“Cloudflare ป้องกัน DDoS ขนาด 22.2 Tbps ได้สำเร็จ — โลกไซเบอร์เข้าสู่ยุค ‘โจมตีระดับมหึมา’ ที่ต้องพึ่ง AI ป้องกันแบบเรียลไทม์”

ในเดือนกันยายน 2025 Cloudflare ได้ประกาศว่าได้ป้องกันการโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial-of-Service) ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยการโจมตีครั้งนี้มีขนาดถึง 22.2 Tbps และ 10.6 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที ซึ่งมากกว่าการโจมตีครั้งก่อนหน้าถึงสองเท่า และกินเวลาทั้งหมดเพียง 40 วินาทีเท่านั้น

แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ปริมาณข้อมูลที่ถูกส่งมานั้นเทียบเท่ากับการสตรีมวิดีโอ 4K จำนวนหนึ่งล้านรายการพร้อมกัน หรือการรีเฟรชหน้าเว็บจากทุกคนบนโลกพร้อมกัน 1.3 ครั้งต่อวินาที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและความเร็วของการโจมตีในยุคใหม่

Cloudflare ระบุว่าการป้องกันครั้งนี้ดำเนินการโดยระบบอัตโนมัติทั้งหมด โดยไม่ต้องอาศัยการตอบสนองจากมนุษย์เลย ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการใช้ AI และระบบ machine learning ในการป้องกันภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในระดับ “machine speed”

การโจมตีครั้งนี้ถูกระบุว่าเป็นการโจมตีแบบ “UDP carpet bomb” ที่มุ่งเป้าไปยัง IP เดียว โดยใช้พอร์ตเฉลี่ย 31,000 พอร์ตต่อวินาที และสูงสุดถึง 47,000 พอร์ต โดยมีแหล่งที่มาจากกว่า 404,000 IP ทั่วโลก ซึ่งไม่ใช่การปลอมแปลง IP แต่เป็นการใช้ botnet จริงที่ชื่อว่า AISURU

AISURU เป็น botnet ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ IoT ที่ถูกแฮก เช่น เราเตอร์, กล้อง IP, DVR และ NVR โดยมีการแพร่กระจายผ่านช่องโหว่ในเฟิร์มแวร์ของผู้ผลิตหลายราย เช่น Totolink, D-Link, Zyxel และ Realtek

ข้อมูลสำคัญจากข่าว
Cloudflare ป้องกันการโจมตี DDoS ขนาด 22.2 Tbps และ 10.6 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที
การโจมตีใช้เวลาเพียง 40 วินาที แต่มีปริมาณข้อมูลมหาศาล
ระบบของ Cloudflare ตรวจจับและป้องกันโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้มนุษย์
เป็นการโจมตีแบบ UDP carpet bomb targeting IP เดียว
ใช้พอร์ตเฉลี่ย 31,000 พอร์ตต่อวินาที สูงสุด 47,000 พอร์ต
แหล่งที่มาจากกว่า 404,000 IP ที่ไม่ถูกปลอมแปลง
Botnet ที่ใช้คือ AISURU ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์ IoT ที่ถูกแฮก
AISURU แพร่ผ่านช่องโหว่ในเฟิร์มแวร์ของ Totolink, Realtek, D-Link, Zyxel และอื่น ๆ
Cloudflare เคยป้องกันการโจมตีขนาด 11.5 Tbps และ 7.3 Tbps ก่อนหน้านี้ในปีเดียวกัน

ข้อมูลเสริมจากภายนอก
DDoS แบบ “hit-and-run” คือการโจมตีระยะสั้นแต่รุนแรง เพื่อหลบหลีกการตอบสนอง
ระบบ legacy scrubbing center ไม่สามารถรับมือกับการโจมตีระดับนี้ได้ทัน
การใช้ AI และ machine learning เป็นแนวทางใหม่ในการป้องกันภัยไซเบอร์
Botnet ที่ใช้ IoT เป็นฐานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มักมีระบบความปลอดภัยต่ำ
AISURU เคยถูกใช้โจมตีแพลตฟอร์มเกม Black Myth: Wukong และขายบริการผ่าน Telegram

https://hackread.com/cloudflare-blocks-22-2-tbps-ddos-attack/
🌐 “Cloudflare ป้องกัน DDoS ขนาด 22.2 Tbps ได้สำเร็จ — โลกไซเบอร์เข้าสู่ยุค ‘โจมตีระดับมหึมา’ ที่ต้องพึ่ง AI ป้องกันแบบเรียลไทม์” ในเดือนกันยายน 2025 Cloudflare ได้ประกาศว่าได้ป้องกันการโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial-of-Service) ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยการโจมตีครั้งนี้มีขนาดถึง 22.2 Tbps และ 10.6 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที ซึ่งมากกว่าการโจมตีครั้งก่อนหน้าถึงสองเท่า และกินเวลาทั้งหมดเพียง 40 วินาทีเท่านั้น แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ปริมาณข้อมูลที่ถูกส่งมานั้นเทียบเท่ากับการสตรีมวิดีโอ 4K จำนวนหนึ่งล้านรายการพร้อมกัน หรือการรีเฟรชหน้าเว็บจากทุกคนบนโลกพร้อมกัน 1.3 ครั้งต่อวินาที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและความเร็วของการโจมตีในยุคใหม่ Cloudflare ระบุว่าการป้องกันครั้งนี้ดำเนินการโดยระบบอัตโนมัติทั้งหมด โดยไม่ต้องอาศัยการตอบสนองจากมนุษย์เลย ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการใช้ AI และระบบ machine learning ในการป้องกันภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในระดับ “machine speed” การโจมตีครั้งนี้ถูกระบุว่าเป็นการโจมตีแบบ “UDP carpet bomb” ที่มุ่งเป้าไปยัง IP เดียว โดยใช้พอร์ตเฉลี่ย 31,000 พอร์ตต่อวินาที และสูงสุดถึง 47,000 พอร์ต โดยมีแหล่งที่มาจากกว่า 404,000 IP ทั่วโลก ซึ่งไม่ใช่การปลอมแปลง IP แต่เป็นการใช้ botnet จริงที่ชื่อว่า AISURU AISURU เป็น botnet ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ IoT ที่ถูกแฮก เช่น เราเตอร์, กล้อง IP, DVR และ NVR โดยมีการแพร่กระจายผ่านช่องโหว่ในเฟิร์มแวร์ของผู้ผลิตหลายราย เช่น Totolink, D-Link, Zyxel และ Realtek ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Cloudflare ป้องกันการโจมตี DDoS ขนาด 22.2 Tbps และ 10.6 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที ➡️ การโจมตีใช้เวลาเพียง 40 วินาที แต่มีปริมาณข้อมูลมหาศาล ➡️ ระบบของ Cloudflare ตรวจจับและป้องกันโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้มนุษย์ ➡️ เป็นการโจมตีแบบ UDP carpet bomb targeting IP เดียว ➡️ ใช้พอร์ตเฉลี่ย 31,000 พอร์ตต่อวินาที สูงสุด 47,000 พอร์ต ➡️ แหล่งที่มาจากกว่า 404,000 IP ที่ไม่ถูกปลอมแปลง ➡️ Botnet ที่ใช้คือ AISURU ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์ IoT ที่ถูกแฮก ➡️ AISURU แพร่ผ่านช่องโหว่ในเฟิร์มแวร์ของ Totolink, Realtek, D-Link, Zyxel และอื่น ๆ ➡️ Cloudflare เคยป้องกันการโจมตีขนาด 11.5 Tbps และ 7.3 Tbps ก่อนหน้านี้ในปีเดียวกัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ DDoS แบบ “hit-and-run” คือการโจมตีระยะสั้นแต่รุนแรง เพื่อหลบหลีกการตอบสนอง ➡️ ระบบ legacy scrubbing center ไม่สามารถรับมือกับการโจมตีระดับนี้ได้ทัน ➡️ การใช้ AI และ machine learning เป็นแนวทางใหม่ในการป้องกันภัยไซเบอร์ ➡️ Botnet ที่ใช้ IoT เป็นฐานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มักมีระบบความปลอดภัยต่ำ ➡️ AISURU เคยถูกใช้โจมตีแพลตฟอร์มเกม Black Myth: Wukong และขายบริการผ่าน Telegram https://hackread.com/cloudflare-blocks-22-2-tbps-ddos-attack/
HACKREAD.COM
Cloudflare Blocks Record 22.2 Tbps DDoS Attack
Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews