Windscribe เปิดตัวฟีเจอร์ Anti-Fingerprinting — ปิดช่องโหว่การติดตามที่แม้แต่ VPN ก็เอาไม่อยู่
ในยุคที่การติดตามผู้ใช้งานออนไลน์ไม่ได้พึ่งพาแค่คุกกี้อีกต่อไป Windscribe ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome และ Edge ที่ชื่อว่า “Anti-Fingerprinting” ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันการติดตามแบบ fingerprinting — เทคนิคที่เว็บไซต์ใช้รวบรวมข้อมูลจากเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ของคุณเพื่อสร้าง “ลายนิ้วดิจิทัล” ที่ไม่ซ้ำใคร
ต่างจากการลบคุกกี้หรือใช้โหมดไม่ระบุตัวตน (Incognito) ซึ่งไม่สามารถหยุด fingerprinting ได้ ฟีเจอร์นี้จะ “ปลอมแปลง” ข้อมูลเช่น ระบบปฏิบัติการ, ฟอนต์, ความละเอียดหน้าจอ, เวลา, ภาษาระบบ และแม้แต่การเรนเดอร์ WebGL เพื่อให้ fingerprint ของคุณเปลี่ยนไปทุกครั้งที่ใช้งาน ทำให้ผู้ติดตามไม่สามารถเชื่อมโยงพฤติกรรมของคุณจากหลายเว็บไซต์เข้าด้วยกันได้
ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงินของ Windscribe และทำงานร่วมกับฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การบล็อกโฆษณา, ป้องกัน WebRTC leak, และการปลอมแปลงตำแหน่ง GPS ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถท่องเว็บได้อย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น
การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Google ประกาศในต้นปี 2025 ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ใช้ fingerprinting ได้มากขึ้น ซึ่งทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานตกอยู่ในความเสี่ยงมากกว่าเดิม
Windscribe เปิดตัวฟีเจอร์ Anti-Fingerprinting ในส่วนขยายเบราว์เซอร์
ใช้ได้ทั้งใน Chrome และ Edge
มีให้ในทั้งแผนฟรีและแบบเสียเงิน
ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการติดตามแบบ fingerprinting
ปลอมแปลงข้อมูลเช่น OS, ฟอนต์, เวลา, ภาษาระบบ, WebGL
เปลี่ยน fingerprint ทุกครั้งที่ใช้งานเพื่อป้องกันการเชื่อมโยงข้อมูล
ทำงานร่วมกับฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ ของ Windscribe
บล็อกโฆษณาและตัวติดตาม
ป้องกัน WebRTC leak และปลอมแปลงตำแหน่ง GPS
Fingerprinting เป็นวิธีติดตามที่ล้ำหน้ากว่าคุกกี้
ใช้ JavaScript และ HTML5 APIs เพื่อรวบรวมข้อมูล
สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ไม่ต้องพึ่งคุกกี้
Google อนุญาตให้เว็บไซต์ใช้ fingerprinting มากขึ้นในปี 2025
เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกติดตามโดยไม่มีการแจ้งเตือน
ทำให้ฟีเจอร์ Anti-Fingerprinting มีความสำคัญมากขึ้น
https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/disappear-online-windscribes-chrome-and-edge-vpn-extensions-get-a-privacy-upgrade
ในยุคที่การติดตามผู้ใช้งานออนไลน์ไม่ได้พึ่งพาแค่คุกกี้อีกต่อไป Windscribe ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome และ Edge ที่ชื่อว่า “Anti-Fingerprinting” ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันการติดตามแบบ fingerprinting — เทคนิคที่เว็บไซต์ใช้รวบรวมข้อมูลจากเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ของคุณเพื่อสร้าง “ลายนิ้วดิจิทัล” ที่ไม่ซ้ำใคร
ต่างจากการลบคุกกี้หรือใช้โหมดไม่ระบุตัวตน (Incognito) ซึ่งไม่สามารถหยุด fingerprinting ได้ ฟีเจอร์นี้จะ “ปลอมแปลง” ข้อมูลเช่น ระบบปฏิบัติการ, ฟอนต์, ความละเอียดหน้าจอ, เวลา, ภาษาระบบ และแม้แต่การเรนเดอร์ WebGL เพื่อให้ fingerprint ของคุณเปลี่ยนไปทุกครั้งที่ใช้งาน ทำให้ผู้ติดตามไม่สามารถเชื่อมโยงพฤติกรรมของคุณจากหลายเว็บไซต์เข้าด้วยกันได้
ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงินของ Windscribe และทำงานร่วมกับฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การบล็อกโฆษณา, ป้องกัน WebRTC leak, และการปลอมแปลงตำแหน่ง GPS ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถท่องเว็บได้อย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น
การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Google ประกาศในต้นปี 2025 ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ใช้ fingerprinting ได้มากขึ้น ซึ่งทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานตกอยู่ในความเสี่ยงมากกว่าเดิม
Windscribe เปิดตัวฟีเจอร์ Anti-Fingerprinting ในส่วนขยายเบราว์เซอร์
ใช้ได้ทั้งใน Chrome และ Edge
มีให้ในทั้งแผนฟรีและแบบเสียเงิน
ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการติดตามแบบ fingerprinting
ปลอมแปลงข้อมูลเช่น OS, ฟอนต์, เวลา, ภาษาระบบ, WebGL
เปลี่ยน fingerprint ทุกครั้งที่ใช้งานเพื่อป้องกันการเชื่อมโยงข้อมูล
ทำงานร่วมกับฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ ของ Windscribe
บล็อกโฆษณาและตัวติดตาม
ป้องกัน WebRTC leak และปลอมแปลงตำแหน่ง GPS
Fingerprinting เป็นวิธีติดตามที่ล้ำหน้ากว่าคุกกี้
ใช้ JavaScript และ HTML5 APIs เพื่อรวบรวมข้อมูล
สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ไม่ต้องพึ่งคุกกี้
Google อนุญาตให้เว็บไซต์ใช้ fingerprinting มากขึ้นในปี 2025
เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกติดตามโดยไม่มีการแจ้งเตือน
ทำให้ฟีเจอร์ Anti-Fingerprinting มีความสำคัญมากขึ้น
https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/disappear-online-windscribes-chrome-and-edge-vpn-extensions-get-a-privacy-upgrade
📰 Windscribe เปิดตัวฟีเจอร์ Anti-Fingerprinting — ปิดช่องโหว่การติดตามที่แม้แต่ VPN ก็เอาไม่อยู่
ในยุคที่การติดตามผู้ใช้งานออนไลน์ไม่ได้พึ่งพาแค่คุกกี้อีกต่อไป Windscribe ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome และ Edge ที่ชื่อว่า “Anti-Fingerprinting” ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันการติดตามแบบ fingerprinting — เทคนิคที่เว็บไซต์ใช้รวบรวมข้อมูลจากเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ของคุณเพื่อสร้าง “ลายนิ้วดิจิทัล” ที่ไม่ซ้ำใคร
ต่างจากการลบคุกกี้หรือใช้โหมดไม่ระบุตัวตน (Incognito) ซึ่งไม่สามารถหยุด fingerprinting ได้ ฟีเจอร์นี้จะ “ปลอมแปลง” ข้อมูลเช่น ระบบปฏิบัติการ, ฟอนต์, ความละเอียดหน้าจอ, เวลา, ภาษาระบบ และแม้แต่การเรนเดอร์ WebGL เพื่อให้ fingerprint ของคุณเปลี่ยนไปทุกครั้งที่ใช้งาน ทำให้ผู้ติดตามไม่สามารถเชื่อมโยงพฤติกรรมของคุณจากหลายเว็บไซต์เข้าด้วยกันได้
ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงินของ Windscribe และทำงานร่วมกับฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การบล็อกโฆษณา, ป้องกัน WebRTC leak, และการปลอมแปลงตำแหน่ง GPS ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถท่องเว็บได้อย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น
การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Google ประกาศในต้นปี 2025 ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ใช้ fingerprinting ได้มากขึ้น ซึ่งทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานตกอยู่ในความเสี่ยงมากกว่าเดิม
✅ Windscribe เปิดตัวฟีเจอร์ Anti-Fingerprinting ในส่วนขยายเบราว์เซอร์
➡️ ใช้ได้ทั้งใน Chrome และ Edge
➡️ มีให้ในทั้งแผนฟรีและแบบเสียเงิน
✅ ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการติดตามแบบ fingerprinting
➡️ ปลอมแปลงข้อมูลเช่น OS, ฟอนต์, เวลา, ภาษาระบบ, WebGL
➡️ เปลี่ยน fingerprint ทุกครั้งที่ใช้งานเพื่อป้องกันการเชื่อมโยงข้อมูล
✅ ทำงานร่วมกับฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ ของ Windscribe
➡️ บล็อกโฆษณาและตัวติดตาม
➡️ ป้องกัน WebRTC leak และปลอมแปลงตำแหน่ง GPS
✅ Fingerprinting เป็นวิธีติดตามที่ล้ำหน้ากว่าคุกกี้
➡️ ใช้ JavaScript และ HTML5 APIs เพื่อรวบรวมข้อมูล
➡️ สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ไม่ต้องพึ่งคุกกี้
✅ Google อนุญาตให้เว็บไซต์ใช้ fingerprinting มากขึ้นในปี 2025
➡️ เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกติดตามโดยไม่มีการแจ้งเตือน
➡️ ทำให้ฟีเจอร์ Anti-Fingerprinting มีความสำคัญมากขึ้น
https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/disappear-online-windscribes-chrome-and-edge-vpn-extensions-get-a-privacy-upgrade
0 Comments
0 Shares
45 Views
0 Reviews