“เยอรมนีประกาศแผนเลิกใช้รหัสผ่าน — ดัน ‘Passkey’ เป็นมาตรฐานใหม่ของการยืนยันตัวตน”
รัฐบาลเยอรมนีประกาศแผนเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในระบบความปลอดภัยดิจิทัล โดยเตรียมผลักดันให้ “Passkey” กลายเป็นวิธีการยืนยันตัวตนหลักแทนรหัสผ่านแบบเดิม ซึ่งมักเสี่ยงต่อการถูกขโมย ถูกฟิชชิ่ง และถูกใช้ซ้ำในหลายบัญชี
สำนักงาน BSI (สำนักงานความปลอดภัยสารสนเทศแห่งรัฐบาลกลางเยอรมนี) ได้เผยแพร่ร่างแนวทาง TR-03188 สำหรับการใช้งาน Passkey โดยอธิบายถึงการทำงานของระบบที่ใช้ “กุญแจสาธารณะ” (public key) ที่เก็บไว้ในเว็บไซต์ และ “กุญแจส่วนตัว” (private key) ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ซึ่งจะจับคู่กันเพื่อยืนยันตัวตนโดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่านเลย
Passkey มีสองรูปแบบหลัก:
Device-bound passkey: เก็บไว้ในอุปกรณ์เดียว เช่น โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์
Synced passkey: เก็บไว้ในระบบคลาวด์แบบเข้ารหัส เพื่อให้ใช้งานได้หลายอุปกรณ์
ข้อดีของ Passkey คือไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำในหลายเว็บไซต์ได้ เพราะแต่ละบัญชีจะมี passkey เฉพาะตัว และยังต้านทานการโจมตีแบบ phishing และ man-in-the-middle ได้ดี เพราะผู้โจมตีไม่สามารถเข้าถึงกุญแจส่วนตัวที่อยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้
แม้จะมีศักยภาพสูง แต่การใช้งาน Passkey ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยรายงานในปี 2024 พบว่ามีเพียง 38% ของประชาชนที่รู้จัก Passkey และมีเพียง 18% ที่ใช้งานจริง ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเข้าใจและมาตรฐานร่วมสำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
Microsoft ก็ประกาศในเดือนพฤษภาคม 2025 ว่าจะเปิดให้บัญชีใหม่ทั้งหมดสามารถใช้ Passkey ได้ทันที และจะขยายไปยังบัญชีเดิมในอนาคต
“Passkey” คืออะไร
Passkey คือระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ที่ใช้หลักการของ “กุญแจคู่” (key pair) ซึ่งประกอบด้วย:
Public key: เก็บไว้ในเว็บไซต์หรือบริการออนไลน์
Private key: เก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ เช่น โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์
เมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบ เว็บไซต์จะส่งคำขอไปยังอุปกรณ์เพื่อให้ใช้ private key เซ็นข้อมูล และส่งกลับไปตรวจสอบกับ public key ถ้าตรงกันก็เข้าสู่ระบบได้ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่าน
ข้อดี:
ไม่ต้องจำรหัสผ่าน
ปลอดภัยจาก phishing และการโจมตีแบบดักกลาง
ใช้งานได้หลายอุปกรณ์ (ถ้าใช้แบบ synced passkey)
ไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำในหลายเว็บไซต์
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
รัฐบาลเยอรมนีประกาศแผนผลักดัน Passkey เป็นวิธีการยืนยันตัวตนหลัก
BSI เผยแพร่ร่างแนวทาง TR-03188 สำหรับการใช้งาน Passkey
Passkey ใช้ระบบกุญแจคู่: public key บนเว็บไซต์ และ private key ในอุปกรณ์ผู้ใช้
มีสองรูปแบบ: device-bound และ synced passkey
Passkey ปลอดภัยจาก phishing และ man-in-the-middle attacks
ไม่สามารถใช้ซ้ำในหลายเว็บไซต์ เพิ่มความปลอดภัย
Microsoft ประกาศรองรับ Passkey สำหรับบัญชีใหม่ทั้งหมดในปี 2025
รัฐบาลเยอรมนีต้องการสร้างมาตรฐานร่วมสำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Apple, Google และ Microsoft ร่วมกันผลักดันมาตรฐาน Passkey ผ่าน FIDO Alliance
Passkey สามารถใช้ร่วมกับ biometric เช่น Face ID หรือ fingerprint ได้
ระบบ Passkey ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและไม่ต้องจำข้อมูลใด ๆ
การใช้ Passkey ช่วยลดภาระของฝ่าย IT ในการรีเซ็ตรหัสผ่าน
หลายธนาคารและบริการสุขภาพเริ่มทดลองใช้ Passkey เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
https://www.techradar.com/pro/security/germanys-government-wants-to-replace-passwords-with-passkeys
รัฐบาลเยอรมนีประกาศแผนเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในระบบความปลอดภัยดิจิทัล โดยเตรียมผลักดันให้ “Passkey” กลายเป็นวิธีการยืนยันตัวตนหลักแทนรหัสผ่านแบบเดิม ซึ่งมักเสี่ยงต่อการถูกขโมย ถูกฟิชชิ่ง และถูกใช้ซ้ำในหลายบัญชี
สำนักงาน BSI (สำนักงานความปลอดภัยสารสนเทศแห่งรัฐบาลกลางเยอรมนี) ได้เผยแพร่ร่างแนวทาง TR-03188 สำหรับการใช้งาน Passkey โดยอธิบายถึงการทำงานของระบบที่ใช้ “กุญแจสาธารณะ” (public key) ที่เก็บไว้ในเว็บไซต์ และ “กุญแจส่วนตัว” (private key) ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ซึ่งจะจับคู่กันเพื่อยืนยันตัวตนโดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่านเลย
Passkey มีสองรูปแบบหลัก:
Device-bound passkey: เก็บไว้ในอุปกรณ์เดียว เช่น โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์
Synced passkey: เก็บไว้ในระบบคลาวด์แบบเข้ารหัส เพื่อให้ใช้งานได้หลายอุปกรณ์
ข้อดีของ Passkey คือไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำในหลายเว็บไซต์ได้ เพราะแต่ละบัญชีจะมี passkey เฉพาะตัว และยังต้านทานการโจมตีแบบ phishing และ man-in-the-middle ได้ดี เพราะผู้โจมตีไม่สามารถเข้าถึงกุญแจส่วนตัวที่อยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้
แม้จะมีศักยภาพสูง แต่การใช้งาน Passkey ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยรายงานในปี 2024 พบว่ามีเพียง 38% ของประชาชนที่รู้จัก Passkey และมีเพียง 18% ที่ใช้งานจริง ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเข้าใจและมาตรฐานร่วมสำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
Microsoft ก็ประกาศในเดือนพฤษภาคม 2025 ว่าจะเปิดให้บัญชีใหม่ทั้งหมดสามารถใช้ Passkey ได้ทันที และจะขยายไปยังบัญชีเดิมในอนาคต
“Passkey” คืออะไร
Passkey คือระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ที่ใช้หลักการของ “กุญแจคู่” (key pair) ซึ่งประกอบด้วย:
Public key: เก็บไว้ในเว็บไซต์หรือบริการออนไลน์
Private key: เก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ เช่น โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์
เมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบ เว็บไซต์จะส่งคำขอไปยังอุปกรณ์เพื่อให้ใช้ private key เซ็นข้อมูล และส่งกลับไปตรวจสอบกับ public key ถ้าตรงกันก็เข้าสู่ระบบได้ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่าน
ข้อดี:
ไม่ต้องจำรหัสผ่าน
ปลอดภัยจาก phishing และการโจมตีแบบดักกลาง
ใช้งานได้หลายอุปกรณ์ (ถ้าใช้แบบ synced passkey)
ไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำในหลายเว็บไซต์
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
รัฐบาลเยอรมนีประกาศแผนผลักดัน Passkey เป็นวิธีการยืนยันตัวตนหลัก
BSI เผยแพร่ร่างแนวทาง TR-03188 สำหรับการใช้งาน Passkey
Passkey ใช้ระบบกุญแจคู่: public key บนเว็บไซต์ และ private key ในอุปกรณ์ผู้ใช้
มีสองรูปแบบ: device-bound และ synced passkey
Passkey ปลอดภัยจาก phishing และ man-in-the-middle attacks
ไม่สามารถใช้ซ้ำในหลายเว็บไซต์ เพิ่มความปลอดภัย
Microsoft ประกาศรองรับ Passkey สำหรับบัญชีใหม่ทั้งหมดในปี 2025
รัฐบาลเยอรมนีต้องการสร้างมาตรฐานร่วมสำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Apple, Google และ Microsoft ร่วมกันผลักดันมาตรฐาน Passkey ผ่าน FIDO Alliance
Passkey สามารถใช้ร่วมกับ biometric เช่น Face ID หรือ fingerprint ได้
ระบบ Passkey ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและไม่ต้องจำข้อมูลใด ๆ
การใช้ Passkey ช่วยลดภาระของฝ่าย IT ในการรีเซ็ตรหัสผ่าน
หลายธนาคารและบริการสุขภาพเริ่มทดลองใช้ Passkey เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
https://www.techradar.com/pro/security/germanys-government-wants-to-replace-passwords-with-passkeys
🔐 “เยอรมนีประกาศแผนเลิกใช้รหัสผ่าน — ดัน ‘Passkey’ เป็นมาตรฐานใหม่ของการยืนยันตัวตน”
รัฐบาลเยอรมนีประกาศแผนเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในระบบความปลอดภัยดิจิทัล โดยเตรียมผลักดันให้ “Passkey” กลายเป็นวิธีการยืนยันตัวตนหลักแทนรหัสผ่านแบบเดิม ซึ่งมักเสี่ยงต่อการถูกขโมย ถูกฟิชชิ่ง และถูกใช้ซ้ำในหลายบัญชี
สำนักงาน BSI (สำนักงานความปลอดภัยสารสนเทศแห่งรัฐบาลกลางเยอรมนี) ได้เผยแพร่ร่างแนวทาง TR-03188 สำหรับการใช้งาน Passkey โดยอธิบายถึงการทำงานของระบบที่ใช้ “กุญแจสาธารณะ” (public key) ที่เก็บไว้ในเว็บไซต์ และ “กุญแจส่วนตัว” (private key) ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ซึ่งจะจับคู่กันเพื่อยืนยันตัวตนโดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่านเลย
Passkey มีสองรูปแบบหลัก:
🗝️ Device-bound passkey: เก็บไว้ในอุปกรณ์เดียว เช่น โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์
🗝️ Synced passkey: เก็บไว้ในระบบคลาวด์แบบเข้ารหัส เพื่อให้ใช้งานได้หลายอุปกรณ์
ข้อดีของ Passkey คือไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำในหลายเว็บไซต์ได้ เพราะแต่ละบัญชีจะมี passkey เฉพาะตัว และยังต้านทานการโจมตีแบบ phishing และ man-in-the-middle ได้ดี เพราะผู้โจมตีไม่สามารถเข้าถึงกุญแจส่วนตัวที่อยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้
แม้จะมีศักยภาพสูง แต่การใช้งาน Passkey ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยรายงานในปี 2024 พบว่ามีเพียง 38% ของประชาชนที่รู้จัก Passkey และมีเพียง 18% ที่ใช้งานจริง ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเข้าใจและมาตรฐานร่วมสำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
Microsoft ก็ประกาศในเดือนพฤษภาคม 2025 ว่าจะเปิดให้บัญชีใหม่ทั้งหมดสามารถใช้ Passkey ได้ทันที และจะขยายไปยังบัญชีเดิมในอนาคต
🔏🔑 “Passkey” คืออะไร ⁉️🤔
Passkey คือระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ที่ใช้หลักการของ “กุญแจคู่” (key pair) ซึ่งประกอบด้วย:
🗝️ Public key: เก็บไว้ในเว็บไซต์หรือบริการออนไลน์
🗝️ Private key: เก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ เช่น โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์
เมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบ เว็บไซต์จะส่งคำขอไปยังอุปกรณ์เพื่อให้ใช้ private key เซ็นข้อมูล และส่งกลับไปตรวจสอบกับ public key ถ้าตรงกันก็เข้าสู่ระบบได้ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่าน
ข้อดี:
✔️ ไม่ต้องจำรหัสผ่าน
✔️ ปลอดภัยจาก phishing และการโจมตีแบบดักกลาง
✔️ ใช้งานได้หลายอุปกรณ์ (ถ้าใช้แบบ synced passkey)
✔️ ไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำในหลายเว็บไซต์
✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว
➡️ รัฐบาลเยอรมนีประกาศแผนผลักดัน Passkey เป็นวิธีการยืนยันตัวตนหลัก
➡️ BSI เผยแพร่ร่างแนวทาง TR-03188 สำหรับการใช้งาน Passkey
➡️ Passkey ใช้ระบบกุญแจคู่: public key บนเว็บไซต์ และ private key ในอุปกรณ์ผู้ใช้
➡️ มีสองรูปแบบ: device-bound และ synced passkey
➡️ Passkey ปลอดภัยจาก phishing และ man-in-the-middle attacks
➡️ ไม่สามารถใช้ซ้ำในหลายเว็บไซต์ เพิ่มความปลอดภัย
➡️ Microsoft ประกาศรองรับ Passkey สำหรับบัญชีใหม่ทั้งหมดในปี 2025
➡️ รัฐบาลเยอรมนีต้องการสร้างมาตรฐานร่วมสำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ Apple, Google และ Microsoft ร่วมกันผลักดันมาตรฐาน Passkey ผ่าน FIDO Alliance
➡️ Passkey สามารถใช้ร่วมกับ biometric เช่น Face ID หรือ fingerprint ได้
➡️ ระบบ Passkey ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและไม่ต้องจำข้อมูลใด ๆ
➡️ การใช้ Passkey ช่วยลดภาระของฝ่าย IT ในการรีเซ็ตรหัสผ่าน
➡️ หลายธนาคารและบริการสุขภาพเริ่มทดลองใช้ Passkey เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
https://www.techradar.com/pro/security/germanys-government-wants-to-replace-passwords-with-passkeys
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
154 มุมมอง
0 รีวิว