“iPhone 17e: รุ่นประหยัดที่อาจไม่คุ้มค่าการรอ — เมื่อ Apple ตั้งใจให้คุณเลือกตัวแพง”

แม้ iPhone 17 จะเปิดตัวไปแล้ว แต่ยังมีรุ่นหนึ่งที่หลายคนรอคอยคือ iPhone 17e ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2026 โดยเป็นรุ่นประหยัดในซีรีส์เดียวกัน อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจากนักวิเคราะห์ชื่อดัง Mark Gurman และข้อมูลจากหลายแหล่งชี้ว่า iPhone 17e อาจไม่คุ้มค่าการรอเท่าไรนัก

สิ่งที่น่าผิดหวังคือหน้าจอของ iPhone 17e จะยังคงเป็น OLED ขนาด 6.1 นิ้วแบบ 60Hz ซึ่งต่างจาก iPhone 17 ที่ใช้ 120Hz ทำให้การแสดงผลไม่ลื่นไหลเท่ารุ่นหลัก แม้จะมีการปรับดีไซน์ให้ใช้ Dynamic Island แทน notch แบบเดิม แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ระดับสูง

กล้องหลังยังคงเป็นเลนส์เดียว 48MP เช่นเดียวกับ iPhone 16e และอาจไม่มีฟีเจอร์อย่าง MagSafe หรือ Camera Control ที่มีในรุ่นหลัก ส่วนกล้องหน้าอาจอัปเกรดเป็น 18MP แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด

ด้านชิปเซ็ต iPhone 17e จะใช้ A19 เช่นเดียวกับ iPhone 17 แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นรุ่น “binned” ที่มี GPU น้อยกว่า ซึ่งเป็นแนวทางที่ Apple เคยใช้กับ iPhone 16e มาก่อน ส่วนโมเด็มอาจใช้ C1X ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานกว่าเดิม

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า Apple ตั้งใจสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นประหยัดกับรุ่นหลักให้ชัดเจนขึ้น เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้เลือกซื้อรุ่นแพงมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคเริ่มมองหาความคุ้มค่าและฟีเจอร์ที่ครบถ้วน

ข้อมูลสำคัญจากข่าว
iPhone 17e คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2026
ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว แบบ 60Hz ต่างจาก iPhone 17 ที่ใช้ 120Hz
ดีไซน์ใหม่ใช้ Dynamic Island แทน notch แบบเดิม
กล้องหลังยังคงเป็นเลนส์เดียว 48MP เช่นเดียวกับ iPhone 16e
กล้องหน้าอาจอัปเกรดเป็น 18MP จากเดิม 12MP
ใช้ชิป A19 เหมือน iPhone 17 แต่คาดว่าจะมี GPU น้อยกว่า
โมเด็มอาจใช้ C1X ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานกว่า C1
ไม่มีฟีเจอร์ MagSafe และ Camera Control เพื่อแยกรุ่นประหยัดออกจากรุ่นหลัก

ข้อมูลเสริมจากภายนอก
A19 เป็นชิปที่รองรับการประมวลผล AI และการใช้งานระยะยาวได้ดี
Dynamic Island เริ่มใช้ใน iPhone 14 Pro และขยายสู่รุ่นทั่วไปใน iPhone 15
C1X โมเด็มใหม่มีความเร็วสูงขึ้น 2 เท่า และใช้พลังงานน้อยลง 30%
Apple เคยใช้ชิปรุ่น “binned” ใน iPhone SE และรุ่น “e” เพื่อควบคุมต้นทุน
iPhone 17 มีหน้าจอ 6.3 นิ้ว และกล้องคู่ ทำให้แตกต่างจากรุ่น 17e อย่างชัดเจน

https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-17e-might-not-be-worth-waiting-for-heres-why
📱 “iPhone 17e: รุ่นประหยัดที่อาจไม่คุ้มค่าการรอ — เมื่อ Apple ตั้งใจให้คุณเลือกตัวแพง” แม้ iPhone 17 จะเปิดตัวไปแล้ว แต่ยังมีรุ่นหนึ่งที่หลายคนรอคอยคือ iPhone 17e ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2026 โดยเป็นรุ่นประหยัดในซีรีส์เดียวกัน อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจากนักวิเคราะห์ชื่อดัง Mark Gurman และข้อมูลจากหลายแหล่งชี้ว่า iPhone 17e อาจไม่คุ้มค่าการรอเท่าไรนัก สิ่งที่น่าผิดหวังคือหน้าจอของ iPhone 17e จะยังคงเป็น OLED ขนาด 6.1 นิ้วแบบ 60Hz ซึ่งต่างจาก iPhone 17 ที่ใช้ 120Hz ทำให้การแสดงผลไม่ลื่นไหลเท่ารุ่นหลัก แม้จะมีการปรับดีไซน์ให้ใช้ Dynamic Island แทน notch แบบเดิม แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ระดับสูง กล้องหลังยังคงเป็นเลนส์เดียว 48MP เช่นเดียวกับ iPhone 16e และอาจไม่มีฟีเจอร์อย่าง MagSafe หรือ Camera Control ที่มีในรุ่นหลัก ส่วนกล้องหน้าอาจอัปเกรดเป็น 18MP แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด ด้านชิปเซ็ต iPhone 17e จะใช้ A19 เช่นเดียวกับ iPhone 17 แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นรุ่น “binned” ที่มี GPU น้อยกว่า ซึ่งเป็นแนวทางที่ Apple เคยใช้กับ iPhone 16e มาก่อน ส่วนโมเด็มอาจใช้ C1X ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานกว่าเดิม ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า Apple ตั้งใจสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นประหยัดกับรุ่นหลักให้ชัดเจนขึ้น เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้เลือกซื้อรุ่นแพงมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคเริ่มมองหาความคุ้มค่าและฟีเจอร์ที่ครบถ้วน ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ iPhone 17e คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2026 ➡️ ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว แบบ 60Hz ต่างจาก iPhone 17 ที่ใช้ 120Hz ➡️ ดีไซน์ใหม่ใช้ Dynamic Island แทน notch แบบเดิม ➡️ กล้องหลังยังคงเป็นเลนส์เดียว 48MP เช่นเดียวกับ iPhone 16e ➡️ กล้องหน้าอาจอัปเกรดเป็น 18MP จากเดิม 12MP ➡️ ใช้ชิป A19 เหมือน iPhone 17 แต่คาดว่าจะมี GPU น้อยกว่า ➡️ โมเด็มอาจใช้ C1X ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานกว่า C1 ➡️ ไม่มีฟีเจอร์ MagSafe และ Camera Control เพื่อแยกรุ่นประหยัดออกจากรุ่นหลัก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ A19 เป็นชิปที่รองรับการประมวลผล AI และการใช้งานระยะยาวได้ดี ➡️ Dynamic Island เริ่มใช้ใน iPhone 14 Pro และขยายสู่รุ่นทั่วไปใน iPhone 15 ➡️ C1X โมเด็มใหม่มีความเร็วสูงขึ้น 2 เท่า และใช้พลังงานน้อยลง 30% ➡️ Apple เคยใช้ชิปรุ่น “binned” ใน iPhone SE และรุ่น “e” เพื่อควบคุมต้นทุน ➡️ iPhone 17 มีหน้าจอ 6.3 นิ้ว และกล้องคู่ ทำให้แตกต่างจากรุ่น 17e อย่างชัดเจน https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-17e-might-not-be-worth-waiting-for-heres-why
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว