องโหว่ SQL Injection ในฟังก์ชัน ORM เช่น annotate(), alias(), aggregate(), extra()
➡️ ช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ dictionary expansion (**kwargs) ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
➡️ ส่งผลเฉพาะกับฐานข้อมูล MySQL และ MariaDB ไม่กระทบ PostgreSQL หรือ SQLite
➡️ CVE-2025-59682 เป็นช่องโหว่ directory traversal ในฟังก์ชัน extract() ที่ใช้ใน startapp และ startproject
➡️ Django ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 5.2.7, 5.1.13, 4.2.25 และสาขา main/6.0 alpha
➡️ แนะนำให้อัปเดตทันที หรือหลีกเลี่ยงการใช้ template ที่ไม่ปลอดภัย
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ Django ORM เป็นหนึ่งในจุดแข็งของ framework ที่ช่วยป้องกัน SQL injection ได้ดี แต่ช่องโหว่นี้หลุดจากการตรวจสอบ alias
➡️ การใช้ dictionary ที่มี key จาก user input เป็นความเสี่ยงที่พบได้บ่อยในระบบ dynamic query
➡️ Directory traversal เป็นเทคนิคที่ใช้ path เช่น ../ เพื่อเข้าถึงไฟล์นอกโฟลเดอร์เป้าหมาย
➡️ ช่องโหว่ลักษณะนี้สามารถใช้ร่วมกับ template ที่ฝังมัลแวร์เพื่อโจมตีในขั้นตอน setup
➡️ Django มีระบบแจ้งช่องโหว่ผ่านอีเมล security@djangoproject.com เพื่อให้แก้ไขได้รวดเร็ว
https://securityonline.info/django-security-alert-high-severity-sql-injection-flaw-cve-2025-59681-fixed-in-latest-updates/
0 Comments
0 Shares
112 Views
0 Reviews