“ลาก่อน Disqus — เมื่อระบบคอมเมนต์กลายเป็นเครื่องมือโฆษณาและติดตามผู้ใช้โดยไม่รู้ตัว”
Ryan Southgate เจ้าของบล็อกด้านเทคโนโลยีได้ประกาศถอดระบบคอมเมนต์ Disqus ออกจากเว็บไซต์ของเขา หลังจากพบว่าแพลตฟอร์มนี้แสดงโฆษณาที่ “น่ารำคาญและดูหลอกลวง” บนหน้าเว็บของเขา โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้ใช้ระบบบล็อกโฆษณาอย่าง Pi-hole หรือ VPN ที่เชื่อมต่อกลับบ้าน
Disqus เคยเป็นระบบคอมเมนต์ที่ดูสะอาดและทันสมัย แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้โมเดล “ฟรีแต่มีโฆษณา” โดยไม่ได้แจ้งเตือนอย่างชัดเจน โฆษณาที่แสดงกลับมีลักษณะรุกล้ำและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างเห็นได้ชัด เช่น การส่ง request ติดตามจำนวนมากผ่านเบราว์เซอร์ ซึ่ง Ryan ตรวจพบผ่าน Firefox Dev Tools
เขายอมรับว่าในฐานะผู้ใช้ Pi-hole มานาน เขา “ลืมไปแล้วว่าเว็บทั่วไปมีโฆษณาเยอะแค่ไหน” และรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ผู้เยี่ยมชมบล็อกของเขาต้องเผชิญกับประสบการณ์ที่ไม่ปลอดภัยเช่นนั้น
Ryan จึงตัดสินใจลบ Disqus ออกจากเว็บไซต์ทันที พร้อมเปิดรับคำแนะนำจากผู้อ่านเกี่ยวกับระบบคอมเมนต์ทางเลือกที่เคารพความเป็นส่วนตัว เช่น ระบบ self-hosted หรือแบบ open-source ที่ไม่มีการติดตามผู้ใช้
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
Ryan Southgate ถอด Disqus ออกจากบล็อกของเขาในวันที่ 30 กันยายน 2025
เหตุผลหลักคือโฆษณาที่ดูหลอกลวงและระบบติดตามผู้ใช้ที่รุกล้ำ
Disqus เปลี่ยนมาใช้โมเดล “ฟรีแต่มีโฆษณา” โดยไม่ได้แจ้งเตือนชัดเจน
Ryan ใช้ Pi-hole และ VPN เพื่อบล็อกโฆษณา แต่พบปัญหาเมื่อปิดระบบเหล่านี้
Firefox Dev Tools แสดงให้เห็น request ติดตามจำนวนมากจาก Disqus
Ryan ต้องการให้บล็อกของเขาเป็นพื้นที่สะอาด ปลอดโฆษณาและการติดตาม
เปิดรับคำแนะนำเกี่ยวกับระบบคอมเมนต์ทางเลือกที่เคารพความเป็นส่วนตัว
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
ระบบคอมเมนต์ทางเลือกที่เป็นแบบ self-hosted ได้แก่ Isso, Commento, Remark42, Cusdis
Isso เป็นระบบ lightweight ที่เขียนด้วย Python และ JavaScript ไม่มีโฆษณาหรือการติดตาม
Commento เป็นระบบ open-source ที่เน้นความเร็วและความเป็นส่วนตัว
Cusdis มีขนาดเล็ก (~5kb) รองรับ dark mode และสามารถเชื่อมต่อกับ Telegram ได้
Remark42 เป็นระบบคอมเมนต์ที่ไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้และสามารถฝังในเว็บไซต์ได้ง่าย
ระบบอย่าง Giscus และ Utterances ใช้ GitHub Issues/Discussions เป็นฐานข้อมูลคอมเมนต์
https://ryansouthgate.com/goodbye-disqus/
Ryan Southgate เจ้าของบล็อกด้านเทคโนโลยีได้ประกาศถอดระบบคอมเมนต์ Disqus ออกจากเว็บไซต์ของเขา หลังจากพบว่าแพลตฟอร์มนี้แสดงโฆษณาที่ “น่ารำคาญและดูหลอกลวง” บนหน้าเว็บของเขา โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้ใช้ระบบบล็อกโฆษณาอย่าง Pi-hole หรือ VPN ที่เชื่อมต่อกลับบ้าน
Disqus เคยเป็นระบบคอมเมนต์ที่ดูสะอาดและทันสมัย แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้โมเดล “ฟรีแต่มีโฆษณา” โดยไม่ได้แจ้งเตือนอย่างชัดเจน โฆษณาที่แสดงกลับมีลักษณะรุกล้ำและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างเห็นได้ชัด เช่น การส่ง request ติดตามจำนวนมากผ่านเบราว์เซอร์ ซึ่ง Ryan ตรวจพบผ่าน Firefox Dev Tools
เขายอมรับว่าในฐานะผู้ใช้ Pi-hole มานาน เขา “ลืมไปแล้วว่าเว็บทั่วไปมีโฆษณาเยอะแค่ไหน” และรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ผู้เยี่ยมชมบล็อกของเขาต้องเผชิญกับประสบการณ์ที่ไม่ปลอดภัยเช่นนั้น
Ryan จึงตัดสินใจลบ Disqus ออกจากเว็บไซต์ทันที พร้อมเปิดรับคำแนะนำจากผู้อ่านเกี่ยวกับระบบคอมเมนต์ทางเลือกที่เคารพความเป็นส่วนตัว เช่น ระบบ self-hosted หรือแบบ open-source ที่ไม่มีการติดตามผู้ใช้
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
Ryan Southgate ถอด Disqus ออกจากบล็อกของเขาในวันที่ 30 กันยายน 2025
เหตุผลหลักคือโฆษณาที่ดูหลอกลวงและระบบติดตามผู้ใช้ที่รุกล้ำ
Disqus เปลี่ยนมาใช้โมเดล “ฟรีแต่มีโฆษณา” โดยไม่ได้แจ้งเตือนชัดเจน
Ryan ใช้ Pi-hole และ VPN เพื่อบล็อกโฆษณา แต่พบปัญหาเมื่อปิดระบบเหล่านี้
Firefox Dev Tools แสดงให้เห็น request ติดตามจำนวนมากจาก Disqus
Ryan ต้องการให้บล็อกของเขาเป็นพื้นที่สะอาด ปลอดโฆษณาและการติดตาม
เปิดรับคำแนะนำเกี่ยวกับระบบคอมเมนต์ทางเลือกที่เคารพความเป็นส่วนตัว
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
ระบบคอมเมนต์ทางเลือกที่เป็นแบบ self-hosted ได้แก่ Isso, Commento, Remark42, Cusdis
Isso เป็นระบบ lightweight ที่เขียนด้วย Python และ JavaScript ไม่มีโฆษณาหรือการติดตาม
Commento เป็นระบบ open-source ที่เน้นความเร็วและความเป็นส่วนตัว
Cusdis มีขนาดเล็ก (~5kb) รองรับ dark mode และสามารถเชื่อมต่อกับ Telegram ได้
Remark42 เป็นระบบคอมเมนต์ที่ไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้และสามารถฝังในเว็บไซต์ได้ง่าย
ระบบอย่าง Giscus และ Utterances ใช้ GitHub Issues/Discussions เป็นฐานข้อมูลคอมเมนต์
https://ryansouthgate.com/goodbye-disqus/
🧼 “ลาก่อน Disqus — เมื่อระบบคอมเมนต์กลายเป็นเครื่องมือโฆษณาและติดตามผู้ใช้โดยไม่รู้ตัว”
Ryan Southgate เจ้าของบล็อกด้านเทคโนโลยีได้ประกาศถอดระบบคอมเมนต์ Disqus ออกจากเว็บไซต์ของเขา หลังจากพบว่าแพลตฟอร์มนี้แสดงโฆษณาที่ “น่ารำคาญและดูหลอกลวง” บนหน้าเว็บของเขา โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้ใช้ระบบบล็อกโฆษณาอย่าง Pi-hole หรือ VPN ที่เชื่อมต่อกลับบ้าน
Disqus เคยเป็นระบบคอมเมนต์ที่ดูสะอาดและทันสมัย แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้โมเดล “ฟรีแต่มีโฆษณา” โดยไม่ได้แจ้งเตือนอย่างชัดเจน โฆษณาที่แสดงกลับมีลักษณะรุกล้ำและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างเห็นได้ชัด เช่น การส่ง request ติดตามจำนวนมากผ่านเบราว์เซอร์ ซึ่ง Ryan ตรวจพบผ่าน Firefox Dev Tools
เขายอมรับว่าในฐานะผู้ใช้ Pi-hole มานาน เขา “ลืมไปแล้วว่าเว็บทั่วไปมีโฆษณาเยอะแค่ไหน” และรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ผู้เยี่ยมชมบล็อกของเขาต้องเผชิญกับประสบการณ์ที่ไม่ปลอดภัยเช่นนั้น
Ryan จึงตัดสินใจลบ Disqus ออกจากเว็บไซต์ทันที พร้อมเปิดรับคำแนะนำจากผู้อ่านเกี่ยวกับระบบคอมเมนต์ทางเลือกที่เคารพความเป็นส่วนตัว เช่น ระบบ self-hosted หรือแบบ open-source ที่ไม่มีการติดตามผู้ใช้
✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว
➡️ Ryan Southgate ถอด Disqus ออกจากบล็อกของเขาในวันที่ 30 กันยายน 2025
➡️ เหตุผลหลักคือโฆษณาที่ดูหลอกลวงและระบบติดตามผู้ใช้ที่รุกล้ำ
➡️ Disqus เปลี่ยนมาใช้โมเดล “ฟรีแต่มีโฆษณา” โดยไม่ได้แจ้งเตือนชัดเจน
➡️ Ryan ใช้ Pi-hole และ VPN เพื่อบล็อกโฆษณา แต่พบปัญหาเมื่อปิดระบบเหล่านี้
➡️ Firefox Dev Tools แสดงให้เห็น request ติดตามจำนวนมากจาก Disqus
➡️ Ryan ต้องการให้บล็อกของเขาเป็นพื้นที่สะอาด ปลอดโฆษณาและการติดตาม
➡️ เปิดรับคำแนะนำเกี่ยวกับระบบคอมเมนต์ทางเลือกที่เคารพความเป็นส่วนตัว
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ ระบบคอมเมนต์ทางเลือกที่เป็นแบบ self-hosted ได้แก่ Isso, Commento, Remark42, Cusdis
➡️ Isso เป็นระบบ lightweight ที่เขียนด้วย Python และ JavaScript ไม่มีโฆษณาหรือการติดตาม
➡️ Commento เป็นระบบ open-source ที่เน้นความเร็วและความเป็นส่วนตัว
➡️ Cusdis มีขนาดเล็ก (~5kb) รองรับ dark mode และสามารถเชื่อมต่อกับ Telegram ได้
➡️ Remark42 เป็นระบบคอมเมนต์ที่ไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้และสามารถฝังในเว็บไซต์ได้ง่าย
➡️ ระบบอย่าง Giscus และ Utterances ใช้ GitHub Issues/Discussions เป็นฐานข้อมูลคอมเมนต์
https://ryansouthgate.com/goodbye-disqus/
0 Comments
0 Shares
121 Views
0 Reviews