iPhone Air: บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยทำ แต่กลับซ่อมง่ายกว่าที่คิด — เมื่อดีไซน์บางไม่จำเป็นต้องแลกกับความเปราะ

iFixit ได้ทำการแกะเครื่อง iPhone Air ซึ่งเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยผลิตมา ด้วยความหนาเพียง 5.64 มม. หลายคนคาดว่าความบางจะทำให้ซ่อมยาก เปราะ และเต็มไปด้วยกาว แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม — Apple ใช้ดีไซน์ที่ชาญฉลาดเพื่อให้ซ่อมง่ายขึ้น และยังคงความแข็งแรงไว้ได้อย่างน่าทึ่ง

หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือการย้าย logic board ไปอยู่ด้านบนของแบตเตอรี่ ทำให้เกิด “disassembly tree” แบบแบน — หมายถึงการถอดชิ้นส่วนไม่ต้องผ่านหลายชั้น ลดความเสี่ยงในการทำชิ้นส่วนอื่นเสียหาย และทำให้การเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือจอภาพง่ายขึ้น

แบตเตอรี่ของ iPhone Air มีขนาด 12.26 Wh ซึ่งเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ Apple ใช้เทคนิคการจัดการพลังงานเพื่อให้ใช้งานได้ตลอดวัน และที่สำคัญคือแบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายมาก ด้วยแถบกาวที่ “ปลดออกด้วยไฟฟ้า” เพียงต่อไฟ 12V ก็สามารถยกแบตออกได้โดยไม่ต้องงัดหรือเสี่ยงต่อการเสียหาย

อีกจุดที่น่าสนใจคือพอร์ต USB-C ที่ Apple ใช้เทคนิคการพิมพ์โลหะ 3D ด้วยไทเทเนียม ซึ่งช่วยลดขนาดและน้ำหนักของโครงสร้างโดยรวม แม้จะยังไม่มีอะไหล่ขายจาก Apple แต่พอร์ตนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ และมีแนวโน้มว่าอะไหล่จากผู้ผลิตภายนอกจะตามมาในไม่ช้า

แม้จะมีจุดอ่อนบางจุด เช่น บริเวณพลาสติกที่ใช้เป็นช่องสัญญาณ ซึ่งอาจเป็นจุดที่เปราะเมื่อไม่มีชิ้นส่วนภายใน แต่โดยรวมแล้ว iPhone Air ได้คะแนนซ่อมง่ายถึง 7/10 จาก iFixit และถือเป็นตัวอย่างของการออกแบบที่บางแต่ไม่ทิ้งความสามารถในการซ่อม

iPhone Air เป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมี
ความหนาเพียง 5.64 มม. บางกว่ารุ่น Galaxy S25 Edge
ใช้ดีไซน์ใหม่ที่ย้าย logic board ไปด้านบนแบตเตอรี่

โครงสร้างภายในออกแบบให้ซ่อมง่าย
“disassembly tree” แบบแบน ลดความเสี่ยงในการถอด
ไม่ต้องผ่านหลายชั้นเพื่อเปลี่ยนแบตหรือจอ

แบตเตอรี่ถอดง่ายด้วยกาวปลดด้วยไฟฟ้า
ใช้ไฟ 12V เพื่อปลดแถบกาวภายใน ~70 วินาที
เป็นแบตชนิดเดียวกับ MagSafe Battery Pack

พอร์ต USB-C ใช้เทคโนโลยีพิมพ์โลหะ 3D
ใช้ไทเทเนียมพิมพ์แบบ binder jetting
ลดวัสดุได้ถึง 33% และยังคงความแข็งแรง

ได้คะแนนซ่อมง่าย 7/10 จาก iFixit
มีคู่มือซ่อมตั้งแต่วันแรก
ชิ้นส่วนหลักสามารถเข้าถึงได้ง่าย

https://www.ifixit.com/News/113171/iphone-air-teardown
📰 iPhone Air: บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยทำ แต่กลับซ่อมง่ายกว่าที่คิด — เมื่อดีไซน์บางไม่จำเป็นต้องแลกกับความเปราะ iFixit ได้ทำการแกะเครื่อง iPhone Air ซึ่งเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยผลิตมา ด้วยความหนาเพียง 5.64 มม. หลายคนคาดว่าความบางจะทำให้ซ่อมยาก เปราะ และเต็มไปด้วยกาว แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม — Apple ใช้ดีไซน์ที่ชาญฉลาดเพื่อให้ซ่อมง่ายขึ้น และยังคงความแข็งแรงไว้ได้อย่างน่าทึ่ง หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือการย้าย logic board ไปอยู่ด้านบนของแบตเตอรี่ ทำให้เกิด “disassembly tree” แบบแบน — หมายถึงการถอดชิ้นส่วนไม่ต้องผ่านหลายชั้น ลดความเสี่ยงในการทำชิ้นส่วนอื่นเสียหาย และทำให้การเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือจอภาพง่ายขึ้น แบตเตอรี่ของ iPhone Air มีขนาด 12.26 Wh ซึ่งเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ Apple ใช้เทคนิคการจัดการพลังงานเพื่อให้ใช้งานได้ตลอดวัน และที่สำคัญคือแบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายมาก ด้วยแถบกาวที่ “ปลดออกด้วยไฟฟ้า” เพียงต่อไฟ 12V ก็สามารถยกแบตออกได้โดยไม่ต้องงัดหรือเสี่ยงต่อการเสียหาย อีกจุดที่น่าสนใจคือพอร์ต USB-C ที่ Apple ใช้เทคนิคการพิมพ์โลหะ 3D ด้วยไทเทเนียม ซึ่งช่วยลดขนาดและน้ำหนักของโครงสร้างโดยรวม แม้จะยังไม่มีอะไหล่ขายจาก Apple แต่พอร์ตนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ และมีแนวโน้มว่าอะไหล่จากผู้ผลิตภายนอกจะตามมาในไม่ช้า แม้จะมีจุดอ่อนบางจุด เช่น บริเวณพลาสติกที่ใช้เป็นช่องสัญญาณ ซึ่งอาจเป็นจุดที่เปราะเมื่อไม่มีชิ้นส่วนภายใน แต่โดยรวมแล้ว iPhone Air ได้คะแนนซ่อมง่ายถึง 7/10 จาก iFixit และถือเป็นตัวอย่างของการออกแบบที่บางแต่ไม่ทิ้งความสามารถในการซ่อม ✅ iPhone Air เป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมี ➡️ ความหนาเพียง 5.64 มม. บางกว่ารุ่น Galaxy S25 Edge ➡️ ใช้ดีไซน์ใหม่ที่ย้าย logic board ไปด้านบนแบตเตอรี่ ✅ โครงสร้างภายในออกแบบให้ซ่อมง่าย ➡️ “disassembly tree” แบบแบน ลดความเสี่ยงในการถอด ➡️ ไม่ต้องผ่านหลายชั้นเพื่อเปลี่ยนแบตหรือจอ ✅ แบตเตอรี่ถอดง่ายด้วยกาวปลดด้วยไฟฟ้า ➡️ ใช้ไฟ 12V เพื่อปลดแถบกาวภายใน ~70 วินาที ➡️ เป็นแบตชนิดเดียวกับ MagSafe Battery Pack ✅ พอร์ต USB-C ใช้เทคโนโลยีพิมพ์โลหะ 3D ➡️ ใช้ไทเทเนียมพิมพ์แบบ binder jetting ➡️ ลดวัสดุได้ถึง 33% และยังคงความแข็งแรง ✅ ได้คะแนนซ่อมง่าย 7/10 จาก iFixit ➡️ มีคู่มือซ่อมตั้งแต่วันแรก ➡️ ชิ้นส่วนหลักสามารถเข้าถึงได้ง่าย https://www.ifixit.com/News/113171/iphone-air-teardown
WWW.IFIXIT.COM
Apple’s Thinnest iPhone Still Stands Up to Repairs
To be honest, we were holding our breath for the iPhone Air. Thinner usually means flimsier, harder to fix, and more glued-down parts. But the iPhone Air proves otherwise. Apple has somehow built its…
0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews