“Obsidian ใช้หลัก ‘Less is safer’ ลดความเสี่ยงจาก Supply Chain Attack — เมื่อการเขียนเองปลอดภัยกว่าการพึ่งพา”

Obsidian แอปจดบันทึกยอดนิยมที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ได้เปิดเผยแนวทางการออกแบบซอฟต์แวร์ที่มุ่งลดความเสี่ยงจาก Supply Chain Attack ซึ่งเป็นการโจมตีผ่านการแฝงโค้ดอันตรายในไลบรารีโอเพ่นซอร์สที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์โจมตี npm ครั้งใหญ่เมื่อเดือนกันยายน 2025 ที่มีแพ็กเกจยอดนิยมกว่า 27 ตัวถูกฝังมัลแวร์2

Obsidian เลือกใช้แนวทาง “Less is safer” โดยลดการพึ่งพาโค้ดจากภายนอกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฟีเจอร์หลักอย่าง Canvas และ Bases ถูกเขียนขึ้นใหม่ทั้งหมดแทนการใช้ไลบรารีสำเร็จรูป ส่วนฟังก์ชันขนาดเล็กจะถูกเขียนเองในโค้ดของทีม และโมดูลขนาดกลางจะถูก fork และเก็บไว้ในระบบหากใบอนุญาตอนุญาตให้ทำได้

สำหรับไลบรารีขนาดใหญ่ เช่น pdf.js, Mermaid และ MathJax จะใช้เวอร์ชันที่ผ่านการตรวจสอบแล้วและล็อกไว้แบบแน่นอน (version pinning) พร้อม lockfile ที่เป็นแหล่งอ้างอิงหลักในการ build เพื่อให้การติดตั้งมีความแน่นอนและตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย

Obsidian ยังหลีกเลี่ยงการใช้ postinstall script ซึ่งเป็นช่องทางที่มัลแวร์มักใช้ในการแฝงตัว และมีระบบตรวจสอบการอัปเดตที่ละเอียด เช่น อ่าน changelog ทีละบรรทัด ตรวจสอบ sub-dependencies และรันเทสต์ทั้งอัตโนมัติและด้วยมือก่อน commit lockfile ใหม่

นอกจากนี้ยังมีการเว้นช่วงระหว่างการอัปเดตและการปล่อยเวอร์ชันจริง เพื่อให้ชุมชนและนักวิจัยด้านความปลอดภัยมีเวลาตรวจสอบ หากมีเวอร์ชันที่เป็นอันตรายถูกปล่อยออกมา จะสามารถตรวจพบได้ก่อนที่ Obsidian จะนำมาใช้งานจริง

ข้อมูลสำคัญจากข่าว
Obsidian ใช้แนวทาง “Less is safer” เพื่อลดความเสี่ยงจาก Supply Chain Attack
ฟีเจอร์หลักถูกเขียนขึ้นใหม่แทนการใช้ไลบรารีสำเร็จรูป
ใช้ version pinning และ lockfile เพื่อควบคุมเวอร์ชันของ dependencies
หลีกเลี่ยงการใช้ postinstall script เพื่อป้องกันการรันโค้ดอันตราย

กระบวนการอัปเดตที่ปลอดภัย
อ่าน changelog ทีละบรรทัดและตรวจสอบ sub-dependencies ก่อนอัปเดต
รันเทสต์ทั้งอัตโนมัติและด้วยมือก่อน commit lockfile ใหม่
เว้นช่วงระหว่างการอัปเดตและการปล่อยเวอร์ชันจริงเพื่อให้มีเวลาเฝ้าระวัง
ใช้เฉพาะ dependencies ที่จำเป็นจริง ๆ และไม่อัปเดตบ่อย

ข้อมูลเสริมจากภายนอก
เหตุการณ์โจมตี npm ล่าสุดมีแพ็กเกจยอดนิยมกว่า 27 ตัวถูกฝังมัลแวร์
มัลแวร์ใน npm ใช้เทคนิค obfuscation และแฝงตัวใน browser API เพื่อขโมยข้อมูล
การโจมตีผ่าน supply chain มักเกิดจาก human error เช่น การคลิกลิงก์ phishing โดย maintainer
การใช้ lockfile และการตรวจสอบ sub-dependencies เป็นแนวทางที่องค์กรควรนำไปใช้

https://obsidian.md/blog/less-is-safer/
🛡️ “Obsidian ใช้หลัก ‘Less is safer’ ลดความเสี่ยงจาก Supply Chain Attack — เมื่อการเขียนเองปลอดภัยกว่าการพึ่งพา” Obsidian แอปจดบันทึกยอดนิยมที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ได้เปิดเผยแนวทางการออกแบบซอฟต์แวร์ที่มุ่งลดความเสี่ยงจาก Supply Chain Attack ซึ่งเป็นการโจมตีผ่านการแฝงโค้ดอันตรายในไลบรารีโอเพ่นซอร์สที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์โจมตี npm ครั้งใหญ่เมื่อเดือนกันยายน 2025 ที่มีแพ็กเกจยอดนิยมกว่า 27 ตัวถูกฝังมัลแวร์2 Obsidian เลือกใช้แนวทาง “Less is safer” โดยลดการพึ่งพาโค้ดจากภายนอกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฟีเจอร์หลักอย่าง Canvas และ Bases ถูกเขียนขึ้นใหม่ทั้งหมดแทนการใช้ไลบรารีสำเร็จรูป ส่วนฟังก์ชันขนาดเล็กจะถูกเขียนเองในโค้ดของทีม และโมดูลขนาดกลางจะถูก fork และเก็บไว้ในระบบหากใบอนุญาตอนุญาตให้ทำได้ สำหรับไลบรารีขนาดใหญ่ เช่น pdf.js, Mermaid และ MathJax จะใช้เวอร์ชันที่ผ่านการตรวจสอบแล้วและล็อกไว้แบบแน่นอน (version pinning) พร้อม lockfile ที่เป็นแหล่งอ้างอิงหลักในการ build เพื่อให้การติดตั้งมีความแน่นอนและตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย Obsidian ยังหลีกเลี่ยงการใช้ postinstall script ซึ่งเป็นช่องทางที่มัลแวร์มักใช้ในการแฝงตัว และมีระบบตรวจสอบการอัปเดตที่ละเอียด เช่น อ่าน changelog ทีละบรรทัด ตรวจสอบ sub-dependencies และรันเทสต์ทั้งอัตโนมัติและด้วยมือก่อน commit lockfile ใหม่ นอกจากนี้ยังมีการเว้นช่วงระหว่างการอัปเดตและการปล่อยเวอร์ชันจริง เพื่อให้ชุมชนและนักวิจัยด้านความปลอดภัยมีเวลาตรวจสอบ หากมีเวอร์ชันที่เป็นอันตรายถูกปล่อยออกมา จะสามารถตรวจพบได้ก่อนที่ Obsidian จะนำมาใช้งานจริง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Obsidian ใช้แนวทาง “Less is safer” เพื่อลดความเสี่ยงจาก Supply Chain Attack ➡️ ฟีเจอร์หลักถูกเขียนขึ้นใหม่แทนการใช้ไลบรารีสำเร็จรูป ➡️ ใช้ version pinning และ lockfile เพื่อควบคุมเวอร์ชันของ dependencies ➡️ หลีกเลี่ยงการใช้ postinstall script เพื่อป้องกันการรันโค้ดอันตราย ✅ กระบวนการอัปเดตที่ปลอดภัย ➡️ อ่าน changelog ทีละบรรทัดและตรวจสอบ sub-dependencies ก่อนอัปเดต ➡️ รันเทสต์ทั้งอัตโนมัติและด้วยมือก่อน commit lockfile ใหม่ ➡️ เว้นช่วงระหว่างการอัปเดตและการปล่อยเวอร์ชันจริงเพื่อให้มีเวลาเฝ้าระวัง ➡️ ใช้เฉพาะ dependencies ที่จำเป็นจริง ๆ และไม่อัปเดตบ่อย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เหตุการณ์โจมตี npm ล่าสุดมีแพ็กเกจยอดนิยมกว่า 27 ตัวถูกฝังมัลแวร์ ➡️ มัลแวร์ใน npm ใช้เทคนิค obfuscation และแฝงตัวใน browser API เพื่อขโมยข้อมูล ➡️ การโจมตีผ่าน supply chain มักเกิดจาก human error เช่น การคลิกลิงก์ phishing โดย maintainer ➡️ การใช้ lockfile และการตรวจสอบ sub-dependencies เป็นแนวทางที่องค์กรควรนำไปใช้ https://obsidian.md/blog/less-is-safer/
OBSIDIAN.MD
Less is safer: how Obsidian reduces the risk of supply chain attacks
Supply chain attacks are malicious updates that sneak into open source code used by many apps. Here’s how we design Obsidian to ensure that the app is a secure and private environment for your thoughts.
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว